John Wick: Chapter 2 ไม่ใช่แฟนหนังแอ๊คชั่นก็ยังดูสนุก

John Wick: Chapter 2 ไม่ใช่แฟนหนังแอ๊คชั่นก็ยังดูสนุก

John Wick: Chapter 2 ไม่ใช่แฟนหนังแอ๊คชั่นก็ยังดูสนุก

ดูจอห์น วิค ภาคแรก (2014) อย่างงงนิดหน่อย อะไร (วะ) ฆ่าหมากับขโมยรถไป ก็ตามล้างแค้นฆ่าแก๊งมาเฟียทั้งแก๊ง จนศพเกลื่อนกลาดแทบนับไม่ได้ ซ้ำยังมีบริการเก็บกวาดศพหลังฆ่าเสร็จ โดยจ่ายค่าบริการด้วยเหรียญทองแทนเงินสด มีกฎแปลกๆ ที่ในโรงแรมซึ่งเหมือนเป็นที่ซ่องสุมของเหล่าอาชญากร ห้ามไล่ล่าฆ่าฟันกันเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนจะต้องแลกด้วยชีวิต

แต่ถึงจะงงยังไง คีอานู รีฟส์ ในบทจอห์น วิค นักฆ่าหน้านิ่ง ก็เล่นบทบู๊ได้น่าประทับใจ ฉากแอ็คชั่นมันทั้งเรื่อง ดุเดือดโดดเด่น จนไม่ยอมพลาดภาค 2

ภาค 2 นี้ ข้อสงสัยต่างๆ ถูก ดีเร็ค โคลสตัด ผู้เขียนบท ขยายเรื่องให้ใหญ่ขึ้น เห็นโลกขององค์กรนักฆ่าข้ามชาติอย่างชัดเจน บรรเจิดจนคนดูโยนตรรกะทิ้งไป เข้าใจตัวละครมากขึ้นและยอมรับโลกของนักฆ่า ที่นอกจากจะเป็นนักฆ่าหรือมือสังหารอาชีพโดยตรงแล้ว นักฆ่ายังแฝงตัวในคราบนักดนตรีเปิดหมวก คนไร้บ้าน คนขับแท็กซี่ และคนเดินถนนทั่วไป โลกของนักฆ่ามีกฎระเบียบที่บังคับใช้ร่วมกัน อาทิเช่น จะต้องไม่มีการฆ่าฟันกันในบริเวณโรงแรมเดอะคอนทิเนนทัล ซึ่งเป็นเสมือน “รังนักฆ่า” และนักฆ่ามีพันธะสัญญาที่จะต้องใช้หนี้ตราเลือดของตัวเองกับผู้ที่เคยมีบุญคุณ

องค์กรนักฆ่ามีเครือข่ายกว้างขวางที่อำนวยความสะดวกและให้บริการนักฆ่า ตั้งแต่ที่พัก เก็บศพ ตัดเสื้อกันกระสุน ซื้อขายอาวุธ โดยจ่ายด้วยเหรียญทองที่เป็นสัญลักษณ์ของคนในโลกอาชญากรรม และที่น่ากลัวที่สุดคือ การเผยแพร่ข่าวสารการตั้งค่าหัวให้กำจัดนักฆ่าด้วยกันเอง ด้วยเครือข่ายที่ว่องไวกระจายไปทั่วโลก

Advertisement

จอห์น วิค อยากเกษียณตัวเองออกจากวงการนักฆ่า ถึงขนาดเอาอาวุธทุกชนิดใส่หีบฝังดินโปกปูนทับ แต่ถูกบีบบังคับด้วยพันธะสัญญาตราเลือดจาก ซานติโน (ริคคาร์โด สคามาร์ซิโอ) ผู้มีอิทธิพลในวงการนักฆ่าที่อยากโค่นจิอานนา (คลอเดีย เจอรินี) พี่สาวตนเอง เพื่อขึ้นครองตำแหน่งในสภาสูง จอห์น วิคจำต้องปฏิบัติตามพันธสัญญา ภารกิจสำเร็จ แต่เขาต้องเผชิญหน้ากับทีมนักสังหารมืออาชีพทั้งของจิอานนา และซานติโนซึ่งพูดแบบหน้าด้านว่า “ฉันคงเป็นคนเลวมาก ถ้าไม่แก้แค้นให้พี่สาว”

