เผยเหตุอุบัติเหตุ’น้องอิน’ จากปาก ‘บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์‘ ชี้ รีบบึ่งรถหาแฟนทอม

หลังจากมีข่าวถึงการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ของ น้องอิน-ณัฐนิชา เชิดชูบุพการี ก็เกิดข้อสงสัยถึงสาเหตุการประสบอุบัติเหตุ รวมไปถึงการให้สัมภาษณ์ของคุณแม่ ลัดดา ว่าน้องอินได้บอกว่าเดินทางถึงคอนโดย่านบางนาแล้ว แต่กลับไปเสียชีวิตแถวบางปะอิน ล่าสุดวันนี้ (8 เมษายน) บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ในฐานะเจ้าภาพงาน ได้ออกมาเปิดใจเล่าเรื่องเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังพร้อมทั้งยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น

“ผมได้คุยกับอดีตแฟนของน้องอินคือเบลที่เป็นผู้ชาย และแฟนคนปัจจุบันคือน้องไทม์ ซึ่งเป็นทอม วันนั้นน้องไปพัทยากับเพื่อน 4-5 คน ตอนนั้นประมาณ 3 ทุ่มกว่าเกือบ 4 ทุ่ม น้องไทม์เป็นแฟนใหม่ที่รู้จักกับน้องอินเป็นปีแล้ว แต่ตอนนั้นไทม์ไปเรียนต่อที่อังกฤษ และน้องอินก็ได้มาสนิทสนมและคบกับน้องเบล จนทั้งคู่ก็ได้ห่างกันและเลิกกันแล้ว แต่ก็ยังทำธุรกิจด้วยกันอยู่ แล้วไทม์ก็ได้กลับมาที่เมืองไทย แล้วน้องอินก็ได้กลับมาคบกับน้องไทม์ต่อ วันนั้นที่อยู่พัทยา น้องอินก็โทรมาหาน้องไทม์ บอกว่าเบื่อมากที่พัทยาจะไปหาไทม์ได้ไหม แต่ไทม์บอกว่าถ้าเที่ยงคืนแล้วไม่ต้องมา เพราะมันดึกเกินไป แต่น้องอินก็ถามว่าจากพัทยาไปอยุธยากี่กิโล น้องไทม์บอกว่า 200 กว่ากิโล น้องอินเลยบอกว่าใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว ซึ่งไทม์บอกว่าเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมง ถ้าจะมาจากพัทยา 4 ทุ่ม ก็ต้องมาถึงอยุธยาเที่ยงคืน ไทม์ก็ไม่ให้มา แต่ด้วยความที่น้องอินอยากจะเจอน้องไทม์ ตอนที่ออกมาจากพัทยาประมาณ 5 ทุ่มกว่า แต่บอกน้องไทม์ว่าออกมาสักพักแล้ว”

“ประมาณตี1กว่า น้องอินมาถึงประมาณ กรุงเทพ คุณแม่โทรหาน้องอินประมาณ 01.17 นาที ถามว่าน้องอินอยู่ไหน น้องอินบอกแม่ว่าอยู่คอนโดแถวบางนา แต่ความจริงน้องอินไม่ได้อยู่คอนโด แต่กำลังไปอยุธยา แต่ตอนนั้นยังไม่ถึงอยุธยา ประมาณเกือบตี2 น้องอินยังไม่ถึงอยุธยา แต่บอกกับไทม์ว่าอีกประมาณ 50 กิโล จะถึงอยุธยา ตอนนั้นไทม์อยู่อยุธยาบอกว่าตอนนี้ฝนตกหนักมาก ถ้าอินอยู่กรุงเทพก็ไม่ต้องมา ให้ตีรถกลับกรุงเทพไปเลย แต่อินบอกว่าจะถึงแล้ว ถ้ามาแล้วยังไงก็ต้องขอเจอ เพราะว่าคิดถึง และน้องไทม์เขาบอกเรื่องหนึ่งว่า คือคุยกันประสาแฟน ว่าน้องไทม์จะลงรูปคู่กับน้องอินในอินสตาแกรมได้ไหม เปิดเผยได้ไหมว่าเราคบกัน น้องอินก็บอกได้เลยไม่เป็นไร แต่ด้วยความที่อารมณ์อะไรก็ไม่รู้ ก็จะมีที่น้องอินไม่พอใจน้องไทม์นิดหน่อยระหว่างทาง ไทม์บอกว่ามีปากเสียงกัน จนกระทั่งตี2 ครึ่ง เริ่มคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว น้องอินบอกว่าเอาอย่างนี้ดีกว่า เจอกันค่อยคุยกันเลยวางสายไป”

