จับกระท่อม170ก.ก.ซุกบ้านกลางสวนมะพร้าว”สตูล” เล็งขึ้นบัญชีเรือเล็กลอบขนจากมาเลย์เข้าไทย

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พล.ต.ต.ทัตธงสักก์ ภู่พันธัชสีห์ ผบก.ภ.จว.สตูล, พ.ต.อ.นิพล เหมสลาหมาด รอง ผบก.ภ.จว.สตูล สั่งการพ.ต.อ.วิชชภัณฑ์ จันทราภรณ์ ผกก.สส.ภ.จว.สตูล พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ ปะดุกา หน.ชปส.ภ.จว.สตูล , ตำรวจสืบสวนภาค 9 , มว.อ.ประยูร สิตพงษ์ รอง.ผบ.ร้อย อส.จ.สตูล บูรณการกำลังกับหน่วยในพื้นที่ ประกอบด้วย กก.สส.ภ.จว.สตูล , กก.สส.3 บก.สส.ภ.9 , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย เข้าตรวจค้นห้องแบ่งเช่าเลขที่ 157 ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล อยู่กลางสวนมะพร้าวได้ของกลางพืชกระท่อมรวม 170 กิโลกรัมพร้อมผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายอุทัยศักดิ์ กงจิบ อายุ 36 ปี หมู่ที่ 1 ต.ควนขัน อ.เมือง จ.สตูล ในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อมสด) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

สืบเนื่องจาก ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายอุทัยศักดิ์ กงจิบ มีพฤติการณ์ลักลอบขนพืชกระท่อมมาเก็บไว้ภายในและรอบบริเวณบ้าน เพื่อเตรียมรอส่งต่อ จึงสนธิกำลังเข้าปิดล้อมค้นบ้านหลังดังกล่าวและพบพืชกระท่อมเกลื่อนอยู่ภายในตัวบ้าน จากการสอบสวน นายอุทัยรับว่ากระท่อมดังกล่าวเป็นของนายสกนธ์ หรือ หนุ่ม ซึ่งว่าจ้างตนให้เฝ้าพืชกระท่อมครั้งละ 500 บาท ที่ผ่านมาพบการนำกระท่อมมาเก็บที่บ้านหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จะสืบสวนขยายผลเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาต่อไป

Advertisement

พ.ต.อ.นิพล เหมสลาหมาด รอง ผบก.ภ.จว.สตูล กล่าวว่า ในที่ประชุมความมั่นคงเห็นชอบจะนำเรือพีช ซึ่งเป็นเรือขนาดเล็กที่มีการทำขึ้นกันเองไว้ใช้วิ่งตามลำคลองมาขึ้นบัญชี หรือขึ้นทะเบียนไว้ให้หมด เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม หลังพบการนำเรือดังกล่าวลำเลียงพืชกระท่อมจากประเทศเพื่อนมาเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ จ.สตูล หลังการจับกุมแต่ละครั้ง พร้อมยึดเรือได้ แต่ไม่มีการขึ้นทำเบียน ทำให้ไม่สามารถสาวถึงผู้กระทำผิดได้ ทั้งนี้เป็นเพียงมาตรการหนึ่งในการแก้ปัญหาการทะลักเข้ามาของพืชกระท่อมในพื้นที่ทางทะเล จ.สตูล

“ขอความร่วมมือพ่อแม่ ผู้ปกครอง โดยเฉพาะผู้นับถือศาสนา ว่าการเสพพืชกระท่อมแม้ไม่มีในบทบัญญัติหลักศาสนา แต่พืชชนิดนี้ทำลายร่างกาย เสพแล้วมีผลต่อร่างกาย ไม่ควรสนับสนุนบุตรหลาน หรือ ต้มไว้เสพภายในบ้าน เรื่องนี้ต้องมีการทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือช่วยกันป้องกันเยาวชน บุตรหลานให้พ้นจากพืชเสพติดเหล่านี้ จากสถิติการจับกุมเทียบเป็นคดี พบมีสถิติการจับพืชกระท่อมเยอะสุด เนื่องจากหลายคนถูกจับแล้วกลับมาทำอีก 2-3 ครั้ง เนื่องจากโทษน้อย หาง่าย ขายคล่อง จ่ายค่าปรับก็สามารถกลับมาจำหน่ายได้อีก ทำให้ได้ผู้กระทำผิดหน้าเดิมๆ บ่อยครั้ง” พ.ต.อ.นิพล กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image