เวียร์ ศุกลวัฒน์ กับความไม่อยากเป็นแพะบนความคาดหวัง ในนาม ‘พระเอกเบอร์หนึ่ง’

“ตอนเริ่มก็ไม่รู้ว่าจะออกมาแบบไหนนะครับ” พระเอกหล่อ เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ เล่าถึงละครเรื่องใหม่ของเขา  ‘พชรมนตรา’ ที่กำลังออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ หลังข่าวภาคค่ำ

ที่เป็นอย่างนั้น เขาว่าเพราะแรกๆที่อ่านบท ก็รู้สึกว่าน่าจะออกแนวคอมมิดี้ ตามถนัดของ พิง ลำพระเพลิง ผู้เขียนบทโทรทัศน์ หากพออ่านไปๆ เรื่องราวกลับมีหลากหลายแบบ ทั้งการตามหาเพชร อาถรรพ์ของเพชร ความโลภ กิเลส ความรัก ทั้งของเพื่อน ของครอบครัว ที่รวมๆแล้วก็เข้าท่า ดังนั้นจึงคุยไว้ก่อนละครออกอากาศว่าจะประเดิมเรทติ้งตอนแรกที่ 12 หากเอาเข้าจริงกลับได้มาเพียงครึ่งเดียวคือ 6 ซึ่งเป็นเพราะอะไรเขาไม่รู้ ด้วยเป็นระบบที่ไม่เคยเข้าใจ ดังนั้นจึงตัดสินใจว่าขอวัดจากความเป็นจริงที่ประสบดีกว่า

“ส่วนของละครผมไม่ค่อยหนักใจ เพราะละครสนุกด้วยตัวของมันอยู่แล้ว ผม ก็ดูรอบๆว่ามีคนพูดถึง เท่านี้ก็ดีใจ เพราะจะใช้แบบสมัยก่อน เราเจออะไรในสมัยที่ละครเรทติ้งดี แล้วตอนนี้ยังเจอแบบนั้นอยู่ ก็แสดงว่ามันดี เอาของจริงดีกว่า ที่เราเจอ ที่เราสัมผัสได้ งานที่เข้ามาต่างๆ มันก็ตอบเรา”

เวียร์ในวัย 34 และอยู่ในวงการมาตั้งแต่ปี 2548 บอกว่า ถึงตอนนี้เขายังรู้สึกสนุกกับการเป็นคนเบื้องหน้า จึงยังตอบรับเวลาได้รับการติดต่อให้แสดง ซึ่งตอนนี้นอกจากเรื่อง ‘ผู้บ่าวอินดี้’ ที่ถ่ายทำเสร็จแล้ว ยังมีเรื่อง ‘ยอดรักนักรบ’ ที่กำลังถ่ายทำ ขณะเดียวกันยังขยับไปมีรายการ ‘ซูเปอร์เวียร์’ ของตัวเอง

Advertisement

รายการที่ “เราไปขอเขาทำ” เล่าพลางยิ้ม

ทั้งนี้ซูเปอร์เวียร์ที่เขาว่า เป็นรายการ……. ที่แต่ละปีจัดมีเพียง 9 เทปเพื่อออกอากาศในวัน …… ทางช่อง 7 ซึ่งที่ผ่านมาตลอดเวลา…ที่ออกอากาศไป “ไม่ได้กำไรสักบาทเลย”

Advertisement

“เป็นรายการที่ไม่ได้ตังค์” ย้ำแบบชิลล์

นั่นเพราะเป้าประสงค์เขา คือได้ทำในสิ่งที่อยากทำ คือการได้ให้ และคืนอะไรกลับสู่สังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีจะตาย

“ก็เห็นอยู่ ให้ปุ๊บมีความสุขปั๊บ”

นอกจากรายการนี้ เขายังไม่คิดจะมีรายการอื่นเพิ่ม รวมทั้งยังไม่คิดขยับไปเป็นคนเบื้องหลัง แม้จะมั่นใจว่าถ้าจะทำ ก็ทำได้

“ตรงนี้โอเคอยู่นะ สนุก”

“จริงๆผมมีคอนเนคชั่นหมดทุกอย่าง เพียงแต่พร้อมหรือยัง บอกตัวเองว่าถ้าพร้อม พรุ่งนี้เช้าก็แค่โทรไปบอกว่าพร้อมแล้ว เริ่มได้เลย คือมีทีม มีทุกอย่าง แต่ยังไม่อยากทำ เพราะรู้สึกว่าเรายังเต็มที่กับงานเบื้องหน้าได้”

