หนังลุ้นระทึกสองเรื่องสองรส Retribution จากสเปน กับ Triple 9 ฝั่งฮอลลีวูด

นังลุ้นระทึกสองเรื่องสองรส Retribution จากสเปน กับ Triple 9 ฝั่งฮอลลีวูด

หนังลุ้นระทึกสองเรื่องสองรส Retribution จากสเปน กับ Triple 9 ฝั่งฮอลลีวูด

Retribution

 Retribution

Retribution เป็นหนังยุโรปนอกกระแสจากสเปนที่สนุกสุดๆ สะกดคนดูให้ตรึงอยู่กับที่ และลุ้นเอาใจช่วยให้ตัวละครสามารถแก้วิกฤตที่กำลังเผชิญหน้าได้ นี่เป็นหนังที่ไม่รู้จักดาราเลยสักคน แถมดารานำยังไม่สวยไม่หล่อและอายุสี่สิบขึ้นทั้งนั้น ต้องบอกว่างานนี้มาด้วยฝีมือล้วนๆ หนังเข้าชิงรางวัลเวทีโกย่าอวอร์ดของสเปน (คล้ายๆ เวทีออสการ์ของฮอลลีวูด) ถึง 8 สาขา ได้รางวัล 2 สาขาคือ สาขาตัดต่อยอดเยี่ยมและผสมเสียงยอดเยี่ยม

หนังตื่นเต้นดึงอารมณ์ผู้ชมให้เหมือนร่วมอยู่ในเหตุการณ์ สัมผัสความสมจริงสมจัง และติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คลาดสายตา โปรดักชันของหนังดีไม่แพ้ค่ายฮอลลีวูด นักแสดง ผู้กำกับ ผู้เขียนบทเป็นคนสเปนและใช้ภาษาสเปนทั้งเรื่อง ถ่ายทำที่เมืองลาโกรูญา เมืองท่าสวยงามตอนเหนือของสเปนที่ทิวทัศน์แปลกตาน่าสนใจ

หนังมีชื่อภาษาสเปนว่า El Desconocido แปลว่า Unknown คำๆ นี้จะขึ้นมาโชว์บนโทรศัพท์ เวลามีสายเรียกเข้าและไม่ทราบว่าโทรจากใคร เริ่มเรื่องว่าคาร์ลอสผู้บริหารธนาคารที่หมกมุ่นกับงานจนละเลยครอบครัว ขับรถไปส่งลูกสาวลูกชายที่โรงเรียน มีสาย El Desconocido เข้ามาบอกว่า มีระเบิดอยู่ในรถ ห้ามทุกคนลงจากรถหรือบอกตำรวจ มิฉะนั้นคนร้ายจะกดระเบิด และสั่งคาร์ลอสให้โอนเงินจำนวนมากเข้าบัญชีตน คาร์ลอสต้องยอมทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตลูกและตัวเอง ทั้งๆ ที่มีเงินไม่พอและยังลงไปทำธุรกรรมใหญ่ขนาดนี้ด้วยตนเองไม่ได้ เขาถูกบีบบังคับให้คิดหาเงินโดยสั่งการอยู่แต่ในรถแคบๆ ที่มีลูกติดอยู่ด้วย

Advertisement

ความกดดันเพิ่มมากขึ้น เมื่อคนร้ายระเบิดรถเพื่อนร่วมงานของคาร์ลอสและเศษเหล็กกระเด็นถูกขาลูกชายบาดเจ็บสาหัส คนร้ายไม่ยอมให้คาร์ลอสพาลูกไปโรงพยาบาล ขณะที่ตำรวจเริ่มระแคะระคายแต่กลับมองว่า คาร์ลอสเป็นพ่อสติแตกที่คิดทำร้ายลูกตัวเอง บรรยากาศหนังอึดอัด กดดันทั้งตัวละครและคนดู ลุ้นกันว่านายธนาคารที่ไม่มีทักษะการต่อสู้ รู้แต่เรื่องเงินกู้และการขายหลักทรัพย์ จะพาตัวเองและลูกๆ ให้รอดชีวิตได้ยังไง

พลอตเรื่องอาจจะคุ้นๆ คล้ายหนังเรื่อง Speed และ Phone Booth แต่ความต้องการของคนร้ายต่างกัน คนร้ายในเรื่องนี้ไม่ได้ต้องการเงิน แต่เป็นเรื่องของความต้องการแก้แค้น สองปีที่ผ่านมายุโรปประสบปัญหาเศรษฐกิจที่ทรุดหนัก เกิดความแตกต่างมากมายระหว่างคนจนและคนรวย

