ในศึกยูโร 2016 บรรดาเกจิดังทั่วโลกต่างยกให้ทัพเจ้าภาพ “ตราไก่” ฝรั่งเศส เป็นทีมเต็งหนึ่งในการคว้าแชมป์ รองลงมาเต็งสองเป็น “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ร่วมกับ “กระทิงดุ” สเปน ส่วนแข้ง “สิงโตคำราม” อังกฤษ ถูกวางเอาไว้ให้เป็นเต็งสี่ และตามด้วย “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม
แต่หลายคนมองข้าม “ฝอยทอง” โปรตุเกส ว่าจะไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ยูโรได้ ทั้งๆ ที่พวกเขามีซุปเปอร์สตาร์ดังอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 3 สมัยเมื่อปี 2008, 2013 และ 2014 เป็นตัวชูโรง
โรนัลโด้นับเป็นหัวใจสำคัญของโปรตุเกส และด้วยวัยย่าง 31 ปีแล้ว เขาควรที่จะประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ในนามทีมชาติสักที หลังจากก่อนหน้านี้โรนัลโด้ไม่เคยคว้าแชมป์กับทีมชาติโปรตุเกสได้เลย แต่ผลงานกับสโมสรนั้น เขาพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ รีล มาดริด กวาดได้หมดทุกแชมป์ พร้อมกับคว้ารางวัลส่วนตัวมาหลายสำนัก
ที่ผ่านมาโปรตุเกสเต็มไปด้วยนักเตะพรสวรรค์ระดับโลกมากมาย ทั้ง ยูเซบิโอ้ ผู้ล่วงลับ, รุย คอสต้า, หลุยส์ ฟิโก้, เฟร์นันโด คูโต้ มาจนถึงโรนัลโด้ แต่ทัพฝอยทองไม่เคยประสบความสำเร็จในรายการใหญ่เลย ทำให้กลายเป็นเพียงทีมยักษ์หลับเท่านั้น
ดีที่สุดคือการคว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลกปี 1966 ตามด้วยอันดับ 4 ในฟุตบอลโลกปี 2006 ขณะที่ในศึกยูโรนั้น โปรตุเกสไปถึงรอบตัดเชือกในยูโร ปี 1984, 2000, 2012 และทำผลงานได้ดีที่สุดทะลุเข้าชิงในศึกยูโร 2004 ที่ประเทศตัวเองรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ แต่กลับพลาดท่าพ่าย “เทพนิยาย” กรีซ 0-1 ได้แค่รองแชมป์มาครองท่ามกลางน้ำตานองแผ่นดินบ้านเกิดตัวเอง…
ยูโร 2016 โปรตุเกสไม่ได้ถูกจับตามองว่าพวกเขาจะคว้าแชมป์ยุโรปได้ แต่ด้วยการที่พวกเขามีโรนัลโด้ ซึ่งอยู่ในช่วงจุดพีคที่สุดของชีวิตค้าแข้ง และโรนัลโด้จะมีแรงขับเคลื่อนพิเศษเพื่อพาทีมไปถึงเป้าหมายสูงสุดให้ได้
แน่นอนว่าฟุตบอลไม่ได้เล่นเพียงคนเดียว และจำเป็นที่จะอาศัยระบบทีมเวิร์กเป็นสำคัญ โดยนับเป็นโจทย์สำคัญของกุนซือโปรตุเกสอย่าง เฟร์นันโด ซานโต๊ส ในการผสมผสานนักเตะคนอื่นให้เล่นได้เข้าขากับโรนัลโด้มากที่สุด หากทำได้โปรตุเกสจะมีเกมรุกน่ากลัวทีมหนึ่งเลยทีเดียว
ถ้าระบบทีมเวิร์กลงตัว รวมถึงโรนัลโด้แปลงร่างเป็นเครื่องจักรถล่มประตูได้ในยูโรนี้ คงน่าจะถึงเวลาแล้วของทัพฝอยทองกับการผงาดแชมป์เจ้ายุโรปสมัยแรก!
