หลังจากบ่มรักมา8 ปี ในวันนี้ (8 ธ.ค.) กันต์ -อัยดา (พลอย) กันตถาวร ก็ได้ฤกษ์ดีจัดพิธีวิวาห์ที่โรงแรมโพธาลัย เลเซอร์ ปาร์ค หลังจากพิธีมงคลสมรสช่วงเช้าเสร็จสิ้นทั้งคู่ก็ควงกันแถลงข่าวเปิดใจถึงงานวิวาห์ในครั้งนี้ ซึ่งบ่าวสาวป้ายแดงเปิดใจมาว่า
” ผมกับพลอยคบกันมาปีนี้เป็นปีที่ 8 แล้วได้เวลาในการเริ่มนับลูปใหม่ ในการแต่งงานและการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างเป็นทางการ”
“ผมไม่อยากให้เป็นแค่งานแต่งงานงานหนึ่งในปีนี้ที่ทุกคนได้มาร่วม อยากให้มาถึงแล้วสุดและเก็บเป็นภาพความทรงจำไปเลย”
ซึ่งงานในวันนี้เจ้าบ่าวสารภาพจากใจว่าทำเพื่อเจ้าสาวล้วนๆ
“จริงๆงานนี้จัดให้พลอย สำหรับผมในเรื่องของการแต่งงานผมเฉยๆนะ แต่มันน่าจะเป็นเรื่องของผู้หญิงทุกคนที่อยากจะมีงานแต่งงานที่สวยงามหรือสิ่งที่วาดฝัน”
ตนจึงให้อิสระเจ้าสาวออกแบบงานแต่งในสิ่งที่อีกฝ่ายชอบ
” ตื่นเต้นค่ะนอนไม่หลับเลยทั้งๆที่พยายามนอนเป็นครั้งเดียวในชีวิตก็เลยตื่นเต้นมากๆ” เจ้าสาวพูดพร้อมเสียงสดใส
ทั้งนี้กันต์เผยความรู้สึกว่า พิธีวิวาห์ที่เกิดขึ้นนั้น ให้ความรู้สึกตื่นเต้นกว่าที่ตนคิดไว้
” สำหรับผมผมไม่เคยคิดว่าผมจะต้องแต่งงาน หรือว่าเป็นสิ่งที่ผมวาดฝันเอาไว้พลอยเขาอาจมีภาพวาดในหัวของเขาบ้างว่างานแต่งงานของพลอยอาจจะเป็นแบบไหน ”
“แล้ววันนี้วันเกิดเป็นรูปประธรรมขึ้นมาจริงๆ ผมว่าสุดท้ายแล้วมันคือ บรรยากาศและอารมณ์ของคนรอบข้าง มากกว่าที่เราสามารถรู้สึกได้”
เนื่องจากความสุขที่เกิดขึ้นมาจากแขกเหรื่อที่มาร่วมงานด้วยความตั้งใจ แม้จะเผชิญกับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยทั้งฝนตกรถติด
“มันยิ่งทำให้ผมและพลอยรู้สึกว่าเขาไม่ได้มาเพราะเขาต้องมา แต่เพราะว่าเขาอยากมาและตั้งใจมาจริง”
” เราก็เลยอยากทำให้บรรยากาศมันดูอบอุ่นและเป็นกันเองมากที่สุดเพราะแขกคือญาติของทั้งเราและของเจ้าสาวด้วย ซึ่งตอนนี้ก็กลายเป็นญาติของกันและกันไปแล้ว ซึ่งงานพิธีตอนเช้าก็ผ่านไปได้ด้วยดี”
อย่างไรก็ตามตอนนี้ พลอย อัยดา ได้กลายเป็นสมาชิกตระกูลกันตถาวรแล้ว เพียงแต่ภรรยาขอดำรงสถานภาพ’นางสาว’ไว้ ซึ่งตนไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
” เราก็แล้วแต่เขานะเพราะสำหรับผมเป็นเรื่องปกติไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นการไม่เหมาะหรือเป็นการไม่ควรแต่อย่างไร”
” อันนี้ก็ต้องแล้วแต่คู่นะแต่สำหรับคู่ผมก็สบายๆ อยากเป็นนางสาวก็ได้ไม่มีปัญหา ”
สำหรับเรื่องสินสอดทองหมั้นตนขออนุญาตไม่เปิดเผย เนื่องจากเจรจาภายในครอบครัวทั้ง2ฝ่ายแล้วว่า ไม่อยากนำเรื่องของจำนวนเงินมาเป็นตัวกำหนด
“สำหรับผม ผมจะใช้คำว่าตามสมควร ตามที่ผมรู้สึกว่าเรามีกำลังทรัพย์ มีกำลังที่จะมอบให้เขาได้มากเพียงพอ”
” วันนี้เราไปขอลูกสาวเขามาและต้องการดูแลเขา เราต้องมีอะไรบ้าง หรือควรจะมีอะไรบ้าง เอาง่ายๆ เรามีบ้านนะ เราดูแลทำมาหากินเลี้ยงเธอได้ เราสามารถทำให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น หรืออย่างน้อยก็ช่วยกันทำให้มันดีขึ้นได้”
ทั้งนี้ตนและพลอย อัยดา ไม่มีคำมั่นสัญญาที่มอบให้กันเป็นพิเศษ เนื่องจากคิดว่าหลังจากนี้หน้าที่ของทั้งคู่คือการดูแลกันทั้งชีวิต
“กลายเป็นว่าตอนนี้เราเริ่มสร้างครอบครัวของตัวเองกันแล้วที่ต่อไปเราอาจจะต้องมีลูกมีหลานกันต่อไปในอนาคต เราต้องเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ดีแล้ว”
” ผมว่ามันไม่ต้องมีคำมั่นสัญญาอะไร มันคงเป็นเรื่องปกติของคนที่คบกันสองคน ว่าเราจะรักกัน เราจะดูแลกัน เราจะให้อภัยกัน ข้อที่ดีเราจะชอบซึ่งกันและกัน ข้อที่ไม่ดีเราจะรับกันได้ซึ่งกันและกัน”
ส่วนภรรยาสาวกล่าวว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลกันต่อไป
“เราก็ต้องมีความเข้าใจในตัวซึ่งกันและกันมากๆ และจะดูแลกันไปแบบนี้ คงไม่ได้สัญญาอะไร แต่จะทำทุกวันให้ดีที่สุด ให้มีความสุขที่สุดแค่นั้นเองค่ะ”
สำหรับแพลนมีลูกทั้งสองสามีภรรยาคิดว่าเตรียมมีทันทีเนื่องจากอายุ33-32ไล่เลี่ยกันแล้วทั้งคู่ทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ
” เพียงแค่รู้สึกว่าถ้าจะต้องมี เราก็ต้องมั่นใจว่าเราจะสามารถเป็นพ่อคนแม่คนที่ดีได้ และถ้าคิดจะมีแล้วปีนี้ผมกับพลอยก็ไม่ใช่เด็กๆ”
” ผมอายุ 33 ปี ส่วนพลอยก็ 32 ปี จึงคิดว่าอาจจะต้องมีเลย และคิดไว้ว่าอาจจะมี 2 คน เขาจะได้ไม่เหงากันด้วยนะครับ”