ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ชาวบ้านหมู่ 9 บ้านดงตาล ต.สำเภาล่ม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา เรียกร้องให้กรมศิลปากรบูรณะวัดแก้วฟ้า ซึ่งนักโบราณคดีคาดว่าอายุมากกว่า 500 ปี ซึ่งอยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก ชาวบ้านเรียกร้องกรมศิลปากรขุดแต่งเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ขณะที่นักวิชาการโบราณคดีเห็นควรรักษาสภาพเดิมเป็นแหล่งเรียนรู้โคกเนินโบราณสถานและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากรสนับสนุนชุมชนอยู่ร่วมโบราณสถาน
นางหนับ หาวุฒิ อายุ 74 ปี ชาวบ้านดงตาล กล่าวว่า อยากให้กรมศิลปากรบูรณะเจดีย์วัดแก้วฟ้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ผ่านมาตนและหลานสาว คือนางสมจิตร โพธิ์ทอง อายุ 34 ปี ช่วยกันนำนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมบริเวณโคกเนิน เคยสอบถามเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรได้รับคำตอบว่าต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะขุดแต่งบูรณะ
“อยากให้ซ่อมเจดีย์วัดนี้ มีอาจารย์และนักศึกษามาดู ฉันก็ต้องพาปีนขึ้นไปดูอุโมงค์เจดีย์ใหญ่ สมัยก่อนรกกว่านี้ จะมีพระเก่าๆ เยอะมาก แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าไปไหนหมด” นางหนับกล่าว และว่า แต่หากบูรณะแล้ว ไม่รู้ว่าต้องย้ายบ้านออกจากพื้นที่โบราณสถานหรือไม่ ส่วนตัวแล้วอยากอยู่ที่เดิม เพราะอยู่มาตั้งแต่บรรพบุรุษ
ผศ.ดร.ประภัสสร์ ชูวิเชียร อาจารย์ประจำคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า น่าจะรักษาสภาพเดิมไว้ก่อน โดยดูแลไม่ให้ถูกทำลายเพิ่มอีก เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้สภาพดั้งเดิมโคกเนินโบราณสถานอยุธยาว่าก่อนการขุดแต่งมีสภาพอย่างไร
นายพิพัฒน์ กระแจะจันทร์ อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า น่าจะแสดงหลุมขุดค้นตัวอย่างให้เห็นว่าข้างในมีภาพแบบไหนด้วย จะเป็นตัวอย่างศึกษาที่ดี แล้วดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมได้อีก
นายประทีป เพ็งตะโก ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าวัดแก้วฟ้าขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้วหรือยัง แต่เป็นโบราณสถานที่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายอยู่แล้ว โดยทั่วไปโบราณสถานเป็นแหล่งที่พร้อมให้เรียนรู้อยู่แล้ว แต่ในแง่มุมการอนุรักษ์ต้องรักษาไว้ไม่ให้เสื่อมสภาพมากขึ้น ที่ชาวบ้านอยากอยู่ในพื้นที่โบราณสถานต่อไปหากมีการบูรณะนั้น โดยหลักการแล้วชุมชนกับโบราณสถานควรอยู่ร่วมกันได้ ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป แต่หากมีการปลูกสร้างบ้านเรือนทับฐานรากสถาปัตยกรรม ก็อาจต้องเขยิบออกไป
ทั้งนี้ วัดแก้วฟ้า (บ้านดงตาล อ.เมือง อยุธยา) เป็นวัดร้าง มีมาตั้งแต่ยุคต้นอยุธยา ปัจจุบันอยู่ในชุมชนมุสลิม ใกล้ถนนลาดยางผ่านบ้านดงตาล ไม่ไกลจากหลังวัดพุทไธสวรรย์ไปทางทิศใต้ และริมคลองคูจามฝั่งตะวันตก โดย น. ณ ปากน้ำ (ปราชญ์สยามทางศิลปกรรมไทย อดีตอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยศิลปากร) ออกสำรวจแหล่งประวัติศาสตร์ทั่วเกาะเมืองอยุธยา ระหว่างปี 2509-2510 แล้วเขียนบันทึกรวมพิมพ์เป็นเล่มชื่อ “ห้าเดือนกลางซากอิฐปูนอยุธยา” พรรณนาวัดแก้วฟ้า ว่า มีฐานเจดีย์ขนาดใหญ่และพระประธานปูนปั้น ถูกทะลุทะลวงจนแทบจะหมดองค์ ผนังอุโบสถไม่มี พบเสาแปดเหลี่ยม บัวหัวเสาเป็นบัวกลุ่มแบบเดียวกับวัดพุทไธสวรรย์ ฐานเจดีย์ก่อด้วยศิลาแลง พบเศษพระพุทธรูปหินทรายขาวเกลื่อนไปทั่วอุโบสถ เข้าใจว่าเป็นพระแบบอู่ทองรุ่นหลัง ลายปูนปั้นรูปบัวเป็นแบบรุ่นแรก เข้าใจว่าที่นี่ต้องเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง มีมาแต่สมัยอยุธยาตอนต้น