เพราะที่คิดไว้คือ “ถ้าไปเบื้องหลัง คงไปเลย”

กับ 15 ปีในวงการ ถ้าดูจากตัวเลขอาจจะมาก หากสำหรับตัวเอง เวียร์บอกว่า เป็นเวลาที่เพิ่งจะเริ่ม

“5 ปี เพิ่งจะมีคนรู้จัก คือคนรู้จัก 1 แสนคน ไม่เรียกนะ ต้องหลักล้านขึ้นไปในประเทศไทย 10 ปีต้องมีผลงานเด่นๆ 1-2 เรื่องที่สำเร็จ 15 ปีต้องเริ่มทำอย่างอื่นพร้อมทำงานบันเทิงไปด้วย และยังประสบความสำเร็จอยู่ ยังไปต่อได้”

“ผมถึงยังเพิ่งเริ่มไง”

บอกด้วยว่าตอนนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป แถมทีวีก็มีมากช่อง นักแสดงอย่างเขาจึงรู้สึกเหมือนได้ต่อเวลา เพราะถ้ามีแค่ไม่กี่ช่องเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้เขาอาจต้องรับบทเป็นพ่อแล้ว และเพราะอย่างนั้นตามความเห็นของเขา หากนักแสดงคนไหนดูแลตัวเองได้ดี และมีความสามารถมาก ก็มีสิทธิจะได้บทเด่นไปจนอายุ 40-50 แถมอาจเป็นพระเอกได้อีกต่างหาก

เขาเองก็วางเป้าจะแสดงไปเรื่อยๆเช่นกัน

“แต่คงไม่เยอะแบบสมัยก่อน ขอสัปดาห์ละคิว ประมาณ 3-4 วัน ไม่อัด 7 วันตลอดสัปดาห์ พักผ่อนบ้าง เดี๋ยวป่วยตายไป ไม่ได้ใช้เงิน” บอกแผนแล้วเจ้าตัวก็หัวเราะเบาๆ

พระเอกคนดังยังเล่าด้วยว่า เขาเองเป็นคนให้ความสำคัญกับอะไรๆหลายอย่าง ซึ่งถ้าให้เรียงลำดับ ก็จะ เน้นสุขภาพเป็นอย่างแรก ด้วย “ถ้านอนน้อยก็ไม่อยากทำงาน ถ้าไม่ออกกำลังกายก็ไม่อยากทำงาน”

สุขภาพจึงมาก่อน แล้วต่อด้วยงานเป็นลำดับที่ 2

ถัดมาจึงเป็นเรื่องของตัวเอง การไปเที่ยว พักผ่อน และการทำธุรกิจ

ส่วนเรื่องความรักน่ะหรือ?

“เราก็เรียนรู้กันและกันไป”

อย่างไรก็ดีที่ผ่านมากับ เบลล่า ราณี แคมเปน นั้น ไม่มีการระบุกันว่า ในการคบ เขาต้องทำสิ่งไหน เธอต้องทำอะไร รวมไปถึงใครจะต้องปรับตัวด้านใด

“จะรู้ด้วยตัวของแต่ละคนเอง ว่าต้องอยู่ยังไง ทำอะไรควร ไม่ควร ต้องมีสมองที่จะคิดเองได้”

“เหมือนเรามีเพื่อนน่ะ ถ้ารู้ว่าเพื่อนไม่ชอบแบบไหน เราก็ไม่ทำแบบนั้น คล้อยตามกำลังดี”

“สิ่งที่เราคุยกันเป็นสิ่งที่คนนอกไม่บอก คนในเท่านั้นที่พูด แล้วจะฟัง มันจะมีแค่ไม่กี่คนที่เราฟังไง ซึ่งอย่างผมกับเขาก็จะฟังซึ่งกันและกัน เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครเตือนเราได้ เพราะว่าเราค่อนข้างเก๋า ทุกคนก็เก๋าหมดแหละ”

และถ้าจะถามถึงอนาคตชีวิตคู่ เขาก็บอกมาแบบสั้นๆ แต่จริงแท้ว่า “ตามธรรมชาติแล้วกัน เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น”

