จัสติน บีเบอร์ ยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตกะทันหันหลังป่วยใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก
จัสติน บีเบอร์ นักร้องชื่อดังชาวแคนาดาวัย 28 ปี ต้องยกเลิกกำหนดการณ์การแสดงคอนเสิร์ตหลายแห่งลงแล้ว เนื่องจากป่วยกะทันหันจากการติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลให้เกิดอาการอัมพาตที่ใบหน้าครึ่งซีก ทำให้ต้องประกาศยกเลิกการแสดงที่มีกำหนดมีขึ้นใน “โตรอนโต” ประเทศแคนาดา “กรุงวอชิงตันดีซี” และใน “นครนิวยอร์ก” สหรัฐอเมริกา
บีเบอร์ โพสต์คลิปวิดีโอผ่านทางบัญชีอินสตาแกรมเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่น หรือช่วงเช้ามืดของวันที่ 11 มิถุนายนตามเวลาประเทศไทย ระบุว่า ตนได้รับการวินัจฉัยว่าเป็น “โรครัมเซย์ฮันต์ ซินโดรม” (Ramsay Hunt Syndrome) หลังจากตนติดเชื้อไวรัสที่สร้างความเสียหายให้กับระบบประสาทหูและระบบประสาทใบหน้าโดยอาการค่อนข้างรุนแรง
“อย่างที่คุณเห็นตาข้างนี้ไม่กระพริบ ผมไม่สามารถยิ้มได้บนหน้าด้านนี้จมูกฝั่งนี้ก็จะไม่ขยับ คือมันเป็นอัมพาตโดยสมบูรณ์ที่ใบหน้าฝั่งนี้ของผม” บีเบอร์ระบุ
นอกจากนี้ บีเบอร์ยังระบุว่า หวังว่าทุกคนจะเข้าใจที่ต้องยกเลิกการแสดงลงเนื่องจากร่างกายไม่สามารถขึ้นแสดงได้ คิดว่าจะไม่เป็นอะไรมาก แต่ร่างกายของตนกำลังบอกกับว่าจะต้องพักผ่อนจากนี้จะพักผ่อนรักษาตัว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใดกว่าที่จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ทั้งนี้ อัลบัม Justice อัลบัมล่าสุดของบีเบอร์ปล่อยออกมาเมื่อเดือนมีนาคม 2021 มีกระแสตอบรับดีมากในสหรัฐอเมริกา และก้าวขึ้นไปติดชาร์ตอัลบั้มอันดับที่ 2 ของประเทศอังกฤษ โดยการทัวคอนเสิร์ตในอเมริกาเหนือครั้งนี้เดิมจะสิ้นสุดลงในเดือนกรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ เว็บไซต์พบแพทย์ระบุว่า โรครัมเซย์ฮันท์ ซินโดรม (Ramsay Hunt Syndrome) เป็นโรคซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนจากงูสวัดโดยตรง เกิดจากการที่เชื้อไวรัสเข้าไปจู่โจมเส้นประสาทสมอง ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดหู การได้ยินลดลง เวียนหัว บ้านหมุน ได้ยินเสียงหึ่งๆ เกิดตุ่มน้ำภายในหู เสียการรับรู้รสชาติอาหาร ใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งเบี้ยว ซึ่งจะต้องรักษาด้วยยาต้านไวรัส และต้องรีบรักษาภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากเกิดอาการ เพราะการรักษาตั้งแต่แรกๆ จะทำให้ได้รับผลการรักษาที่ดีกว่า หากช้ากว่านี้อาจทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร