“พรจากฟ้า” เนื้อหาดี-นักแสดงเก่ง-เพลงพระราชนิพนธ์แสนไพเราะ

"พรจากฟ้า" เนื้อหาดี-นักแสดงเก่ง-เพลงพระราชนิพนธ์แสนไพเราะ

“พรจากฟ้า” เนื้อหาดี-นักแสดงเก่ง-เพลงพระราชนิพนธ์แสนไพเราะ

“พรจากฟ้า” เป็นหนังจากค่าย GDH ที่มีเนื้อหาดี นักแสดงเล่นเก่ง มีเพลงพระราชนิพนธ์ที่แสนจะไพเราะเป็นหัวใจของเรื่องถึงสามเพลง รายได้บริจาคเพื่อการกุศล (หักค่าใช้จ่ายแล้วมอบให้มูลนิธิชัยพัฒนา) แถมราคาตั๋วเก้าสิบเก้าบาททุกที่นั่ง

หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังเฉพาะกิจ หรือสร้างขึ้นเพื่อโหนกระแส GDH มีโปรเจ็กท์สร้างหนังเกี่ยวกับเพลงพระราชนิพนธ์ตั้งแต่ต้นปี 2559 หนังถ่ายทำเสร็จก่อนเดือนตุลาคม และวางแผนจะฉายปลายปี เพื่อเป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แก่ผู้ชม หนังสร้างโดยได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และใช้เพลงของพระองค์ท่านเป็นส่วนประกอบสำคัญ

พรจากฟ้าเป็นหนังรักโรแมนติกคอมเมดี แบ่งออกเป็นสามตอน ทั้งสามตอนมีตัวละครที่เชื่อมโยงกันและส่งผลถึงกันและกัน เช่น ตัวเอกในภาคที่สองไปปรากฏตัวเป็นตัวประกอบภาคที่หนึ่ง และตัวเอกในภาคที่หนึ่งไปเป็นตัวประกอบในภาคที่สาม หนังทั้งสามตอนนี้ถูกนำมาร้อยเรียงให้อยู่ในเรื่องใหญ่เรื่องเดียวกัน

ธีมหลักของหนังคือเพลงพระราชนิพนธ์ ดังนั้นผู้กำกับหนังเรื่องนี้ต้องเป็นคนที่รักดนตรี และสามารถคัดเลือกเพลงพระราชนิพนธ์มาตีความให้เหมาะกับเนื้อหา เพื่อทำให้คนดูอิ่มเอมใจ มีความสุข และประทับใจในพระอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระองค์

Advertisement

ภาคแรกได้ ชยนพ บุญประกอบและเกรียงไกร วชิรธรรมพร มาเป็นผู้กำกับ ทั้งสองเลือกเพลงพระราชนิพนธ์ “ยามเย็น” ส่วนพระนางของเรื่องคือ วี วิโอเล็ต วอเทียร์ (รับบทเป็นแป้ง) และนาย ณภัทร เสียงสมบุญ (แสดงเป็นบีม)

หนังรักเรื่องนี้เกิดขึ้นในวันเดียว ระหว่างแป้งสาวสวยที่เพิ่งอกหัก ที่ถูกจับให้มาเป็น stand-in ภริยาท่านทูต คู่กับบีมที่เป็น stand-in ท่านทูต เพลงที่คัดเลือกมาคือยามเย็น ที่ร้องในสไตล์ Acapella ไพเราะ เก๋ เท่ แปลกตา ต่างจากแบบเดิมๆ ที่เคยเห็น บทรับส่งของดาราทั้งสองกุ๊กกิ๊กน่ารัก วีร้องเพลงเพราะ ในขณะที่นายดูเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ สถานที่ถ่ายทำหนังหรูและโก้มาก ทำให้ภาพที่ออกมาสวย และชวนประทับใจ

