ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
คืบหน้ากรณีศาลาท่าน้ำวัดซางตาครู้ส แขวงวัดกัลยา เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ในย่านกุฎีจีน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งตกเป็นข่าวดังเมื่อเดือนธันวาคม 2558 เนื่องจากถูกเครนขนาดใหญ่ของบริษัทอิตาเลียนไทยดิเวลอปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) ดึงหลังคาและโครงสร้างจนทรุดเอียง ระหว่างเทปูนซีเมนต์เพื่อก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วม (อ่านข่าว ชุมชนกุฎีจีนโวย! เครนปัด ศาลาวัดซางตาครู้สพัง แจ้งกรมศิลป์ช่วยตรวจสอบด่วน)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ศาลาดังกล่าวได้รับการบูรณะโดยบริษัทดังกล่าว อยู่ในสภาพใกล้เสร็จสมบูรณ์ ทั้งส่วนของโครงสร้าง และหลังคาซึ่งมีการนำกระเบื้องในโทนสีแบบเดียวกับของเดิมมาปูจนครบ รวมถึงไม้ฉลุและส่วนอื่นๆ ถูกนำมาประกอบไว้ดังเดิม
นาง นุศรา โกนานนท์ อายุ 75 ปี ชาวกุฎีจีน กล่าวว่า ศาลาดังกล่าวเริ่มมีการซ่อมแซมเมื่อไม่นานมานี้ โดยขณะนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งตนคาดหวังว่าจะเสร็จทันงานฉลองวัดซางตาครู้สในวันที่18 กันยายน ที่จะถึงนี้ เพราะเป็นศาลาเก่าแก่ที่มีความสวยงามอยู่คู่กับวัดและชุมชนมาอย่างยาวนาน จึงอยากให้งานดังกล่าวมีภาพของศาลาและวัดที่สวยงามคู่กัน ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่ทางบริษัทดังกล่าวรับผิดชอบ โดยซ่อมแซมอย่างดี ใกล้เคียงของเดิมอย่างมาก
ทั้งนี้ ศาลาดังกล่าวมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของชุมชนอย่างมาก เนื่องจากงนี้อยู่บริเวณท่าน้ำหลักของวัดซึ่งในอดีตชาวบ้านใช้ขึ้นลง เพื่อสัญจร ทั้งยังตั้งอยู่ตรงกับประตูโบสถ์วัดซางตาครู้ส สันนิษฐานว่าศาลานี้มีอายุมากกว่า100 ปี โดยน่าจะสร้างในยุคเดียวกับตัวโบสถ์ ซึ่งสร้างเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 6 ประมาณปี 2453 ตัวศาลาเป็นทรงวิคตอเรียนเเบบขนมปังขิง มีมุข 4 ด้าน (อ่านข่าว ชาวบ้านเล่านาทีระทึก! เครนเกี่ยวศาลาวัดซางตาครู้สพัง อธิบดีกรมศิลป์สั่งตรวจสอบด่วน)