“หลังจากวางสายไปได้ประมาณ 2 นาที ไทม์ก็โทรหาใหม่ น้องอินก็รับ คุยกันไม่ถึงนาทีก็บอกว่ากำลังจะถึงแล้ว กำลังจะรีบขับรถ แล้วก็วางสายใหม่ จากนั้นน้องไทม์ก็ไม่ได้โทรตามอีก จนกระทั่งตี 3 โทรไปอีกก็ไม่ได้รับการติดต่อ โทรไป 10-20 รอบก็ไม่มีคนรับ น้องไทม์เลยเข้าใจว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในวันนั้น น้องอินยังไปไม่ถึงน้องไทม์ อยู่ระหว่างกำลังจะถึงอยุธยาแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้น ณ ตอนนั้น เพราะดูจากที่เกิดเหตุแล้วไม่มีรอยเบรคเลย แสดงว่าขับรถมาด้วยความเร็วมาก ประกอบกับฝนตกถนนลื่น ตอนที่กู้ภัยไปเจอรถและร่างของน้องอิน ตอนนั้นน้องอินเริ่มมีการแข็งแล้ว คือต้องเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 4-5 ชั่วโมง แน่นอนว่าน้องอินต้องเสียชีวิตประมาณตี 3 ตอนที่น้องไทม์จะโทรมาถามว่าถึงหรือยัง ทำไมหายไปนาน หรือว่ากลับกรุงเทพก็เป็นห่วง จนตี 4 ก็ยังโทร จนไม่ไหวแล้ว คิดว่าน้องอินคงงอนและกลับไปนอนแล้ว จนกระทั่งทราบข่าวเสียชีวิตประมาณ 9 โมงเช้า คาดว่าตอนตี 3 ที่น้องอินประสบอุบัติเหตุไม่มีรถผ่านมาเลย จนมาเจอตอนเช้า”

Advertisement

สาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุเพราะอะไร

“น้องไทม์ยืนยันว่าน้องอินไม่ได้กินเหล้า ไม่ได้ง่วงนอน ตอนคุยก็ยังปกติมาก ไม่มีอาการแบบนั้นเลย คิดว่าน่าจะเป็นลักษณะรีบขับ แล้วฝนตกหนักไป จึงชนขอบสะพาน ซึ่งไม่มีรอยเบรคเลย”

Advertisement

“เรื่องโทรศัพท์ที่หายไป ผมถามน้องไทม์และถามกู้ภัยไม่มีใครรู้เหมือนกัน ไม่มีใครเจอ มันอาจจะกระเด็นตกตรงไหนสักที่ ที่เรายังไม่ได้ไปหาจริงๆจังๆ”

“ส่วนเรื่องที่กู้ภัยอินบ๊อกไปในเฟซบุ๊กส่วนตัวของน้องแบมบี้ ผมไม่ทราบข้อมูลนี้ ว่าทราบได้ยังไง เพราะวันนั้นกู้ภัยที่มาส่ง ผมก็อยู่ เขาก็เล่าให้ฟังว่าเจอร่างน้องอินประมาณ 7 โมงกว่า เจอกระเป๋าสตางค์ และของทุกอย่าง แล้วก็ตามหาญาติ แต่ผมไม่รู้ว่าเขาไปอินบ๊อกถามใคร ผมไม่ทราบ ส่วนเรื่องโทรศัพท์ก็ต้องหาต่อไป”