อย่างไรก็ดีที่ตั้งใจไว้คือ จะแต่งงานเมื่อพร้อม ซึ่งนั่นไม่ได้หมายถึงด้านความรู้สึกอย่างเดียว แต่เหมารวมถึงฐานะ คือ ณ จุดๆนั้นต้องไม่มีหนี้สิน ทุกวันนี้ที่พยายามทำอยู่จึงเป็นการหาเงินมา แล้วก็เก็บ

“สร้างฐานะ สร้างอาณาจักร”

เขายังบอกอีกว่า ทุกวันนี้เขาเองพยายามใช้ชีวิตให้ดีที่สุด

“เต็มที่ที่สุด มีความสุขด้วย สนุกด้วย ไม่ใช่ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่อินดี้เกิน ต้องแบ่งๆกับสังคมบ้าง คนรอบข้างบ้าง ไม่เดินก้มหน้าคนเดียว พอบางคนเริ่มโต เจออะไรมาก็ขัดไปหมด แต่บางทีถ้าเรามองคนนั้นคนนี้บ้าง เดินไปข้างหน้า ไปกันเยอะๆดี ดึงเพื่อนกันไปนั่นแหละ”

“มันเป็นเวลาที่เราทำให้ตัวเองมาประมาณหนึ่งแล้ว ถ้ามีเวลาก็เผื่อแผ่คนอื่น”

 

พระเอกเบอร์ 1

กวาดตามองรายชื่อพระเอกของวิกหมอชิตแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตอนนี้฿เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ฿ คือ ‘พระเอกเบอร์ 1’ ของช่อง

การถูกมองอย่างนี้ เวียร์บอกไม่เขิน เพราะโดยส่วนตัวไม่ได้คิดอะไรในเรื่องดังกล่าว เพียงแต่อดรู้สึกไม่ได้ว่า มีความคาดหวังพุ่งเข้ามาหาเยอะ

เยอะเกินไป

“จนทำให้รู้สึกว่านี่เราต้องไปคาดหวังกับพวกเขาด้วยป่ะ” บอกแล้ว เวียร์ก็ยิ้ม

แต่ก็นะ มันจริงนี่ ที่พอมีละครใหม่ของเขาออกมา แล้วหลายคนก็จะจับจ้องบอก เย้, ละครเวียร์มาแล้ว-นี่เราว่า

แล้วเขาก็บอก “นั่นแหละ เหมือนเขาส่งความเครียดมาให้เรา และถ้าออกมาแล้วมันไม่ดี คุณจะว่าผมไหม จะโทษใคร” เขาย้อนถาม

“ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้กะเอาพี่เวียร์ออกมาช่วยกู้หน้า แต่เรทติ้งไม่ขึ้น กลายเป็นว่าเราผิดเหรอ เราเป็นแพะเหรอ ไม่ดูอย่างอื่นด้วยเหรอ”

“แต่มันก็ดีนะ” นี่เขามองในอีกมุม

คือ “มันทำให้ผมต้องแสดงแบบตั้งใจ”

“ลองไปดูในละครแล้วกัน ว่าผมแสดงดีหรือเปล่า ถ้าเล่นดีแล้วก็ให้อภัย แต่ถ้าเล่นไม่ดี ทำให้ละครแย่ เออ…ยอมรับผิดเลย”

 

จะว่าไปนี่ก็อาจจะเข้าข่าย ‘ยิ่งสูงยิ่งหนาว’ อย่างที่เขาพูดๆกัน

“มันทำให้เราต้องคัดเลือกอะไรมากขึ้น ละเอียดขึ้นในการจะทำอะไรสักอย่าง แต่ผมไม่ขนาดนั้น ผมว่าถ้าเราทำให้ดีที่สุด ในสิ่งที่เราได้รับ คนมองเห็นนะ”

เพียงแต่อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าหากต้องอยู่บนความคาดหวังนั้นจริง ถ้าเรทติ้งเรื่องที่เล่นออกมาดี อันนี้คือเสมอตัว

“ไม่มีใครมาบอก เวียร์สุดยอด เจ๋งว่ะ เก่ง”

แต่ในทางตรงข้าม หากงานออกมาแป้ก ก็มีสิทธิโดนถล่ม

“ผมเลยบอกว่าอย่าให้ความสำคัญ หรือคาดหวังอะไรกับเรามาก เราก็มีหน้าที่ของเรา เราเต็มที่ของเราอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก”

“ช่วยๆกันมันต้องดี”

เวียร์ผู้ไม่อยากเป็นแพะบอก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image