ป๋อ-เอ๋ ควงคู่เปิดใจ เล่าปัญหา เผยสาเหตุที่ทำให้ก่อนหน้านี้ตัดสินใจหย่า
มีข่าวว่า ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ กับ เอ๋ พรทิพย์ ภรรยาได้หย่าขาดจากกันเพื่อแก้เคล็ด การนี้ทั้งคู่จึงพากันมาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บSHOW โดยยอมรับว่าช่วงนั้นทะเลาะกันหนักมาก
“เป็นช่วงที่ภูดิศขวบสองขวบ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราได้กลับมาเป็นตัวเอง และเริ่มเกลียดกัน พูดไม่เข้าหูกัน เหมือนยิ่งพูดก็ยิ่งแย่ ยิ่งเคลียร์ก็ยิ่งไปกันไม่ได้ แล้วเรื่องที่ทะเลาะก็จะคล้ายๆ เรื่องเดิม ตอนนั้นเราก็คิดว่าอาจจะมีการหย่า แต่ก็คิดถึงลูกแหละ เลยคุยกับเอ๋ว่า เอ๋เห็นไหมว่าคนจะเลิกกันตอนลูกขวบหรือ 2 ขวบทั้งนั้นเลยนะ”
ด้านเอ๋ก็เสริมว่า ตอนนั้นแยกห้องกันนอน เพราะเวลาป๋ออารมณ์ไม่ดี จะขึ้นเร็วและแรง เขาเลยไปนอนอีกห้อง
“เรื่องที่ทะเลาะกันเป็นเรื่องจุกจิก คือเอ๋เป็นคนเลี้ยงลูกเอง ก็จะเหนื่อย เราก็งอนว่าทำไมเขาไม่เข้าใจ”
เมื่อมีปัญหาที่ว่าป๋อก็ไปหาพระอาจารย์ที่นับถือ
“คือไปไหว้พระเราก็สบายใจ แล้วก็รู้สึกว่าการได้ถ่ายถอดปัญหาของเรากับคนกลาง คนกลางก็จะช่วยได้ ผมก็เลยไปปรึกษาท่าน ท่านก็บอกว่างั้นไปหย่าสิ อีก 6 เดือนค่อยมาแต่งกันใหม่ ตอนแรกผมก็คิดว่ามันต้องเป็นการแก้เคล็ดเป็นเรื่องไสยศาตร์แน่ๆ เพิ่งมารู้ตอนหลังว่ามันเป็นกุศโลบายของท่าน เพื่อเมื่อถึงเวลาที่เราจะต้องหย่ากันจริงๆ ตอนที่เราเซ็นมันเกิดความรู้สึกบางอย่าง ตอนนั้นผมรู้สึกกลัว กลัวเขาจะมีคนใหม่ กลัวเขาจะชอบชีวิตที่ไม่มีผม ก็เลยทำข้อตกลงกัน หนึ่งคือเอ๋ห้ามมีคนอื่น สองเอ๋ห้ามไปเที่ยวและเปิดโอกาสให้ตัวเองมากเกินไป สามก็ต้องย้อนกลับมาข้อหนึ่งอีกคือเอ๋ต้องรักพี่คนเดียวเท่านั้นนะ”
“ตอนที่ฟังข้อตกลง เอ๋ก็งงมาก” นี่เอ๋เล่า
“เพราะปกติเขาเป็นคนแข็งๆ ไม่เคยพูดอะไรแบบนี้เลย แต่ก็รู้สึกว่าดีเหมือนกัน เพราะเขาจะได้รู้ว่าผู้หญิงไม่ใช่คนที่จะต้องเป็นฝ่ายยอมอย่างเดียว แต่เอาจริงๆ ก็คือเขาก็รักเรานั่นแหละ ส่วนตอนที่ไปเซ็นใบหย่าเราก็รู้สึกสั่นๆ เหมือนกัน ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าอีก 6 เดือน อย่างไรก็ต้องกลับมาจดทะเบียนกันอีกที ตอนนั้นรู้สึกแป้วๆ ว่าจริงเหรอ แล้วก็คิดต่อว่าถ้าอนาคตเรายังทะเลาะกันเ แล้วเราจะกลับมาจดทะเบียนกันอีกไหม”
หลังจากหย่าครั้งนั้น ป๋อบอกว่าสถานการณ์ดีขึ้นมาก
“เหมือนท่านให้เราไปสัมผัสกับสถานการณ์จริง ว่าถ้าหย่ากันจริงๆ จะรู้สึกอย่างไร พอกลับมาเซ็นใหม่เราเลยเลือกที่จะปรับตัวเอง”
แล้วคลั่งเมียนี้ตอนไหน? กับคำถามนี้ป๋อสารภาพว่า “ก็ช่วง 6 เดือนที่เซ็นต์ใบหย่านี่แหละ”
“เพราะผมเปลี่ยนอะไรเขาไม่ได้เลย ควบคุมเขาไม่ได้สักอย่าง ก็เริ่มคิดได้ว่าในเมื่อเขาไม่สนใจเรา เราก็สนใจเขาแทน แล้วผมก็เริ่มเปลี่ยนตัวเอง โดยเริ่มจากลงรูปเขาสวยๆ”
ส่วนเอ๋เมื่อเห็นอย่างนี้ เธอก็รู้สึกงง
“พอเขาเปลี่ยนเราก็งงและเริ่มกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่า คือจากคนที่ไม่เคยลงรูปเอ๋เลย ไม่เคยถ่ายรูป ไม่เคยขอรูป ไม่อะไรทั้งสิ้น ตอนนี้มีหมด บางทีเอ๋ยังไม่ได้ลงเลย เขาก็เอารูปเราไปลง ช่วง 6 เดือนที่หย่ากันพี่ป๋อเปลี่ยนแทบทุกอย่าง จากเป็นคนที่รักตัวเอง เขาก็ทำให้เราเห็นว่าเขารักเราจากที่ชอบดูทีวี ชอบดูหนังก็ดูน้อยลง มาช่วยดูลูกมากขึ้น”
และไม่ใช่เพียงแค่นั้น แต่เขาก็ยังเปย์เพื่อเอาใจเอ๋อย่างหนัก
“ผมจัดทุกเทศกาล อย่างคริสมาสต์ ปีใหม่ วาเลนไทน์ และยังมีวันเกิดเขาอีก ก็จะรวบมัดตึงแล้วจ่ายเช็ค 1 ใบ เป็นหลักล้านแน่นอน แต่ผมขอเอ๋อย่างเดียวว่ าจะโพสต์อะไรก็ได้ แต่อย่าโพสต์เงิน คือเราไม่อยากให้ใครมองว่าเราไม่ดี คือผมเห็นว่าเขาทำงานหนัก แล้วผมเคยซื้ออะไรให้เขา เขาก็ไม่ชอบก็ให้เป็นเช็คดีกว่า ให้ไปซื้อเอง”
ป๋อยังบอกอีกว่าก่อนหน้านี้เขาเป็นคนไม่หึงเลย เพราะเอ๋เป็นคนไม่เปิดโอกาสให้ใคร แต่ช่วงหลังเขาสวยขึ้นมาก
“บางครั้งก็เป็นห่วง บางครั้งก็แสดงความงี่เง่าบ้าง ผมเชื่อว่าเขารำคาญ”
อย่างไรก็ตามเอ๋บอกว่า ถ้าเทียบกับแต่ก่อน แบบนี้ยังดีกว่าที่เขาไม่สนใจเราเลย
ป๋อเล่าอีกว่าหลังจดทะเบียนกันอีกครััง สถานการณ์ของเขากับเธอก็ดีขึ้น
“บรรยากาศเริ่มดีขึ้น เพราะ 6 เดือนที่ผ่านมาเราเริ่มไม่ทะเลาะกันแล้ว แล้วเราก็ได้ข้อคิด ว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ คนข้างนอกอาจจะมองว่าครอบครัวเราดี ก็ยอมรับว่าบางครั้งมันก็เป็นภาพที่เราสร้างขึ้นมา คนเราคงไม่มีใครลงเรื่องไม่ดีให้คนอื่นเห็นหรอก แต่ทุกคนก็ต้องเจอปัญหาในการใช้ชีวิต ทุกครอบครัวต่างมีปัญหาของตัวเอง อยู่ที่ว่าเราจะใช้สติฝ่าฟันไปได้อย่างไร”
ขณะที่เอ๋ก็ว่า “ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกด้วย แล้วเราก็คบกันมานาน ที่สำคัญเอ๋คิดว่าการที่เราจะไปเริ่มกับใครใหม่มันไม่ได้หมายความว่ามันจะโอเคแล้วไปได้ตลอดรอดฝั่ง ในเมื่อเรารักกันอยู่แล้วเราก็มาปรับจูนกันดีกว่า แต่เอ๋ขอเขานะ ว่าขอใช้นางสาวได้ไหม แต่เขาไม่ให้”
ทั้งคู่ยังได้เล่าถึงลูกชายทั้ง 2 และเรื่องลูกสาวที่ป๋ออยากได้ในรายการด้วย
