รู้แล้วอึ้ง ‘เหตุผล’ ที่ทำให้ ‘ท้าวทองกีบม้า’ ต้องทำขนมหวาน จนขึ้นชื่อเป็นราชินีขนมไทย

รู้แล้วอึ้ง ‘เหตุผล’ ที่ทำให้ ท้าวทองกีบม้า ต้องทำขนมหวาน จนขึ้นชื่อเป็นราชินีขนมไทย

เรียกว่าช่วงนี้ผลงานด้านละคร ภาพยนตร์ของไทยกำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็นยอดจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์เรื่อง ‘สัปเหร่อ’ ที่ทำรายได้ทะลุ 300 ล้านบาทแล้ว

ยังมีละครภาคต่ออย่าง “พรหมลิขิต” ที่ออนแอร์ตอนแรก ก็เรตติ้งกระฉูด ดันเรตติ้ง 6.40 ทั่วประเทศ ขณะที่ ในกรุงเทพฯ มีเรตติ้งสูงถึง 11.07 รวมทั้งยอดดูสด ทะลุ 1 ล้านคน

นอกจากตัวละครพระนางแล้ว ตัวละครอย่าง “ท้าวทองกีบม้า” ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะฉากเรื่องราวชีวิต ที่คนไทยต่างคุ้นชินในชื่อของ “ราชินีขนมไทย” ผู้คิดค้นสูตรขนมขึ้นชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองโปร่ง ทองพลุ ขนมผิง ขนมฝรั่ง ขนมขิง ขนมไข่เต่า ขนมทองม้วน ขนมสัมปันนี ขนมหม้อแกงและสังขยา… ซึ่งมีอยู่จริงในบันทึกทางประวัติศาสตร์

Advertisement

โดย กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม ได้เผยแพร่บทความเรื่อง เปิดบันทึกสาเหตุที่ทำให้ “ท้าวทองกีบม้า” ต้องทำ “ขนมหวาน” (อ่านที่นี่)

ระบุว่าไว้ว่า จดหมายเหตุฝรั่งเศสฉบับหนึ่งบันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า “ท้าวทองกีบม้า ได้เป็นผู้กำกับการชาวเครื่องพนักงานหวาน ท่านท้าวทองกีบม้าผู้นี้เป็นต้นสั่งสอนให้ชาวสยามทำของหวานคือ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองโปร่ง ทองพลุ ขนมผิง ขนมฝรั่ง ขนมขิง ขนมไข่เต่า ขนมทองม้วน ขนมสัมปันนี ขนมหม้อแกงและสังขยา…”

ส่วน เหตุผลที่ทำให้ “ท้าวทองกีบม้า” หันมาทำขนมหวาน นั้น ในบันทึกการทำขนมหวานท้าวทองกีบม้ามีความเห็นออกไปในแบบต่างๆ บางบันทึกก็ว่า ชีวิตช่วงหนึ่งของท้าวทองกีบม้าตกอับ จนกระทั่ง พ.ศ. 2233 ได้รับอนุญาตให้มาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านโปรตุเกส และถูกบังคับให้ทำอาหารหวานส่งเข้าวังตามอัตราที่กำหนด เรื่องนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกด้วยเนื้อหาที่แตกต่างกันในออกไป

Advertisement

ตามหลักฐานของ บาทหลวงโอมองต์ (Fr. Aumont) บันทึกไว้ว่า ท้าวทองกีบม้า หรือ “มาดามฟอลคอน” ได้รับแต่งตั้งให้เป็นชาววิเสทประจำห้องเครื่องในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ

อีกบันทึกของ อเล็กซานเดอร์ แฮมมิลตัน อ้างว่า ได้พบกับมาดามฟอลคอนในปี พ.ศ. 2262 ขณะนั้นได้รับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการห้องเครื่องต้นแผนกหวาน มีผู้คนรักใคร่นับถือ ซึ่งสอดคล้องกับบันทึกของ มองสิเออร์โซมองต์ อ้างว่า มาดามฟอลคอน เป็นผู้ดูแลเครื่องเงินเครื่องทองของหวาน เป็นหัวหน้าเก็บภูษาและฉลองพระองค์ และยังเป็นผู้เก็บผลไม้เสวยด้วย

ในจดหมายท้าวทองกีบม้าที่เขียนถึงบิชอปฝรั่งเศสในประเทศจีนกล่าวไว้ว่า

“ต้องทำงานถวายตรากตรำด้วยความเหนื่อยยาก และระกำช้ำใจ มืดมนธ์อัธการไปด้วยความทุกข์ยาก ตั้งหน้าแต่จะคอยว่าเมื่อใดพระเจ้าจะโปรดให้ได้รับแสงสว่าง ตอนกลางคืนนางก็ไม่มีที่นอนที่พิเศษอย่างใด คงแอบพักที่มุมห้องเครื่องต้น บนดินที่ชื้น ต้องคอยระวังรักษาเฝ้าห้องเครื่องนั้น”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

– ลิขสิทธิ์ ‘พรหมลิขิต’ ช่อง 3 จดละเอียด ตั้งแต่ ‘บุคลิก’ ไปจนถึง ‘คำพูด’
– พรหมลิขิตฟีเวอร์! ตอนแรกมาแรง แห่ดูสดๆ ยอดวิวพุ่งกว่า 4.2 แสน สนุกสมการรอคอย
– รู้ต่อจาก #พรหมลิขิต ‘ท้าวทองกีบม้า’ ใช้ชีวิตอย่างไร หลังพระเพทราชายึดอำนาจ
เปิดเรตติ้ง พรหมลิขิต ตอนแรก ทำลายทุกสถิติ สมการรอคอย ยอดคนดูสดทะลุล้าน
เรื่องจริงในปวศ. เปิดแผน ‘พระเพทราชา-หลวงสรศักดิ์’ ปลงพระชนม์-ยึดอำนาจพระนารายณ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image