| ที่มา | มติชนออนไลน์ |
|---|
สืบเนื่องกรณี นายทนงศักดิ์ หาญวงษ์ นักวิชาการอิสระเปิดเผยว่า มีการพบภาพถ่ายของทับหลังชิ้นหนึ่งในเวปไซต์ของพิพิธภัณฑ์ Asian Art Museum Chong-Moon Lee Center for Asian Art and Culture เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเมื่อพิจารณาจากรูปแบบและลวดลาย รวมถึงรายละเอียดต่างๆ พบว่าตรงกับทับหลังที่สูญหายไปจากปราสาทหนองหงส์ อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ มีหลักฐานคือภาพถ่ายเก่าขาวดำจากการสำรวจโดยนายมานิต วัลลิโภดม ระหว่าง พ.ศ. 2503-2504 คาดว่าน่าจะถูกนำออกนอกประเทศในช่วงเดียวกับทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ จากปราสาทพนมรุ้ง คือราว พ.ศ. 2508 เป็นต้นไป โดยระบุว่าตนต้องขอทวงคืนทับหลังดังกล่าวจาก สหรัฐ เช่นเดียวกับที่จะขอทวงคืนโพธิสัตว์ประโคนชัย เนื่องจากเป็นหลักฐานที่อยู่ร่วมเหตุการณ์การลักลอบนำโบราณวัตถุออกนอก ประเทศจากปราสาทปลายบัด ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำและปราสาทหินพิมาย ด้วย (อ่านข่าว ด่วน! พบทับหลังที่สูญหายโผล่พิพิธภัณฑ์ในสหรัฐ นักวิชาการยันตรงกับภาพเก่า50 ปีก่อน คาดออกนอกปท.พร้อมทับหลังนารายณ์ฯ)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเผยแพร่ภาพแผ่นป้ายขนาดใหญ่ มีข้อความเชิญชวนร่วมพิธี “บวงสรวงปราสาทหนองหงส์” ในวันที่ 23 ส.ค. และยังปรากฏข้อความว่า “ชาวโนนดินแดง ขอทวงคืนสมบัติชาติ”
นายทนงศักดิ์ หาญวงษ์ นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า ในงานดังกล่าว ตนจะร่วมแถลงข่าวด้วย เนื่องจากได้รับเชิญจากทางท้องถิ่น ได้แก่ นายกเทศมนตรี ร่วมกับอำเภอโนนดินแดง ซึ่งตนจะกล่าวในประเด็นข้อมูลทางวิชาการเป็นหลัก
“งานบวงสรวงปราสาทโดนดินแดง ปกติมีการจัดเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว แต่ปีนี้มีความพิเศษตรงที่เพิ่งมีการค้นพบทับหลังที่หายไปว่าอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางท้องถิ่นอยากทวงคืนสมบัติชาติกลับมา ข้อมูลที่เตรียมกล่าวในงาน เกี่ยวกับความเป็นมาของปราสาทหนองหงส์ ร่องรอยหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ รูปแบบของทับหลัง และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง” นายทนงศักดิ์กล่าว
นายสมชัย กอชัยศิริกุล นายกเทสมนตรีตำบลโนนดินแดง กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกันภายในท้องถิ่นมีความเห็นตรงกันว่าต้องทวงคืนสมบัติของชาติกลับคืนมา โดยในเบื้องต้นได้มีการนำข้อมูลทางวิชาการซึ่งได้ขอความอนุเคราะห์ข้อมูลมาจากกรมศิลปากรจัดแสดงเป็นนิทรรศการให้ชาวบ้านที่มาร่วมงานบวงสรวงได้อ่านและชมภาพ เพราะแทบไม่มีใครรู้ว่าที่นี่เคยมีทับหลัง เมื่อทราบแล้ว จะมีการรวมพลังสำหรับขั้นตอนต่อไปคือการล่ารายชื่อเพื่อยื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมศิลปากรในการดำเนินการให้โบราณวัตถุดังกล่าวคืนมายังถิ่นกำเนิดต่อไป คาดว่าอย่างน้อยต้องได้กว่าหมื่นรายชื่ออย่างแน่นอน
นายประยงค์ วงศ์ประโคน ชาวอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีบทบาทเคลื่อนไหวและสนับสนุนแนวคิดทวงคืน “โพธิสัตว์ประโคนชัย” ระบุว่าหลังเห็นป้ายดังกล่าวแล้ว ตนรู้สึกอิจฉาคนอำเภอโนนดินแดง เพราะเมื่องมีข่าวทับหลังปราสาทหนองหงส์ไม่นาย ทางท้องถิ่นก็มีการขึ้นป้าน “ทวงคืน” แล้ว ต่างจากประติมากรรมสัมฤทธิ์จากปราสาทปลายบัด
“สื่อโซเชียลก็ออก ข่าวทีวีก็ออก หนังสือพิมพ์ก็ลง ฝรั่งก็ระบุว่าได้มาจากไหน แต่ทำไมหน่วยงานในท้องที่บ้านเรา ไม่ทำอะไรกันเลย มันน้อยใจก็ตรงนี้” นายประยงค์กล่าว