เส้นทางที่ไปน้องอินเคยขับไปแถวนั้นมาก่อนไหม

“ถนนเส้นนั้นน้องไม่เคยไป บ้านน้องไทม์ไม่ได้อยู่อยุธยา เพียงแต่เขาไปเที่ยวที่อยุธยาแล้วน้องอินจะไปหาเท่านั้นเอง ในข่าวบอกว่าน้องทอมคนนี้เรียกน้องอินไปถึงเสียชีวิต แต่น้องไทม์ห้ามแล้วว่าถ้าเกินเที่ยงคืนไม่ต้องมา แต่อินพยายามจะไปหา ไม่ได้ทะเลาะกัน แต่มีขึ้นเสียงกันนิดหน่อย และน้องไทม์บอกว่าถ้าอินจะขึ้นเสียงอย่างนี้อย่าเพิ่งคุยดีกว่า แล้วกำลังขับรถด้วย เขาก็โอเคบอกว่าไปถึงแล้วค่อยคุยกัน ตอนนี้ไทม์เขาก็เสียใจมาก”

“เมื่อกี้ก็คุยกับไทม์ ผมต้องคุยเพราะต้องเอาเรื่องจริงมาพูด เพราะเมื่อวานผมเจอ ผมก็ฟังจากน้องเบลมาระยะนึงว่ามันเป็นยังไง แต่พอน้องไทม์พูด โอเค มันคนละเรื่อง น้องเบลอาจจะเข้าใจผิด

บิณฑ์ได้เห็นแชทหรือข้อความที่คุยกันมั้ย

“เมื่อกี้เขาเอาให้ดูครับ ระยะทางนี่เขาคุยกันมาตลอดจนกระทั่งถึง 02.30 น. จนกระทั่งมีการโทรอีกครั้งตอน 02.32 น. แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกัน แล้วเขาก็โทรอีกตอนตี 3 กว่าๆ ก็ยังติดอยู่นะ โทรศัพท์ติดอยู่ตลอด นั่นเขาก็คิดว่างอนก็เลยหลับ

ทางคดีความต้องเคลียร์ไหมกับน้องไทม์ ต้องมีการสอบปากคำเพิ่มหรือไม่

“ผมไม่ทราบเรื่องคดีความอะไร ก็แล้วแต่ทางญาติ ถ้าญาติรู้สึกว่าอยากจะค้นหาความจริงว่าเป็นยังไง แต่ถ้าไม่ติดใจก็คือไม่มีคู่กรณี คือเกิดอุบัติเหตุด้วยตัวเอง