ผู้เขียนบท อัลแบร์โต มารินี เกิดแรงบันดาลใจที่จะสร้างหนังที่พูดถึงความถดถอยของเศรษฐกิจ การลงทุนผิดที่ผิดทาง แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องการเงินอย่างเดียว คนก็คงไม่สนใจ และเนื่องจากเขาถนัดหนังแนวระทึกขวัญ มารินีจึงผูกเรื่องการเงินและความต้องการแก้แค้นของคนที่ถูกธนาคารหลอกลวงขึ้นมา ตัวละครถูกจำกัดภายใต้พื้นที่แคบ (อยู่ในรถ) เพื่อสร้างความอึดอัด กดดันและเล่นกับอารมณ์คนดู

Advertisement

งานภาพของหนังเรื่องนี้สวยมากๆ คาร์ลอสขับรถบนท้องถนนวิ่งไปตามที่ต่างๆ การถ่ายทำเน้นมุมกล้องสูงโดยโดรน ทำให้เห็นสเปนในภาพกว้าง ทิวทัศน์เมืองท่าที่มีถนนเรียบทะเลสวย เห็นจัตุรัส ตึกรามบ้านช่องที่มีสถาปัตยกรรมแปลกตา ถ่ายทั้งแบบโคลสอัพเพื่อเก็บสีหน้าและอารมณ์ตัวละครที่ถูกกดดัน และแบบลองเทคที่ทำให้คนดูอารมณ์รื่นไหลไปกับหลายๆ ฉากเช่น ฉากซิ่งรถหนีตำรวจที่ทั้งตื่นเต้นและอันตราย ภาพสวยๆ ในหนังบางครั้งขัดแย้งกับอารมณ์ตัวละครเช่น คาร์ลอสเครียดสติแตกจนต้องพักจอดรถบนชะง่อนเขา เห็นรถดำทมึนโดดเดี่ยวเหนือพื้นน้ำทะเลที่เป็นประกายระยิบระยับ เป็นความงามที่ขัดกับอารมณ์พลุ่งพล่านของคนที่อยู่ในรถ รวมทั้งคนดูที่อึดอัดเหมือนถูกปั่นไปกับตัวละคร ต้องชื่นชมฝีมือผู้กำกับ ดานี เดอ ลาโทเร่ ซึ่งเคยกำกับแต่หนังสั้น แต่สามารถกำกับ Retribution หนังยาวเรื่องแรกของเขา ให้คนดูติดตามได้ด้วยความระทึกใจ ลุ้น และเอาใจช่วย

หนังกระตุกให้คนดูหันกลับมาทบทวนการกระทำของตนเอง คาร์ลอสเป็นนายธนาคารที่ดี ทุ่มเททำงานเพื่อประโยชน์ขององค์กร แต่ลืมคิดถึงหัวอกลูกค้าที่หลงเชื่อการชี้ชวนของธนาคาร จนกลายเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ คาร์ลอสเกือบสูญเสียทุกอย่าง แต่ท้ายสุดเขาตระหนักว่า ครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิต แม้เป็นหนังตื่นเต้น ลุ้นระทึก แต่ท้ายเรื่องมีประเด็นชาบซึ้งที่คนใจอ่อนอาจน้ำรื้อได้

Triple 9

Triple 9

ช่วงที่ผ่านมามีหนังที่เคท วินสเล็ต แสดง ออกฉายเรียงเป็นลำดับ ทั้ง The Dressmaker และ Steve Jobs ส่วนใหญ่เป็นหนังชิงรางวัลเวทีใดเวทีหนึ่ง ไม่ลูกโลกทองคำก็ออสการ์ มาเรื่องนี้เป็นหนังแอคชันดรามา เคทแสดงเป็นนางร้าย ไอรินา มาเฟียตัวแม่รัสเซียอิสราเอลที่เหี้ยมโหด เคทเคยรับบทเป็นตัวร้ายมาแล้วเช่นบท เจอนีน ใน Divergent และ Insurgent แต่เป็นนางร้ายมาดผู้ดี

ใน Triple 9 เคมเปลี่ยนโฉมอย่างสิ้นเชิง ดูสวยแบบผู้หญิงยากจนที่พัฒนาตัวเป็นเจ้าแม่ ผมทองยาวสยายพูดสำเนียงแปร่งๆ มีทั้งน่าเกรงขามและดูอำมหิต

