ผู้เขียน | สุรีย์ประภา |
---|
Pride & Prejudice & Zombies
สงสัยจริงๆ ว่าถ้า เจน ออสเตน ยังมีชีวิตอยู่ เธอจะรู้สึกอย่างไรที่วรรณกรรมคลาสสิกของเธอ ถูกนำมาปู้ยี่ปู้ยำโดย เซธ เกรแฮม สมิธ นักเขียนผู้มีจินตนาการหลุดโลก ที่นิยมนำนิยายคลาสสิกรุ่นเก่า มาเพิ่มสีสันแบบออกแนวสยองขวัญ ก่อนหน้านี้เราได้ดูหนัง Abraham Lincoln : Vampire Hunter ซึ่งเป็นหนังที่สร้างจากนิยายดัดแปลงของสมิธมาแล้ว
คราวนี้มาถึงเรื่อง Pride & Prejudice วรรณกรรมรักโรแมนติกของเจน ออสเตน ที่สมิธเพิ่มเติมเรื่องการเกิดโรคระบาดจนคนตายแล้วฟื้นขึ้นมาเป็นซอมบี้ใส่เข้าไป สาวสวยแสนสุภาพมารยาทงามทั้งห้านางของตระกูลเบนเนทตามเนื้อเรื่องเดิม ก็ถูกส่งไปฝึกวิทยายุทธ์ที่วัดเส้าหลิน ประเทศจีน เพื่อป้องกันตัวเองและกลับมาต่อสู้กับซอมบี้ ที่กระจายไปทั่วชนบทรอบกรุงลอนดอน หนังสือดัดแปลงเล่มนี้ตีพิมพ์เมื่อปี 2009 ความดังของหนังสือทำให้เรื่องนี้ถูกนำมาสร้างเป็นหนังคอมเมดี้แนวสยองขวัญผลงานกำกับของ เบอร์ สเทียร์ส
เนื้อเรื่องหลักของหนังยังคงยึดแนวเดิม ตระกูลเบนเนทมีลูกสาวสวยห้าคนที่คุณแม่ (คุณนายเบนเนท) กระตือรือร้นที่จะหาสามีให้ เมื่อมิสเตอร์บิงลีย์ (ดักลาส บูธ) หนุ่มหล่อรวยเดินทางมายังชนบทที่ครอบครัวเบนเนทอาศัยอยู่ คุณนายเบนเนทจึงนำเสนอลูกสาวทั้งห้า แผนของคุณนายทำท่าจะสำเร็จ เพราะบิงลีย์เกิดปิ๊งกับเจน (เบลลา ฮีธโคท) ลูกสาวคนโต แต่ถูกขัดขวางจากมิสเตอร์ดาร์ซี (แซม ไรลีย์) หนุ่มหยิ่งตระกูลดีมือสังหารซอมบี้ที่เป็นเพื่อนสนิทของบิงลีย์ ทั้งๆ ที่ดาร์ซีเองก็แอบสนใจ อลิซาเบธ (ลิลลี เจมส์) ลูกสาวคนที่สองของตระกูลนี้ อุปสรรคความรักของทั้งคู่นอกจากเกิดจากอารมณ์อคติหยิ่งผยองแล้ว ยังเกิดจากฝูงซอมบี้ที่แพร่พันธ์อย่างรวดเร็ว และคอยรังควานไล่ล่าฆ่ามนุษย์
ซอมบี้ในหนังเรื่องนี้ แทนที่จะน่ากลัว กลับออกแนวขันๆ มีบางฉากพอให้สะดุ้งและตื่นเต้นบ้าง ตัวซอมบี้ในหนังน่าดูเพราะเสื้อผ้าอาภรณ์หรูหราเหมือนมนุษย์ บางตัวเหมือนคนปกติทุกอย่าง บางตัวมีหน้าบางซีกบางท่อนเท่านั้นที่เป็นซอมบี้ ฉากเปิดตัวพระเอกแซม ไรลีย์ เท่ ขึงขัง แถมมีทีเด็ดค้นหาซอมบี้โดยใช้แมลงวัน ทำยังไงไปดูเอง มาดหนุ่มหยิ่งยะโสอวดดี แซม ไรลีย์ แสดงได้ดีกว่าเมื่อเขารับบทหนุ่มอีกาในหนัง Malificent ส่วนลิลลี่ เจมส์ในบทอลิซาเบธสาวสวยมีสมอง ก็ดูสตรอง เฉียบ ท่ายกขาขึ้นตั้งฉากเสียบมีดสั้นที่ขาอ่อนของเธอน่าดูมาก ลีลาการต่อสู้ก็คล่องแคล่วทะมัดทะแมง สีผมที่เปลี่ยนเป็นสีดำต่างจากผมสีทองตอนรับบทซินเดอเรลล่ากับการแต่งกายที่ออกโทนสีเข้ม ทำให้ลิลลี่ เจมส์ ดูเป็นสาวแกร่งเก่งและเฉลียวฉลาด ต่างจากบทซินเดอเรลล่าที่ดูอ้อแอ้ชอบกล
หนังเรื่องนี้องค์ประกอบศิลปะและโปรดักชั่นสวย สถานที่ เสื้อผ้าอาภรณ์สอดคล้องกับเนื้อหาของเรื่อง โทนสีหนังสลัวอึมครึม เข้ากับบรรยากาศอังกฤษในสมัยศตวรรษที่สิบเก้า เป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ
Dirty Grandpa
แค่ชื่อหนังภาษาอังกฤษ ภาษาไทย โปสเตอร์และหนังโฆษณาก็สื่อให้รู้แล้วว่า หนังเรื่องนี้จะออกมาในแนวไหน ฉะนั้น คนเรียบร้อยไม่ต้องไปดูให้เสียอารมณ์ ทั้งเนื้อหา ภาษาและภาพที่สื่อออกมา ทะลึ่ง ลามกและหยาบโลนสุดขีด พูดเรื่องเซ็กซ์และยาเสพติดอย่างโจ๋งครึ่ม เห็นจุ๊ดจู๋แบบกระจ่างแจ้งสายตาจนผงะ (ช่างกล้า ได้ถึงขนาด) โดยส่วนตัวไม่นิยมหนังแบบนี้ แต่ยอมรับว่ามุขบางมุขทั้งบ้าทั้งขำสุดสุด จนต้องหัวเราะออกมา
ปู่ดิก ปู่ที่เพิ่งเสียภริยาและหลอกล่อหลานชายให้ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงก่อนการแต่งงาน แสดงโดย โรเบิร์ต เดอนีโร บทแบบนี้ดารามืออาชีพระดับสองรางวัลออสการ์แสดงได้อย่างชิล..ชิล เป็นคุณปู่ที่ทั้งซ่าส์ทั้งแสบ จนลืมภาพสุภาพบุรุษแสนดีในหนังเรื่องล่าสุด The Intern ไปเลย ในเรื่องนี้คุณปู่สุดแซ่บพาคุณหลาน เจสัน เคลลี (แซค เอฟรอน) ทนายหนุ่มผู้ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง และอยู่ในความโอบอุ้มของพ่อเคร่งครัดเจ้าระเบียบ กระโจนออกจากคอกอย่างชนิดกู่ไม่กลับ ช่วงแรกคนดูอาจนึกว่าพฤติกรรมสุดแสบนี้ เกิดจากความเก็บกดที่ต้องทำตัวดีเมื่ออยู่กับย่า พอได้โอกาสจึงปล่อยแก่ ความจริงเป้าหมายของปู่ลึกซึ้งกว่านั้น เขาต้องการเติมเต็มชีวิตหลานให้ค้นหาความต้องการที่แท้จริงของชีวิตตัวเอง
แซค เอฟรอน ได้รับรางวัล Best Shirtless Performance จาก MTV Awards ติดกันสองปีซ้อน (2014,2015) ฉากเปลือยโดยมีตุ๊กตารูปร่างตลกห้อยต่องแต่งปิดไว้นิดเดียว เป็นฉากที่ทั้งน่าขัน และเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ได้ ไม่ใช่แค่โชว์หุ่นที่ฟิตและเฟิร์มเท่านั้น แซคยังโชว์เสียงร้องเพลงที่ไพเราะ จนทำให้นึกถึงหนังของดิสนีย์เรื่อง High School Musical (2006) ที่แซคแสดงและโด่งดังจากบทที่ทั้งร้องทั้งเต้นอย่างยอดเยี่ยมในหนังเรื่องนั้น
ผู้กำกับหนังเรื่องนี้คือ แดน เมเซอร์ ซึ่งเคยกำกับหนังรักโรแมนติก I Give It A Year เมื่อพลิกมากำกับ หนังตลกทะลึ่งสุดห่ามแบบ Dirty Grandpa เขาก็สามารถนำเสนอมุขตลกที่ทั้งป่วน ทั้งโป๊ได้อย่างให้อารมณ์ขัน เป็นหนังตลกลามกแนวแกล้งคน (ปู่แกล้งหลาน) ที่ดูแล้วอารมณ์ดี แหวกกระแสหนังออสการ์ในช่วงนี้ ถ้าอยากหัวเราะพักสมอง หรือดูหนังบ้าๆ บอๆ ที่ไม่ต้องคิดมาก ขอแนะนำเรื่องนี้ หนังเรตอาร์ของหนุ่มต่างวัยที่อายุเป็นเพียงตัวเลข
สังคมไทยกับสังคมอเมริกันไม่เหมือนกัน การมั่วเซ็กซ์และปาร์ตี้ยาสุดโต่งแบบในหนัง ไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมไทย แต่ความรักความเป็นห่วงใยคนในครอบครัวเกิดได้ทุกสังคม แม้รูปแบบการแสดงออกจะไม่เหมือนกัน ดูหนังเรื่องนี้แล้ว คนเป็นพ่อเป็นแม่อาจคิดได้ว่า เส้นทางที่ตนกำหนดให้ลูกนั้น แท้จริงไม่ใช่สิ่งที่ลูกต้องการ ความสุขในชีวิตของคนคนหนึ่งควรจะเกิดจากการที่เขาได้เลือกทางเดินชีวิตของตนเอง