‘กรมป่าไม้’รับสมัครวุฒิ’ปวช.-ปวส.-ปวท.’ด้านเกษตร ปั้น30’ป่าไม้พันธุ์ใหม่’ประจำเขาหัวโล้น

“กรมป่าไม้” ปั้น 30 ตำแหน่ง “ป่าไม้พันธุ์ใหม่” ส่งประจำฐานปฏิบัติการเขาหัวโล้น รับสมัครวุฒิ “ปวช.-ปวส.-ปวท.” ด้านเกษตรเท่านั้น พร้อมต้องวิ่งอึด 20 กม.ตามหลักสูตร ร.ร.ป่าไม้แพร่ เชื่อสลายศึกสถาบันได้

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมป่าไม้จะเปิดรับข้าราชการรุ่นใหม่เป็นป่าไม้สายพันธุ์ใหม่ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ปฏิบัติงานจำนวน 30 อัตรา เพื่อมาปฏิบัติงานดูแลเขาหัวโล้น ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้อนุมัติตำแหน่งให้เรียบร้อยแล้ว โดยจะรับคนที่จบวุฒิ ปวช. ปวส. และ ปวท.ด้านเกษตร เนื่องจากขณะนี้วงการป่าไม้ไม่มีโรงเรียนป่าไม้แพร่เพื่อจะผลิตนักเรียนป่าไม้ ซึ่งรุ่นสุดท้ายคือรุ่น 36 ปัจจุบันจะมีอายุประมาณ 40 ปี เหลืออายุราชการไม่ถึง 20 ปี จึงต้องเปิดรับป่าไม้สายพันธุ์ใหม่ให้เข้ามาทำงาน โดยเงื่อนไข คือ 1.ต้องมีวุฒิการศึกษาด้านเกษตร ตามที่ ก.พ.กำหนด 2.ผ่านการสอบภาค ก.จาก ก.พ. เมื่อผ่านคุณสมบัติแล้วจะต้องมาสอบข้อเขียนเกี่ยวกับวิชาการป่าไม้ แต่หัวใจสำคัญของป่าไม้พันธุ์ใหม่คือการวิ่ง 20 กม.ให้ผ่าน ตามหลักสูตรของโรงเรียนป่าไม้แพร่ เพราะการวิ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่อยู่ในพื้นที่ รับสมัครทั้งผู้ชาย-ผู้หญิง ถ้าผู้หญิงสอบผ่านก็เป็นป่าไม้สายพันธุ์ใหม่ได้ โดยจะเปิดสอบในเดือนมีนาคม คาดว่าจะเริ่มบรรจุได้ในเดือนพฤษภาคมนี้

นายชลธิศกล่าวต่อว่า เมื่อบรรจุแล้วข้าราชการทั้ง 30 คนจะต้องถูกฝึกอย่างเข้มข้นอีก 6 เดือน แรกของการทำงาน โดยจะมีการจัดทำหลักสูตรย่อของโรงเรียนป่าไม้แพร่ 2 ปี ให้เหลือ 6 เดือน โดยมอบให้นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ รองอธิบดีป่าไม้เป็นคนกำหนดหลักสูตร เพราะจบจากโรงเรียนป่าไม้แพร่ มีนายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร เป็นคนฝึกหัดภาคปฏิบัติในเรื่องการดำรงชีวิตในป่า การใช้อาวุธปืน การขับขี่มอเตอร์ไซค์วิบาก การตรวจสอบรังวัดพื้นที่ การตรวจพิกัดดาวเทียม รวมทั้งเรื่องรุกขกรการเป็นหมอต้นไม้ด้วย เมื่อจบหลักสูตร 6 เดือนแล้ว ป่าไม้พันธุ์ใหม่ทั้ง 30 คนจะถูกส่งไปประจำฐานซึ่งเป็นเขาหัวโล้นตามนโยบายของ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรี ทส.อย่างน้อย 2 ปี จึงจะสามารถขอโยกย้ายไปอยู่ที่อื่นได้ เพื่อเป็นการอุดช่องว่างจำนวนข้าราชการฝ่ายปฏิบัติซึ่งไม่เพียงพอ การเปิดรับป่าไม้สายพันธุ์ใหม่ถือเป็นครั้งแรกของกรมป่าไม้ที่เปิดรับคนที่จบด้านเกษตร เพราะที่ผ่านมากรมป่าไม้จะรับเฉพาะคนที่จบด้านวนศาสตร์ และจบจากโรงเรียนป่าไม้แพร่เท่านั้น

เมื่อถามว่า การเปิดรับข้าราชการผู้หญิงแล้วนำไปประจำฐานที่เป็นเขาหัวโล้นซึ่งมีความยากลำบาก จะสามารถทำงานได้หรือไม่ นายชลธิศกล่าวว่า ต้องยอมรับกติกาว่าเมื่อตั้งใจมาเป็นป่าไม้สายพันธุ์ใหม่แล้วก็ต้องอยู่ในป่าได้ และปัจจุบันผู้หญิงเก่งๆ ก็มีเยอะ ที่สำคัญเราเลือกเพศไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของเท่าเทียมทางเพศ แต่ยอมรับว่าการสอบข้าราชการหรือพนักงานของรัฐของกรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะสอบเข้าได้มากกว่าผู้ชาย เช่น เปิดรับ 10 ตำแหน่ง ผู้หญิงสอบได้ 8 ตำแหน่ง เป็นต้น แต่ก็ต้องยอมรับแม้การปฏิบัติหน้าที่บางครั้งอาจจะมีปัญหาบ้าง ด้วยความเป็นผู้หญิงที่ต้องไปทำงานด้านปราบปรามและป้องกันการบุกรุกพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการปะทะ

Advertisement

เมื่อถามว่า การเปิดรับเจ้าหน้าที่ป่าไม้สายพันธุ์ใหม่เพราะกรมป่าไม้ขาดแคลนบุคลากรหรือไม่ อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า ข้าราชการกรมป่าไม้มีจำนวนไม่มาก เมื่อเทียบกับพื้นที่ป่าที่อยู่ในความรับผิดชอบ กรมป่าไม้ขาดแคลนเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับกลางลงมาจนถึงระดับล่างซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานในภาคสนาม ซึ่งขณะนี้กรมป่าไม้กำลังปรับโครงสร้างใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับงาน เพราะกรมป่าไม้มีข้าราชการระดับอำนวยการจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปิดรับข้าราชการที่จบด้านเกษตรในอนาคตจะมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันหรือไม่ นายชลธิศกล่าวว่า ไม่กลัว เมื่อเข้ามาแล้วทุกคนก็เป็นข้าราชการกรมป่าไม้ทั้งสิ้น บางครั้งการทำงานที่มีเพียงวนศาสตร์กับป่าไม้แพร่ เมื่อผสมกันเองก็จะเป็นสายพันธุ์ที่อ่อนแอ ต้องผสมข้ามสายพันธุ์บ้าง จึงจะได้พันธุ์ที่แข็งแรง

//////

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image