หนังเรื่องนี้มีตัวละครหลักหลายตัว และได้ดาราดังหลายคนมาร่วมแสดงตั้งแต่ ซิเวเทล เอจีโอฟอร์ ที่เคยได้เสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์จากเรื่อง 12 Years a Slave รับบทไมเคิล อดีตทหารกองกำลังพิเศษที่ถูกไอรินาบังคับให้นำทีมปล้น แอนนี แมคกี แสดงเป็น มาร์คัส โจรในคราบตำรวจ ผู้ชมคุ้นหน้าคุ้นตาจากบท ฟอลคอน ในหนัง Captain America เคซี อัลเฟรด จาก Gone Baby Gone รับบท คริส ตำรวจตงฉินที่พลัดไปจับคู่กับตำรวจกังฉิน วูดดี ฮาเรลสัน จากหนัง The Hunger Games เป็น เจฟฟรีย์ ลุงของคริส ตำรวจแก่ตรงไปตรงมาที่เฉลียวฉลาดแต่ไร้ความหมายในกรม ยังมีดาราอีกหลายคน

จอห์น ฮิลโค้ด เคยพาผู้ชมท่องโลกหลังหายนะใน The Road และดินแดนคนนอกกฎหมาย Lawless มาแล้ว มาเรื่องนี้เขานำผู้ชมเข้าสู่การปล้นธนาคารสุดระห่ำจากโจรทักษะสูง นำทีมโดยไมเคิลอดีตทหารและพรรคพวกซึ่งมีทั้งตำรวจที่ถูกปลดและยังประจำการอยู่ ไมเคิลถูกบีบบังคับจากไอรินา เจ้าแม่มาเฟียที่ยึดเมียและลูกของเขาเป็นเครื่องต่อรองให้ปล้นธนาคาร และคลังเก็บข้อมูลตำรวจ เพื่อช่วยสามีไอรินาให้ออกจากคุก เจฟฟรีย์รับผิดชอบการสืบสวนคดีนี้ และคริสหลานชายก็ถูกส่งไปเป็นคู่หูของมาร์คัสหนึ่งในตำรวจที่อยู่ในทีมปล้นธนาคาร ภารกิจที่ไอรินากดดันให้ไมเคิลทำเป็นภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้

ความเก๋ของหนังเรื่องนี้อยู่ที่การนำ Code 999 มาเป็นจุดขาย แมทท์ คุกผู้เขียนบทได้แรงบันดาลใจจากเพื่อนสายลับยาเสพติดที่เล่าให้ฟังว่า รหัสนี้เป็นรหัสที่ตำรวจให้ความสำคัญสูงสุดในการสื่อสารระหว่างกัน หากมีการแจ้งรหัส 999 ตำรวจทุกแห่งจะหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ เพื่อมุ่งหน้าไปจุดเกิดเหตุและไล่ล่าตัวการ ไมเคิลงัดรหัสนี้มาใช้เพื่อให้สถานที่ที่เขาจะปล้นครั้งต่อไปร้างจากตำรวจ บทหนังที่แมทท์ คุก เขียนนี้ติดหนึ่งในบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของ The Block List บทหนังดีที่ยังไม่ถูกนำมาสร้างตั้งแต่ปี 2010

Triple 999 ไม่ใช่หนังแอคชั่นประเภทบู๊ล้างผลาญ ฉากยิงปะทะกันมีแค่ตอนแรกที่ปล้นธนาคาร และฉากไล่ล่าจับนักค้ายาเสพติด โทนของหนังออกแนวเครียดๆ ดิบๆ ดูไปคิดไป ซึ่งน่าจะเป็นเจตนาของผู้กำกับ ที่ต้องการให้หนังมีบรรยากาศของความกดดันที่สอดคล้องกับอารมณ์ตัวละคร อาจไม่สะใจคอหนังแอคชั่น แต่การปฎิบัติงานของตำรวจในหนังดูสมจริงนัยว่าถ่ายทำในสถานที่จริงเกือบทั้งเรื่อง มีบางฉากที่สนุกตื่นเต้นเช่น ฉากบุกจู่โจมแฟลตเพื่อจับกุมผู้ร้าย เจ้าหน้าที่ที่นำการบุกมีโล่กันกระสุนกำบัง มีตำรวจเกาะกันเป็นพรวนตามมาเหมือนงูกินหาง เป็นการทำงานที่รัดกุมระแวดระวังและน่าสนใจ และฉากลวงคริสไปสังหาร ก็กดดันน่าลุ้นเอาใจช่วย

Triple 9 สะท้อนภาพวงการตำรวจที่มีทั้งคนดีคนเลว เหมือนวงการอื่นๆ ที่มีทั้งคนซื่อสัตย์และฉ้อฉล แต่สัจธรรมก็คือ ไม่ว่าจะเป็นโจรจริงๆ หรือโจรในคราบตำรวจ ก็ยากจะหาสัจจะในหมู่โจร เรื่องจึงลงเอยด้วยการหักหลังและการพยายามกำจัดเพื่อนร่วมงานเพื่อปัดความผิดให้พ้นตัว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image