แทบไม่น่าเชื่อว่าหนังสือแฮร์รี พอตเตอร์มีอายุครบ 20 ปีแล้ว นับแต่หนังสือแฮร์รี พอตเตอร์เล่มแรก ” แฮร์รี พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ (Harry Potter and the Philosopher’s Stone) “ตีพิมพ์ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ปี 2540 แล้วก็สร้างประวัติศาสตร์ให้แก่วงการวรรณกรรม กลายเป็นหนังสือที่ทำให้แฟนๆทั่วโลกตื่นเต้น และสร้างปรากฎการณ์มีแฟนหนังสือแห่แหนไปเข้าคิวหน้าร้านหนังสือกันเป็นแถวหยาวเหยียดข้ามวัน ข้ามคืน เพื่อรอซื้อหนังสือทุกครั้งที่มีหนังสือภาคต่อของแฮร์รี พอตเตอร์เล่มใหม่ออกวางแผง
ทั้งนี้ในโอกาสครบ 20 ปีของหนังสือแฮร์รี พอตเตอร์ ทั้งซีเอ็นเอ็นและบีบีซี ต่างมีรายงานพูดถึงอิทธิพลของหนังสือแฮร์รี พอตเตอร์ว่า ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงชนิด”พลิกชีวิต”ให้แก่ เจ.เค.โรว์ลิง นักเขียนชาวอังกฤษเท่านั้น ที่เปลี่ยนฐานะจาก ซิงเกิล มัม ผู้แร้นแค้น แทบไม่มีกิน ที่นั่งเขียนหนังสือแฮร์รี พอตเตอร์ส่วนใหญ่ในร้านกาแฟ ที่กรุงเอดินเบอระ ของสกอตแลนด์ โดยมีลูกน้อยกำลังนอนหลับอยู่ในรถเข็นเด็ก กลายมาเป็น นักเขียนมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยติดอันดับโลก หลังจากหนังสือแฮร์รี พอตเตอร์ 8 เล่มของเธอขายได้กว่า 450 ล้านเล่ม ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆกว่า 60 ภาษา และทำให้โรว์ลิง มีทรัพย์สินกว่า 650 ล้านปอนด์ (ราว 28,405 ล้านบาท) แต่ยังสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้เกิดขึ้นหลายอย่าง อย่างเช่น ทำให้เยาวชนรักการอ่านหนังสือมากขึ้น โดยในรายงานข่าวของซีเอ็นเอ็นอ้างผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่าในยุคที่ผู้คนมากมายนิยมบริโภคข่าวสาร และความบันเทิงผ่านหน้าจอโทรศัพท์ เด็กๆ เยาวชนต่างไม่มีความปรารถนาที่จะอ่านหนังสือ แต่แล้วความฮอต ฮิตของหนังสือแฮร์รี พอตเตอร์ ได้จุดประกายความปรารถนาอยากอ่านหนังสือขึ้นมา เด็กๆต่างแห่กันเข้าร้านหนังสือ ขณะที่ตามห้องสมุดต่างๆ มีคิวขอยืมหนังสือแฮร์รี พอตเตอร์ ยาวเป็นหางว่าว และมีเด็กๆขอพ่อแม่ผู้ปกครองเข้านอนดึกอีกหน่อย เพราะต้องการอ่านแฮร์รี พอตเตอร์ให้จบอีกตอน
ในข่าวยังอ้างผลสำรวจที่หนังสือเดอะ การ์เดี้ยน จัดทำเมื่อปี 2548 ที่พบว่าทั้งเด็กและคุณครูต่างยกย่องหนังสือของเจ.เค.โรว์ลิงว่า ช่วยส่งเสริมความสามารถในการอ่านหนังสือ โดยในผลสำรวจระบุว่า คุณครู 84 % บอกว่า “พ่อมดน้อยทำให้เด็กอ่านหนังสือได้ดีขึ้น และมีคุณครู 73 % ที่ยอมรับว่ารู้สึกประหลาดใจที่เด็กนักเรียนบางคนอ่านหนังสือแฮร์รี พอตเตอร์ ”
อีกทั้งเมื่อปี 2547ยังมีผลสำรวจจากกลุ่มนักวิจัยในประเทศอิตาลี ที่เปิดเผยว่า การอ่านหนังสือแฮร์รี พอตเตอร์ ช่วยทำให้เด็กๆมีความเห็นอก เห็นใจผู้อื่น โดยมีผลการศึกษา 2 ชิ้นที่ระบุพบว่า”การอ่านแฮร์รี พอตเตอร์ ช่วยให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนที่อิตาลีมีทัศนคติต่อกลุ่มคนรักร่วมเพศดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความเข้าใจของนักศึกษามหาวิทยาลัยอังกฤษที่มีต่อผู้ลี้ภัยด้วย ”
จากเรื่องราวเหลือเชื่อ เหมือนฝันที่เกิดขึ้นกับตัวเธอ เจ.เค.โรว์ลิง เคยพูดไว้เมื่อปี 2551 เพื่อเป็นกำลังใจ เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ทุกคนว่า ” เราไม่จำเป็นต้องมีเวทมนต์วิเศษถึงจะเปลี่ยนแปลงโลกได้ พวกเราทุกคนล้วนมีพลังอำนาจอยู่ในตัวเราเอง เรามีพลังอำนาจที่จะจินตนาการถึงวันใหม่ที่ดีกว่าวันนี้ ”
