บงฌูร์ยูโร : กระทิง(ไม่)ดุ

ภาพ AFP

เจ้าของแชมป์เก่ายูโร 2 สมัยล่าสุดอย่างทัพ “กระทิงดุ” สเปน ยังคงถูกวางให้เป็นทีมเต็งแชมป์ยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส เพราะหากจะดูตามชื่อชั้นของนักเตะสเปนแล้วเต็มเปี่ยมไปด้วยแข้งพรสวรรค์มากมาย

ไล่ตั้งแต่ อันเดรียส อิเนสต้า มิดฟิลด์จอมเทคนิค, เชสก์ ฟาเบรกาส จอมทัพจากเชลซี, เคราร์ด ปิเก้ ปราการหลังจอมแกร่งจากบาร์เซโลน่า, เซร์คิโอ้ รามอส แนวรับด่านหินจากรีล มาดริด และ อีเคร์ กาซิยาส นายด่านกัปตันจอมเก๋าจากเอฟซี ปอร์โต้

กุนซือกุมบังเหียนทัพกระทิงดุยังคงเป็น บีเซนเต้ เดล บอสเก้ ซึ่งคุมทีมมายาวนานตั้งแต่ปี 2008 และเป็นผู้นำทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์โลก 2010 รวมถึงแชมป์ยูโร 2 สมัยติดต่อกัน แต่จากผลงานล้มเหลวไม่เป็นท่าในศึกฟุตบอลโลก 2014 ด้วยการตกรอบแรกไปอย่างพลิกความคาดหมาย ทำให้สเปนตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมหาศาลในศึกยูโรนี้

สเปนทำผลงานคว้าแชมป์กลุ่มซีในรอบคัดเลือก ลงเตะ 10 นัด กวาดชัยถึง 9 นัด แพ้เพียง 1 นัด เก็บได้ 27 แต้ม สามารถยิงได้ 23 ประตู และเสียไปเพียง 3 ประตู แต่นั่นเป็นการเจอกับทีมรองบ่อนแทบทั้งสิ้น ส่วนเกมอุ่นเครื่องในปีนี้เริ่มต้นด้วยการเสมอ อิตาลี 1-1, เสมอ โรมาเนีย 0-0 ก่อนฮึดชนะ บอสเนีย 3-1, ถล่ม เกาหลีใต้ 6-1 แต่ปิดท้ายพ่าย จอร์เจีย 0-1

Advertisement

ปัญหาสำคัญของสเปนคือเกมรุกอันดุดันดังเช่นแต่ก่อนขาดหายไป รวมถึงการขาดศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ที่เฉียบขาดอย่าง ดาบิด บีญ่า ดาวซัลโวตลอดกาล 59 ประตูที่อำลาทีมชาติ และ เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกที่พังประตูให้ทีมไปแล้ว 38 ประตูก็ไม่ได้ร่วมทัพมาด้วย

ขรัวเฆ่า เดล บอสเก้ ถูกมองว่า “หมดมุข” ในการสร้างมิติเกมรุกให้กับทีม หลังจากยูโรหนก่อนเขาใช้แผนไม่มีกองหน้า และดันให้นักเตะแผงมิดฟิลด์อย่างอิเนียสต้าและฟาเบรกาสขึ้นไปช่วยยืนค้ำแดนหน้า รวมกับแดนกลางด้วยแผนการเล่น “ติกี้-ตาก้า” จนเอาตัวรอดคว้าแชมป์มาได้สำเร็จ

แต่ด้วยวัยอันร่วงโรยของนักเตะมิดฟิลด์คู่บุญหลายคน ประกอบกับศูนย์หน้าเลือดใหม่อย่าง อัลวาโร โมราต้า, ลูคัส บาสเกซ รวมถึง เปโดร, โนลิโต้  หรือ อาริตซ์ อาดูริซ  ก็ยังพังประตูไม่เปรี้ยงปร้าง อีกทั้ง เดล บอสเก้ ยังตัดสินใจไม่เลือก ดีเอโก้ คอสต้า หรือ ปาโก้ อัลคาเซร์  ดาวยิงประจำทีมจากรอบคัดเลือก 5 ประตูติดทัพมากด้วย ทำให้ครั้งนี้กระทิงอาจจะไม่ดุสมฉายาก็เป็นได้

ท่าจะเป็นงานหนักของสเปน และเรียกได้ว่าหนักตั้งแต่รอบแรก เพราะต้องเจอกับทั้งเช็ก, ตุรกี และโครเอเชีย หากผ่านรอบแรกไปได้ก็ยังต้องเจอกับทีมแข็งแกร่งในรอบต่อๆ ไป

และถ้าเกมรุกของสเปนยังไม่เฉียบคมพอก็น่าจะยากต่อการคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 3 ติดต่อกันอย่างแน่นอน…

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image