Logan บทอำลาอันยอดเยี่ยม!
หนังแฟรนไชส์ X-Men มีหลายภาค ทั้งไทม์ไลน์ก็ซับซ้อน แถมยังมีบางภาคที่ตัวละครย้อนเวลากลับไปแก้อดีต จนยากที่จะจำเรื่องราวได้ทั้งหมด นอกจากจะเป็นแฟนกันอย่างจริงจัง
ฮีโร่มนุษย์กลายพันธุ์พันธุ์ X มีหลายตัว แม็กนีโต มิสทีค บีสต์ ควิกซิลเวอร์ ฯลฯ แต่คงปฎิเสธไม่ได้ว่า “วูล์ฟเวอร์รีน” ซึ่ง ฮิวจ์ แจ็คแมน รับบทนี้ตั้งแต่ปี 2000 เป็น Mutant ที่โด่งดังและคนดูจดจำได้มากที่สุด
แจ็คแมนแจ้งเกิดและกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลกจากบทนี้ สิบเจ็ดปีที่ผ่านมา คนดูรู้จักและคุ้นเคยกับวูล์ฟเวอร์รีนและการผจญภัยของเขามากกว่าฮีโรพันธุ์ X ใดๆ จึงน่าใจหายเมื่อแจ็คแมนประกาศว่า จะรับบทวูล์ฟเวอร์รีนเป็นครั้งสุดท้ายในหนัง Logan
วูล์ฟเวอร์รีน เคยมีหนังเดี่ยวที่แยกออกจาก X–Men ก่อนหน้านี้สองภาค X-Men Origins: Wolverine (2009) และ The Wolverine (2014) ในความทรงจำของคนดู โลแกนหรือวูล์ฟเวอร์รีนเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่แข็งแกร่ง มีกรงเล็บแหลมคมจากโลหะอะคาแมนเทียมที่พร้อมจะฉีกศัตรูให้กลายเป็นชิ้นๆ มีพลังพิเศษ Healing Factor ที่ไม่ว่าจะโดนทำร้ายจากอาวุธมหาประลัยขนาดไหน (แม้แต่ระเบิดปรมาณูที่ทิ้งที่ญี่ปุ่น) ก็ไม่สามารถแผ้วพานผิวกายได้
วูล์ฟเวอร์รีนไม่ได้เป็นอมตะ แต่พลังพิเศษทำให้เขามีชีวิตที่ยืนยาวร่วมร้อยกว่าปี ผ่านสมรภูมิหลากหลาย ทั้งสงครามกลางเมือง สงครามโลก และสงครามล้างเผ่าพันธุ์ ชีวิตของเขาโลดโผน ทั้งปกป้องโลก และปกป้องตัวเองจากศัตรูที่มุ่งร้าย แต่ไม่ว่าเขาจะเก่งกาจขนาดไหน สิ่งหนึ่งที่เขามักจะปกป้องไม่ได้คือ คนรักหรือคนใกล้ชิด ที่เมื่อเขาเข้าใกล้ใคร คนๆ นั้นก็มักจะต้องตาย
ภาคปิดตำนานวูล์ฟเวอร์รีนในชื่อ Logan ได้ เจมส์ แมนโกลด์ ซึ่งเคยกำกับ The Wolverine มาทำหน้าที่ผู้กำกับอีกครั้งหนึ่ง หนังดัดแปลงจากคอมมิค Old Man Logan ของมาร์ค มิลาร์ และสตีฟ แม็คนีแวน ซึ่งตีพิมพ์ระหว่างปี 2008-2009
ในการกำกับหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่แจ็คแมนเท่านั้นที่กล่าวอำลาบทวูล์ฟเวอร์รีน แพทริค สจ็อต ซึ่งแสดงเป็น ชาร์ลส์ เซเวียร์ หรือ โปรเฟสเซอร์เอ๊กซ์ ตัวเอกคนหนึ่งของหนัง X–Men ก็ประกาศเช่นกันว่า Logan จะเป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่เขาจะรับบทนี้
แมนโกลด์วางแนวเรื่องไว้ว่า “อยากเล่าเรื่องโลแกน ไม่ใช่ในแง่ฮีโรมนุษย์กลายพันธุ์ที่ชื่อ วูล์ฟเวอร์รีน อย่างที่คุ้นเคย อยากให้รู้จักในด้านที่เป็นมนุษย์บ้าง สิ่งที่ไม่เคยเห็นในหนัง X-Men คือได้เห็นคนแก่สองคน ที่เจ็บปวด พลังถดถอย และแทบจะเอาชีวิตไม่รอด”