johnwicksmall

จอห์น วิค ภาค 2 กำกับโดยผู้กำกับคนเดิมที่กำกับภาคแรก แชด สเตเฮลสกี้ ซึ่งเข้าสู่วงการจากอาชีพสตันท์และเติบโตจากวงการหนังแอ็คชั่น เคยดูแลงานด้านสตันท์ในหนังดังหลายเรื่องเช่น 300 (2006) The Expendables 1-2 (2010 -2012) ทั้งยังเคยเป็นสตันท์แทน รีฟส์ ในหนังเรื่อง The Matrix 1-2 (1999-2003 ) The Replacement (2000) และ Constantine (2005) ผลพวงจากการคลุกคลีกับหนังแอ็คชั่นมานาน ทำให้ สเตเฮลสกี้ออกแบบการต่อสู้ในหนังจอห์น วิคได้อย่างดุเดือดถึงลูกถึงคน ยกระดับฉากแอคชั่นให้กลายเป็นหัวใจสำคัญของหนังจอห์น วิค มันหยดกับฉากต่อสู้ที่ไม่ต้องพึ่ง CG ห้ำหั่นกันโดยใช้ฝีมือล้วนๆระหว่างสุดยอดนักฆ่ามืออาชีพระดับโลกที่แสนจะอันตรายและฝีมือเท่าเทียมกัน

Advertisement

เพื่อให้สมบทบาทนักฆ่าระดับตำนาน รีฟส์ต้องฝึกการต่อสู้รูปแบบต่างๆ อย่างหนักกับอดีตหน่วยต่อต้านการก่อการร้าย ทั้งยูยิตสู ยูโด คราฟมากา (การต่อสู้แบบปะทะของอิสราเอล ผสมผสานศิลปะการต่อสู้หลายแขนงมวย มวยปล้ำ มวยหยงชุน) การต่อสู้แบบ Close Quarters Battle ซึ่งเป็นการต่อสู้ในพื้นที่จำกัด ฝึกการใช้อาวุธสารพัดชนิด ปืนสามกระบอก ปืนกล ปืนลูกซอง การชักปืนเร็ว ทั้งยังฝึกขับรถผาดโผนแบบยูเทริน์ 180 องศา และแบบหักศอก 90 องศา เพื่อให้สามารถแสดงฉากแอ็คชั่นได้ด้วยตัวเอง สมจริงและแคล่วคล่อง รีฟส์ถึงกับพูดว่า “เป็นงานหินไม่ใช่เล่นเลย โดยเฉพาะเมื่อคุณไม่ได้เป็นวัยรุ่นอีกต่อไป”

ปัจจุบันรีฟส์อายุ 52 ปี เป็นวัยที่หนักหนาเกินไปไหมสำหรับฉากแอ็คชั่นจัดเต็มแบบนี้ แต่การแสดงที่สมบทบาทของเขา คงยากที่คนดูจะยอมรับหากเอาคนอื่นมาแสดงแทน

จอห์น วิคเป็นหนังแอ็คชั่นสะใจที่แม้ไม่ใช่คอหนังแอ็คชั่นก็ดูสนุก ฉากต่อสู้ต่างๆ ออกแบบได้น่ามหัศจรรย์ ทั้งยังสนับสนุนพล็อตเรื่อง ไม่เลื่อนเปื้อนเลอะเทอะ สเกลของเรื่องในภาคนี้ขยายออกอย่างน่าสนใจและชวนติดตาม ภาคแรกค่าหัวจอห์น วิค แค่ 2-4 ล้านดอลล่าร์ ก็มีนักฆ่าที่ทำผิดกฎลงมือฆ่าในพื้นที่ต้องห้าม

ภาคนี้ ท้ายเรื่องทิ้งปมไว้อย่างยั่วให้คนติดตามว่า จอห์น วิคจะเป็นยังไง เมื่อเขาแหกกฎ ถูกตั้งค่าหัวสูงถึง 14-15 ล้านดอลล่าร์ ซ้ำยังถูกอัปเปหิออกจากวงการ ไม่สามารถหลบมาใช้พื้นที่ปลอดภัยได้แล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image