รถเองก็ไม่มีอะไรผิดพลาดในเรื่องของการทำงาน

“ไม่มีครับ เพราะการขับมาด้วยความเร็วและไม่สามารถเอารถหยุด รถบีเอ็มคันนี้ออกมาครั้งแรกเนี่ยประมาณ 2 อาทิตย์ ก็มาเรียกผมไปนั่ง ก็พูดตรงนี้ว่าทำไมผมต้องมาเกี่ยวกับน้องอิน น้องอินรู้จักผมตอนอายุ 8 ขวบ ก็เหมือนกับเป็นญาติคนนึงของผม ก็สนิทสนมกันมาตลอด ไปไหนก็จะเรียกน้องอินไป น้องอินเป็นคนที่ธรรมะธัมโม เข้าวัดไปกับผมไปนั่งวิปัสนา ไปเก็บศพไร้ญาติเขาก็จะไปตลอด เราเลยคิดว่าสิ่งนึงที่เกิดขึ้นเนี่ย ผมก็แปลกใจว่าทำไมถึงต้องเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับน้องอิน เรารู้จักน้องมาตลอด แล้ววันนั้นที่เขาเอารถมารับเราก็แปลกใจว่าขับรถเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ คือมีสักระบะนึงที่น้องอินเข้ามหาลัย ก็จะหายจากผมไปสักระยะนึงก็มีติดต่อมาว่าน้องอินออกรถแล้วนะ พี่บิณฑ์มานั่งหน่อยสิ ก็ตกใจมาก ขับรถเร็วมาก เราก็บอกอย่าขับรถแบบนี้นะอันตรายมาก เขาก็บอกไม่เป็นไรน้องอินดูแลตัวเองได้ ตอนนั้นขับความเร็วประมาณ 130-140 ปกติเราขับผู้ชายโอเคเอาอยู่ แต่น้องอินเนี่ยตอนนั้นอายุประมาณ 19-20 ก็รู้สึกว่าเร็วเกินไป แล้วล่าสุดเมื่อประมาณ 5 วันที่ผ่านมา ผมก็ไปทานข้าวกับน้องอินมา แม่พาน้องอินมาคุยเรื่องธุรกิจนี่แหละ ก็มานั่งคุย นั่งทานข้าวกัน นั่นคือเหมือนกับว่าเป็นลางสังหรณ์ล่าสุด เพราะน้องบอกว่าไม่ได้เจอกันนานแล้ว มาเจอกันหน่อย แล้วเมื่อวานก่อนเสียชีวิตเมื่อตอนเที่ยงวันก็ไลน์มาถามว่าว่างเมื่อไหร่ ผมก็บอกตอนนี้กำลังยุ่งอยู่แต่ก่อนสงกรานต์เจอกันแน่ แล้วตอนเช้าก็มาเจอว่าน้องเสียชีวิต”

เรื่องราวที่เกิดขึ้นแม่น้องอินได้รับทราบทุกอย่างแล้วใช่มั้ย

“บางเรื่องก็ยังไม่ได้รับทราบ เพราะตอนนี้ยังโศกเศร้าก็เลยยังไม่ได้พูดอะไร แต่เพียงรู้คร่าวๆ ว่าตอนคุณแม่โทรหาน้องอินตอน 01.17 น. น้องอินบอกว่าอยู่คอนโด เพราะอยากให้แม่สบายใจ”

เหตุผลที่ตัดสินใจออกมาพูดเพราะอะไร

“อยากให้ทุกคนรู้เลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ยมันเป็นมาเป็นไปยังไง บางคนไปบอกว่าน้องอินขับรถกินเหล้าเมา คืออยากให้รู้ว่าไม่ใช่ แล้วก็ไม่ได้ง่วงด้วย ตอนแรกผมให้ข่าวยังคิดว่าผมผิดเลย เพราะขับรถจากพัทยาเนี่ยคิดว่าน้องง่วง แต่น้องไทม์พูดแล้วว่าน้องอินไม่ได้ง่วงเลย ขับรถมีสติสัมปชัญญะทุกอย่าง ด้วยความที่ไม่เคยชินพื้นที่ แล้วประกอบว่าฝนตกหนักแล้วเกิดอุบัติเหตุ”

หลังพิธีศพคุณแม่จะทำอย่างไรต่อไป

“ก็เดี๋ยวเราสวด 3 คืน วันนี้วันแรก วันที่ 9-10 แล้ววันที่ 11 ก็ฌาปนกิจเลย แล้ววันที่ 12 ก็เอาน้องไปลอยอังคาร แล้ววันที่ 17 ก็มีทำบุญ 7 วัน”

วางแผนในการเยียวยาคุณแม่น้องอินยังไงบ้าง

“ก็ไม่ห่วงครับเพราะวันนี้ญาติพี่น้องก็มาเยอะ ก็บอกว่าต่อไปนี้จะเข้ามาดูแล ไม่ให้อยู่คนเดียว เพราะกลัวจะเป็นโรคซึมเศร้า กลัวคิดมาก ก็โอเคดี เพราะว่าเรื่องทั้งหมดในวัดผมเป็นคนจัดการเอง ส่วนลอยอังคารน่าจะวัดช่องลม เห็นแม่เขาว่าครับ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image