ภาคสอง ผู้กำกับคือ นิธิวัฒน์ ธราธร เลือกเพลง “Still on my mind” มาตีความในแนวดนตรีบำบัด ฟา (มิว นิษฐา จิรยั่งยืน) ลาออกจากงานเพื่อดูแลพ่อที่ป่วยเป็นอัลไซล์เมอร์ พ่อจำอะไรไม่ค่อยได้ และมักคิดว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่ พ่อจะมีความสุขมากเวลาฟาเล่นเปียโน โดยเฉพาะเมื่อเล่นเพลง Still on my mind ซึ่งเป็นเพลงความหลังของพ่อและแม่ เอ (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) ช่างจูนเปียโน เป็นผู้คอยให้กำลังใจและทำให้ฟาก้าวผ่านความเครียดและความกดดันที่เผชิญอยู่ได้

เรื่องนี้มิวต้องหัดเล่นเปียโนเพื่อให้การแสดงสมจริง ส่วนซันนีเล่นดนตรีเป็นอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่เปียโน ทั้งสองเล่นเปียโนด้วยกัน ไม่ได้เล่นเก่ง แต่ก็ไพเราะพอสมควร เพลงพระราชนิพนธ์ส่วนใหญ่ ทรงพระราชนิพนธ์เฉพาะทำนอง แต่เพลง Still on my mind นี้ ทรงพระราชนิพนธ์คำร้องด้วย น่าเสียดายที่ในหนังมีแต่ทำนอง ถ้าได้ฟังเนื้อร้อง คนดูจะ “อิน” และเข้าใจมากกว่านี้ ว่าทำไมพ่อของฟาจึงฝังใจกับเพลงเพลงนี้

นักแสดงทั้งสามคนเล่นได้ดีมากๆ โดยเฉพาะผู้แสดงเป็นพ่อและมิว ซันนี่ออกแนวล้นๆ แต่ช่วยทำให้เรื่องที่ค่อนข้างหดหู่ลดความเครียดลง และยิ้มได้ทั้งน้ำตา หนังอบอุ่น เศร้าและประทับใจในความรักระหว่างพ่อและลูก พ่อของฟาอัดเทปไว้เมื่อรู้ตัวว่าเป็นอัลไซเมอร์ เป็นคำพูดอันซาบซึ้ง แม้วันหนึ่งพ่อจะลืมช่วงเวลาดีๆ เหล่านี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าช่วงเวลาดีๆ เหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้น

ภาคสาม ได้ จิระ มะลิกุล เป็นผู้กำกับ นำแสดงโดย เต๋อ ฉันทวิชย์ ธนะเสวี และหนูนา หนึ่งธิดา โสภณ เพลงที่เลือกมาเป็นเพลงเอกคือ “พรปีใหม่”

หลง ร็อคเกอร์หนุ่มเล่นดนตรีมาเป็นสิบปี แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงหันมาเป็นหนุ่มออฟฟิศ หลงได้พบกับคิม สาวที่มีดนตรีในหัวใจ และแอบตั้งวงดนตรีในออฟฟิศโดยรวมเจ้าหน้าที่ทุกแผนกที่รักเสียงเพลง ตั้งแต่ ยาม ภารโรง นักวิเคราะห์การเงิน ฯลฯ หลงพบว่าการเล่นดนตรีท่ามกลางคนที่รักดนตรี คือความสุขที่สุดในชีวิต

เรื่องนี้เต๋อต้องหัดเป่าแซกโซโพน และหนูนาหัดทรัมเป็ต ข่าวว่าติดใจจนสร้างหนังเสร็จก็ยังเรียนต่อ เพลงพรปีใหม่เป็นเพลงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานให้ประชาชนชาวไทยในวันที่1 มกราคม 2495 แม้เวลาผ่านมาหลายสิบปี เพลงนี้ยังคงได้ยิน ได้ฟังกันทุกปีใหม่

เป็นเสมือนพรจากฟ้าที่พระมหากษัตริย์พระราชทานให้พสกนิกรของพระองค์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image