บทนำมติชน : หน้ากากราคาพุ่ง

ท่ามกลางข่าวฝุ่นพีเอ็ม 2.5 การพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในไทย 14 ราย เป็นคนจีน 13 คน คนไทย 1 คน ผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งเดินทางกลับประเทศจีนไปแล้ว และยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ประชาชนคนไทยต้องดูแลตนเอง ด้วยวิธีการเบื้องต้นได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งมีหลายหน่วยงานออกมาแจก พรรคการเมืองบางพรรคเดินสายแจก รวมถึงประชาชนที่มีจิตใจกุศล ได้หยิบยื่นแบ่งปันให้กัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ กระแสข่าวล่าสุดระบุว่าร้านค้าต่างๆ รวมถึงผู้ค้าทางออนไลน์ ได้ฉวยโอกาสขึ้นราคาหน้ากากอนามัยเพื่อเก็งกำไร

มีกระแสข่าวยืนยันว่าผู้สั่งซื้อทางออนไลน์ ถูกโก่งราคา ซึ่งต่อมา กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ติดตามตรวจสอบภาวะราคาหน้ากากอนามัยในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด ให้ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าอย่างชัดเจน ไม่ฉกฉวยขึ้นราคา รวมทั้งให้แนะนำแหล่งจำหน่ายให้ประชาชนได้ทราบ เพื่อสามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ ป้องกันผลกระทบที่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เพราะขณะนี้มีความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มสูงขึ้นมาก ทั้งจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และปัญหาฝุ่น PM2.5 หากพบว่ามีการกักตุนสินค้าและฉวยโอกาสขึ้นราคา จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในกรณีที่ผู้บริโภค พบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคา ร้องเรียนได้ทางสายด่วน 1569 หรือร้องเรียนได้โดยตรง ณ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด

สำหรับหน้ากากที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ประชาชนใช้รับมือสถานการณ์ฝุ่นและไวรัสโคโรนา ได้แก่ หน้ากากอนามัย เอ็น 95 หน้ากากอนามัยทั่วไป และหน้ากากทำเอง ซึ่งเป็นเรื่องยุ่งยากในการจัดหาหรือจัดทำ ดังนั้น รัฐบาลน่าจะเป็นตัวหลัก ในการแจกหน้ากากอนามัยให้ประชาชน รวมถึงสนับสนุนภาคเอกชน ให้แจกหน้ากากที่ได้มาตรฐานให้กับประชาชน ทั้งนี้ไม่ควรคิดค่าใช้จ่าย และควรเริ่มดำเนินการทันที เพื่อให้ประชาชนรับมือได้อย่างถูกวิธีและทันการณ์ อาจจะช่วยลดความกังวลของประชาชน ที่มีต่อการควบคุมสถานการณ์ของรัฐบาล ที่รอบนี้ต้องถือว่าเรียกความเชื่อมั่นได้น้อยมาก

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image