Hell or High Water ไม่ใช่แค่หนังไล่ล่าโจรปล้นธนาคารธรรมดาๆ

Hell or High Water ไม่ใช่แค่หนังไล่ล่าโจรปล้นธนาคารธรรมดาๆ

Hell or High Water ไม่ใช่แค่หนังไล่ล่าโจรปล้นธนาคารธรรมดาๆ

ปรกติไม่ชอบหนังที่มีกลิ่นไอแนว Western แบบนี้ แต่หนังเรื่องนี่มีความน่าสนใจหลายประการ

ดาราหลักที่แสดงในหนังเรื่องนี้น่าสนใจทุกคน คริส ไพน์ เราคุ้นตาเขาในบท กัปตันเจทส์ ที เคิร์ดจาก Star Trek และหนังแนวแอคชั่นแบบ Jack Ryan: Shadow Recruit สำหรับเรื่องนี้ คริส เล่นบทที่ออกแนวดราม่าเป็น โทบี้ พ่อม่ายที่รักลูกและทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีอนาคต แม้กระทั่งการปล้นธนาคาร ทั้งๆ ที่ไม่มีประสบการณ์ โดยชักชวนพี่ชายขี้คุก แทนเนอร์ (เบน ฟอสเตอร์) เข้าร่วมปล้น ภายใต้กริยาที่เหมือนไม่เอาไหน ไม่ยี่หระต่อความดีความชั่ว แทนเนอร์รักโทบี้ แม้จะบอกว่า การปล้นธนาคารนั้น “ไม่เคยมีใครหนีรอดไปได้” แต่ก็ทำเพราะ “นายขอร้องไง ไอ้น้องชาย”

ดาราที่รับบทนายอำเภอใกล้เกษียณ มาร์คัส ที่ตามไล่ล่าโจรอย่างไม่ลดละ ได้ เจฟฟ์ บริดเจส เจ้าของรางวัลออสการ์จากเรื่อง Crazy Heart มาเป็นผู้แสดง มาร์คัสแสดงให้เห็นว่า ถึงเขาจะแก่แต่ก็เก๋าด้วยประสบการณ์ และความคิดที่ลุ่มลึกจนเดาทางของนักปล้นสองพี่น้องได้ถูก เป็นคนเกษียณที่ไม่นั่งรอวันเกษียณแต่มุ่งสร้างผลงานให้ปรากฏ

ดาราคนสุดท้ายที่ไม่ดังและไม่มีบทเด่น แต่เพิ่มสีสันให้หนังเรื่องนี้ได้แก่ กิล เบอร์มิงแฮม รับบท อัลเบอร์โต คู่หูนายอำเภอ ที่โดนมาร์คัสเสียดสีและหยอกล้อเรื่องเชื้อชาติตลอดเวลา ว่าเป็นลูกครึ่งอินเดียแดง มีคำพูดที่ย้อนนายอำเภอแก่ปากจัดได้อย่างคมคาย “บรรพบุรุษของผม อยู่ในดินแดนแห่งนี้มาก่อน แล้วก็ถูกคนขาวอย่างคุณปล้นยึดไป แต่ปัจจุบันคนพวกนั้น (หมายถึงนายทุนธนาคาร) ก็กำลังปล้นพวกคุณอยู่” อัลเบอร์โต มีส่วนสำคัญที่ทำให้มาร์คัสมุ่งมั่นที่จะกำจัดโจรปล้นธนาคารให้เด็ดขาด ภายใต้คำพูดที่เชือดเฉือนอัลเบอร์โต มาร์คัสมีความผูกพันธ์กับอัลเบอร์โตเกินกว่าใครจะคาดคิด

Advertisement

หนังเรื่องนี้เข้าฉายประกวดสาย Un Certain Regard ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานศ์ ครั้งที่ 69 ปี 2016 ไม่แปลกเมื่อรู้ว่าผู้เขียนบทคือ เทย์เลอร์ เชอริแดน ที่เขียนหนังเข้าชิงรางวัลออสการ์เรื่อง Sicario

ชื่อหนังน่าสนใจ Hell or High Water มาจากสำนวน Come hell or high water ที่แปลว่า “ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม” ในที่นี้น่าจะหมายความได้ทั้งสองอย่าง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม โทบี้และแทนเนอร์ก็จะปล้นธนาคารเพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ ไม่ให้ธนาคารยึดที่ดินของเขา หรืออาจจะหมายไปถึง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มาร์คัสก็จะตามไล่ล่าโจรอย่างไม่หวั่นกับอะไรทั้งสิ้น

แม้จะเป็นหนังตามล่าโจรปล้นธนาคาร แต่แทบจะไม่มีฉากการไล่ล่าที่เห็นในหนังแอคชั่นล่าโจรทั่วๆ ไป หนังดำเนินแบบเนิบๆ บรรยากาศไม่รื่นรมย์ สะท้อนภาพความจนและความแร้นแค้นของชีวิตเกษตรกรในเมืองเล็กๆ ที่มีแต่ป้ายโฆษณาขายบ้านหรือป้ายปล่อยเงินกู้เต็มไปหมด แม้จะมีการปล้นธนาคารต่อหน้าต่อตา แต่ชาวบ้านไม่สนใจ นายอำเภอถามว่า “อยู่ตรงนี้มานานหรือยัง” คำตอบสะใจมาก “นานพอที่จะเห็นธนาคารที่โกงฉันมา 30 ปีนั่น ถูกปล้น”

Advertisement

หนังเสนอมุมมองให้คนดูสองมุมมอง มุมหนึ่งเกษตรกรไร้อนาคตที่ไม่มีทางออก จนต้องหาเงินใช้หนี้ธนาคารด้วยการปล้นธนาคาร เขาเป็นคนเลวในสายตาผู้ถือกฎหมาย แม้ว่าเขาจะถูกนายทุนเอารัดเอาเปรียบ และเป็นคนดีที่รักพี่น้องและครอบครัว

อีกมุมหนึ่งคือผู้ถือกฎหมายที่มุ่งมั่นจะปราบโจรปล้นธนาคารให้ราบคาบ สำหรับเขาการปล้นธนาคารคือการก่ออาชญากรรม ซึ่งต้องปราบปรามและกำจัด

บทสนทนาในหนังเรื่องนี้ คมและน่าประทับใจหลายตอน ในช่วงท้ายเรื่อง มาร์คัสถามโทบี้ว่าทำไมโทบี้ถึงปล้นธนาคารทั้งๆ ที่โทบี้ไม่ได้ใช้เงินที่ปล้น และทั้งๆ ที่รายได้จากน้ำมันที่ขุดได้ในที่ดินของโทบี้ มากกว่าเงินที่ได้จากการปล้นธนาคารเสียอีก คำตอบของโทบี้กินใจผู้วิจารณ์มาก ตอบว่าอะไร ไปชมกันเอาเอง

จากความคิดที่ว่าหนังเรื่องนี้เรียบเอื่อยๆ เป็นความประทับใจที่ว่า รู้แล้วล่ะว่า ทำไมหนังเรื่องนี้ถึงได้รับเสียงชื่นชมอย่างท่วมท้นในเทศกาลเมืองคานส์ และคริส ไพน์ ก็มีฝีมือมากกว่าที่แสดงในหนังเรื่อง Star Trek

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image