Logan เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกอนาคตปี 2029 ซึ่งมนุษย์กลายพันธุ์แทบจะสูญพันธุ์ โลแกนอยู่ในสภาพที่ตกยาก โดดเดี่ยวและเหนื่อยล้า พลังฮีลลิ่งแฟคเตอร์ที่เคยมีอ่อนแอไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น เขาใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อน ดูแลโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์ที่ร่วยโรยและป่วยหนัก จนไม่สามารถควบคุมพลังจิตที่มีได้เช่นกัน
ซ้ำโลกยังถูกปกครองด้วยนักวิทยาศาสตร์ชั่วร้ายที่มีสมุนเป็นกลุ่มมนุษย์ไซบอร์ก ตามไล่ล่า ลอรา X-23 (แดฟเน คีน) ร่างโคลนของโลแกนจาก Project Weapon X โลแกนต้องออกมาปกป้องเธอ ทั้งๆ ที่ไม่อยากผูกพันกับใคร นี่เป็นหนังที่เล่าอีกมุมหนึ่งของชีวิตโลแกน คนดูจะได้เห็นชายสูงวัยที่มีบาดแผลทั้งกายใจจากการต่อสู้ในอดีต ลำพังชีวิตตัวเองก็แย่แล้ว แต่ยังต้องทำหน้าที่ปกป้องเพื่อนที่เป็นชายชราเจ็บหนัก และเด็กสาววัยสิบเอ็ด มนุษย์กลายพันธุ์ที่มีพลังพิเศษแบบเดียวกับตัวเขา
หนังกล้ามากที่นำเสนอซุปเปอร์ฮีโร่ที่คนดูคุ้นเคยในแนวที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ตัวละครมีความเป็นมนุษย์ที่หนีไม่พ้น สัจธรรม เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่ใช่หนังแฟนตาซีโลกสวยที่คนดีชนะคนชั่ว แต่เป็นเรื่องชายแก่สองคนที่ฮึดสู้เพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์ของตนเอง
บรรยากาศของหนังตึงเครียด หดหู่ หม่นหมอง เห็นความเจ็บปวด โดดเดี่ยวและอ้างว้างของชายที่แบกภาระไว้เต็มบ่า นี่เป็นหนังดราม่าเข้มข้นสะเทือนอารมณ์มากกว่าจะเป็นหนังฮีโร่ และอารมณ์ของหนังยังออกแนวตะวันตกแบบหนังคาวบอย รวมทั้งยังอ้างอิงหนังในตำนานแบบ Shane (1953) และ Unforgiven (1992)
แม้จะเป็นหนังดราม่า แต่บทแอ็คชั่นดุเดือดและรุนแรง จนหนังได้เรทอาร์ ซึ่งน่าจะสะใจคอหนังสายบู๊ คิวบู๊ในเรื่องไม่ใช่การต่อสู้แบบเหนือมนุษย์ กระโจนทะยานท้าแรงโน้มถ่วง หรือใช้ CG อลังการ แต่เป็นการต่อสู้แบบโหดๆ ใช้กรงเล็บเสยเสียบใต้คางศัตรู แม้การต่อสู้ของเด็กหญิง X-23 ลอร่ากับมนุษย์ไซบอร์ก ก็ก้าวร้าว ดิบ เถื่อน มีการตัดหัวศัตรูและหิ้วมาโยนใส่หน้า ตลอดจนใช้กรงเล็บกระซวกผู้ไล่ล่าอย่างไม่ปราณี
ความสดใหม่และกล้าเสี่ยงทำหนัง Logan ออกมาแนวนี้ ได้รับคำวิจารณ์จากหนังเทศกาลเบอร์ลินว่า เป็นงานที่สร้างสรรค์ บางเสียงบอกว่า “ไม่เพียงเป็นหนังวูล์ฟเวอร์รีนที่ดีที่สุด แต่เป็นหนัง X-Men ที่ดีที่สุดด้วย” Entertainment Weekly พูดถึงเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ว่า “มันเป็นหนังที่มีทั้งความรุนแรงและซาบซึ้งกินใจ ตอนที่มันไม่ได้ทำให้เราเห็นเลือด มันพยายามทำให้เราน้ำตาซึม”
ฮิวจ์ แจ็คแมน และแพทริค สจ็วต อำลาบทบาทของเขาได้อย่างประทับใจและน่าจดจำ จนรู้สึกใจหายเมื่อนึกว่าจะไม่ได้เห็นคนคู่นี้สวมบทบาท วูล์เวอร์รีนและโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์อีกต่อไป
