เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ ซีพี ออลล์ ได้จัดงานแถลงข่าวประกาศผลรางวัล “เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” โดยมีหนังสือส่งเข้าประกวด 7 ประเภท คือ กวีนิพนธ์, นวนิยาย, นิยายภาพ, รวมเรื่องสั้น, วรรณกรรมสำหรับเยาวชน, สารคดี, นักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดกวีนิพนธ์ และหมวดนิยายภาพ (การ์ตูน)
โดยคณะกรรมการระบุว่าปีนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่างานเขียนแต่ละประเภทมีพัฒนาการและมีคุณภาพอย่างน่าสนใจ ทั้งที่ธุรกิจหนังสือที้กำลังซบเซา โดยเฉพาะประเภทการ์ตูนภาพที่ส่วนใหญ่เป็นนักเขียนวัยรุ่น นักเขียนหน้าใหม่ ส่วนประเภทสารคดีมีการนำกลวิธีการเล่าเรื่องแบบนวนิยายมาเล่าได้อย่างน่าสนใจ และนวนิยายที่เห็นถึงความสร้างสรรค์ทั้งในแง่กลวิธีการเขียนและเนื้อหาที่เพิ่มขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุธโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 15 และเป็นที่น่าแปลกใจ ที่มีหนังสือส่งเข้าประกวดมากกว่าปีที่ผ่านมา ปัจจุบันเวทีสำหรับนักเขียนน้อยลงมาก เนื่องจากหนังสือและสำนักพิมพ์หลายแห่งได้ปิดตัวลง ทำให้ผลงานของนักเขียนขายยาก แต่ขอยืนยันว่าเวทีนี้จะเป็นเวทีสำหรับนักเขียนตลอดไป
“ตลอด 15 ปี ของการประกวดรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรตินักเขียนคุณภาพ สนับสนุนผลงานที่มีเนื้อหาจรรโลงสังคม มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รวมถึงเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนพัฒนาตนเองในด้านการอ่าน และการเขียนผลงานคุณภาพเป็นการต่อยอดทางความคิดให้กับสังคมไทย ขยายผลพื้นฐานทางความรู้ให้เมืองไทยเป็นสังคมอุดมปัญญา หลายท่านห่วงว่าหนังสือที่ส่งเข้ามาประกวดจะน้อยลง แต่ปีนี้แนวโน้มไปในทางที่ดี เนื่องจากมีการส่งหนังสือเข้าร่วมประกวดมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว” นายสุวิทย์กล่าว
โดยผลการตัดสินมีดังนี้
1.ประเภทกวีนิพนธ์ 30 รางวัลชนะเลิศ “ใจปัจจุบัน” โดย กุดจี่ พรชัย แสนยะมูล สำนักพิมพ์ไม้ยมก,รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่หนึ่ง “นัยน์ตาฤดูกาล” โดย โขงรัก คำไพโรจน์, รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่สอง “สวนดวงใจ” โดย ลอง จ้องรวี สำนักพิมพ์โรงนาบ้านไร่
2.ประเภทนวนิยาย รางวัลชนะเลิศ คือ “ในกับดักและกลางวงล้อม” โดย ประชาคม ลุนาชัย สำนักพิมพ์ศรีปัญญา, รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง “นี่คือสิ่งสำคัญ” โดยภาณุมาศ ทองธนากุล, รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่สอง “คนในนิทาน” โดย กร ศิริวัฒโณ สำนักพิมพ์บ้านกาลก่อง
3.ประเภทนิยายภาพ รางวัลชนะเลิศ “ทุกอย่างเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน” โดย คัจฉกุล แก้วเกต สำนักพิมพ์บัน, รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง “ผีเทศกาล” โดย สิริน สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์, รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่สอง “พระเจ้า 500 ชาติ” โดย โอม ระชเวทย์, มนัส หัสดำ, คาริญย์ หึกขุนทด, โรมรัช ระชเวทย์, พรเทพ ชูกุล และกฤช สำนักพิมพ์อมรินทร์คอมมิกส์
4.ประเภทรวมเรื่องสั้น ไม่มีผลงานใดได้รับรางวัลชนะเลิศ, รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่หนึ่ง “ลืมตาตื่นอีกครั้ง…ในเวลาอันสมควร” โดย ปองวุฒิ รุจิระชาคร แพรวสำนักพิมพ์, รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง “เด็กชายที่ปลอมตัวเป็นหนังสือ ดอกไม้และอื่นๆ” โดยปะการัง สำนักพิมพ์เช้าวันอาทิตย์
5.ประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน รางวัลชนะเลิศ “อัศวินอุตุกับปีศาจทั้ง 8” โดย ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร สำหนักพิมพ์ภูตะวัน, รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง “โลกของมดแดงกับแตงกวา (เอยด้วย!)” โดย งามพรรณ เวชชาชีวะ สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์, รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง “บึงน้ำแห้ง” โดย โชติ ศรีสุวรรณ สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊ค
6.ประเภทสารคดี รางวัลชนะเลิศ “City Sight เมืองที่มองไม่เห็น” โดย สรณรัชฎ์ กาญจนวณิชย์ สำนักพิมพ์แซลมอน, รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง “หิมาลัยไม่มีจริง” โดย นิ้วกลม สำนักพิมพ์คู้บ, รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่สอง “2310 อวสานกรุงศรีฯ” โดย สุเจน กรรพฤทธิ์ สำนักพิมพ์สารคดี
7.รางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดกวีนิพนธ์ รางวัลชนะเลิศ “โลกประจำตัว” โดย รัฐ ปัญเจียง หนังสือทำมือ, รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง “แท้ธารมิอาจกลั้น” โดย นนทพัทธ์ หิรัญเรือง หนังสือทำมือ, รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่สอง “ในชายคามาตุภูมิเรา” โดย ชาตรี อรุณพัด หนังสือทำมือ และหมวดนิยายภาพ (การ์ตูน) รางวัลชนะเลิศ “ไม่อยากเก็บคุณไว้ในตู้เย็นตลอดไป” โดย Noetta หนังสือทำมือ ส่วนหมวดนิยายขนาดสั้น และหมวดรวมเรื่องสั้น ไม่มีผลงานใดได้รับรางวัล
หนังสือแนะนำ มี 4 เล่ม ได้แก่ เรื่อง ความสุข ความทรงจำ ในรัชกาลที่ 9 โดย ธงทอง จันทรางศุ สำนักพิมพ์มติชน, เรื่อง ตาสว่างกับรัชกาลที่ 4 โดย ไชยันต์ ไชยพร สำนักพิมพ์มติชน, เรื่อง พะเลอโดะ แห่งป่าแม่เงา โดย สุวิชานนท์ รัตนภิมล สำนักพิมพ์สวนเงินมีมา และ เรื่อง มนุษย์กรุงเทพ โดย ขวัญชาย ดำรงค์ขวัญ สำนักพิมพ์แซลมอน
สำหรับผู้ชนะเลิศ “เซเว่นบุ๊คส์อวอร์ด” จะได้รับรางวัลเงินสด 100,000 บาท พร้อมโล่ พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, รองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้รับเงินรางวัล 50,00 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ, รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ และรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ 4 หมวด ชนะเลิศจะได้รับรางวัล 20,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับรางวัล 15,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรทุกรางวัล
โดยพิธีมอบรางวัลจะจัดขึ้นในวันที่ 6 กันยายน 2561 เวลา 13.00 น. ณ ห้องดุสิตธานี ฮอลล์ โรงแรมดุสิตธานี
