ยูโร 2016 เป็นยูโรที่แปลก ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมาๆ การเพิ่มทีมจาก 16 เป็น 24 ทีม ทำให้ตกรอบแรกยากมากนะครับ เผลอๆ เล่นให้ตกรอบยังยากกว่าเข้ารอบด้วยซ้ำ
มาตรฐานของเกมคงวัดจากรอบแรกไม่ได้ การต่อสู้ที่แท้จริงจะเริ่มในรอบ 8 ทีม ซึ่งคาดว่าทีมใหญ่ๆ น่าจะผ่านเข้ามาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
ผมยังเชื่อเหมือนคนส่วนมากว่า ฝรั่งเศส เจ้าภาพคือเต็งหนึ่ง โอกาสคว้าแชมป์แจ่มสุด ทีมตราไก่อาจจะถูกมองว่ากองหลังอ่อน เซนเตอร์คู่กลางเชื่องช้า แบ็คซ้าย ปาทริซ เอวร่า ก็โคตะระแก่ แต่เมื่อมองสูงขึ้นไปในแดนกลาง ฝรั่งเศสจะแปลงร่างเป็นไก่เทพขึ้นมาทันที แดนกลางชุดนี้ดีที่สุดในยูโร 2016 มี ปอล ป๊อกบา เป็นตัวคุมเกม แนวรุกแถวสองตุนมหากาฬไว้เพียบ ทั้ง ดิมิทรี ปาเยต์, เบลส มาตุยดี้, อ็องโตนี่ มาร์กซิยัล, อ็องตวน กรีซมันน์
แถวสองของฝรั่งเศสจะเป็นตัวตัดสินเกมทุกนัด ไม่จำเป็นต้องพึ่งกองหน้า โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เลยก็ยังได้
ถ้าทีมตราไก่เป็นแชมป์ยูโรคราวนี้ก็จะเป็นทัวร์นาเมนต์ของเกมรุกบอลสร้างสรรค์ประสบความสำเร็จ คนดูก็แฮปปี้
แต่ก็ยังมีจุดคาใจไม่ชัวร์ว่าฝรั่งเศสจะไปถึงเส้นชัยไหมนั่นก็คือ เทรนด์ของฟุตบอลยุคใหม่ ซึ่งเกมรุกไม่ใช่พระเจ้า หัวใจตัดสินผลแพ้ชนะอยู่ตรงการเล่นตอนไม่มีบอล
ฝรั่งเศสเท่าที่เห็นไม่ค่อยเน้นเกมเพรสซิ่ง ไม่เด่นเรื่องเพรสซิ่ง เนื่องจากตัวเองครองบอลค่อนข้างแน่นอน ไม่ค่อยเสียง่าย เราก็เลยไม่ค่อยเห็นทีมนี้โชว์แท็กติกเกมรับที่สมัยนี้ใครเสียบอลตรงไหนก็เริ่มไล่ตรงนั้น เอาบอลคืนมาให้เร็วที่สุด เริ่มบุกต่อให้เร็วที่สุด
สเปน แชมป์เก่าเล่นแบบนี้ดีมาก เล่นจนเป็นธรรมชาติ เยอรมัน ก็เริ่มพัฒนาขึ้นมา ทีมอินทรีเหล็กยุคนี้เน้นเพาเวอร์เกม รุกก็ดุ รับก็เอาตาย ไม่ปล่อยให้คู่แข่งครองบอลนานๆ
สเปนกับเยอรมันเล่นแบบไม่มีบอลได้ดี ทีมระดับกลางกับเล็กก็น่าจะเน้นเรื่องไฮเพรสซิ่ง บีบพื้นที่สูงเช่นเดียวกัน
ถึงเวลาแข่งจริง เข้าด้ายเข้าเข็มในรอบลึกๆ เทพเกมรุกอย่างฝรั่งเศสจะหาทางเอาชนะแผนรับอินเทรนด์ได้หรือไม่ ยังไม่มีใครรู้
คราวนี้อาจจะเข้ารอบง่าย แต่ได้แชมป์ไม่ง่ายแน่
