ปรีวิว ยูโร 2016 รอบ 8 ทีม เยอรมนี ปะทะ อิตาลี คืนนี้

โยอาคิม เลิฟ (ซ้าย) กุนซือเยอรมัน เตรียมวัดกึ๋นกับอันโตนิโอ คอนเต้ (ภาพ AFP)

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016” ที่ประเทศฝรั่งเศส วันที่ 2 กรกฎาคม รอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี พบ “อัซซูรี่” อิตาลี ที่สต๊าด เดอ บอร์โดซ์ เมืองบอร์โดซ์ ตรงกับเวลาไทย 02.00 น. หรือเช้ามืดวันถัดไป

ก่อนเกมนี้ ทั้งคู่โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดไม่แพ้กัน หลัง “แชมป์โลก” เยอรมันถล่มสโลวาเกีย 3-0 ในรอบ 16 ทีม ส่วนอิตาลีรองแชมป์เก่าล้างแค้นสเปนแชมป์เก่า 2-0 ในรอบเดียวกัน แต่ต้องพบปัญหานักเตะตัวหลักบาดเจ็บ เนื่องจากทำท่าไม่มีอันโตนิโอ คันเดรว่า วิงแบ๊กซ้ายที่เจ็บยาว และพลาดช่วยทีม 2 เกมหลังสุด
และดานิเอเล่ เด รอสซี่ ตัวคุมจังหวะเกมคนสำคัญที่เจ็บสะโพก จนโดนเปลี่ยนตัวออกในวันชนะสเปน

หลังทั้งคู่ยังลงซ้อมกับทีมเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ไม่ได้เลย แถมอันโตนิโอ คอนเต้ กุนซืออัซซูรี่ยังหมดสิทธิใช้ติอาโก้ ม็อตต้า ซึ่งเล่นแทนเด รอสซี่ได้ เพราะติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 2 ครั้งในเกมนี้อีกด้วย

ผิดกับเยอรมนีของโยอาคิม เลิฟ ที่นักเตะทุกคนฟิตสมบูรณ์ดี ยกเว้นโยนาส เฮคเตอร์ แบ๊กซ้ายเป็นไข้หวัดเล็กน้อย และน่าจะจัด 11 ตัวแรกเหมือนเกมอัดสโลวาเกีย ส่งผลให้ “ชไวนี่” บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กัปตันทีมที่แม้จะหายเจ็บเป็นที่เรียบร้อย และฮีโร่จากรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2 ปีก่อนอย่างมาริโอ เกิตเซ่ ต้องนั่งดูเพื่อนเล่นต่อไป

Advertisement

นอกจากนี้ อิตาลียังเจอปัญหาผู้เล่นถูกคาดโทษใบเหลืองรวมกันถึง 11 คน ไม่ว่าจะเป็นจานลุยจิ บุฟฟ่อน, อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, มัตเตีย เด ชีโญ่, กราเซียโน่ เปลเล่, เอแดร์, ลอเรนโซ่ อินซินเญ่, ซิโมเน่ ซาซ่า และซัลวาตอเร่ ซิริกู เพราะต่อให้ชนะเยอรมันได้ แต่ถ้านักเตะกลุ่มดังกล่าวโดนใบเหลืองอีกในเกมนี้ จะหมดสิทธิช่วยทีมในรอบรองชนะเลิศทันที

ด้านนักเตะเยอรมนีที่มีใบเหลืองติดตัวก็เป็นตัวหลักหลายคนเช่นกันทั้งเจอโรม บัวเต็ง, มัตส์ ฮุมเมลส์, ซามี เคดิร่า, เมซุต โอซิล และโจชัว คิมมิค

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เยอรมนี 4-2-3-1 มานูเอล นอยเออร์, โจชัว คิมมิค, มัตส์ ฮุมเมลส์, เจอโรม บัวเต็ง, โยนาส เฮคเตอร์, ซามี เคดิร่า, โทนี่ โครส, โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, จูเลียน ดรากซ์เลอร์, มาริโอ โกเมซ
อิตาลี 3-5-2 จานลุยจิ บุฟฟ่อน, อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, สเตฟาโน่ สตูราโร่, มาร์โก้ บาโรโล่, เอมานูเอเล่ จัคเครินี่, มัตเตีย เด ชีโญ่, กราเซียโน่ เปลเล่, เอแดร์

Advertisement

อย่างไรก็ตาม แม้ทีม “เมืองเบียร์” ดูเหนือกว่าอิตาลีทุกอย่าง ทั้งความพร้อม และชื่อชั้นความสำเร็จรายการนี้ ซึ่งเคยคว้าแชมป์มาแล้วถึง 3 ครั้ง สูงสุดร่วมเท่าสเปนก็ตาม แต่เยอรมันกลับมีสถิติย่ำแย่ในการเจออิตาลี หลังชนะแค่ 8 และแพ้ถึง 15 ครั้ง จากการพบกัน 33 ครั้งทุกรายการ

แถมไม่เคยคว้าชัยในการพบกันรอบสุดท้ายยูโร และฟุตบอลโลกรวมกันถึง 8 ครั้ง โดยเสมอ 5 แพ้ 3 โดยความพ่ายแพ้ทั้ง 3 ครั้งเกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศทั้งหมดไล่ตั้งแต่ยูโรครั้งก่อน, ฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมันเป็นเจ้าภาพ และฟุตบอลโลก 1970 ที่เม็กซิโก แม้การเจอกันล่าสุดในเกมอุ่นเครื่องปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เยอรมันจะเปิดบ้านถล่มไป 4-1 ก็ตาม

ทว่าโธมัส มุลเลอร์ แนวรุกสารพัดประโยชน์อินทรีเหล็ก ที่ทำประตูในศึกฟุตบอลโลกรวมกันมากถึง 10 ลูก ทั้งที่เพิ่งอายุ 26 ปี และเล่นฟุตบอลโลกแค่ 2 สมัย แต่ยังทำสกอร์ในรายการยูโรครั้งก่อน และหนนี้ไม่ได้ กลับมั่นใจว่าอาถรรพ์ที่เยอรมันยังเอาชนะอิตาลีในทัวร์นาเมนต์ระดับสำคัญไม่ได้น่าจะถูกทำลายในเกมนี้ เพราะไม่ว่าใครก็สามารถแพ้ชนะกันได้ทั้งนั้น

ขณะที่เลิฟเผยว่า ทีมที่ชนะในเกมนี้น่าจะมีสิทธิคว้าแชมป์ยูโรได้เลยทีเดียว

โดยผู้ชนะคู่นี้จะเจอผู้ชนะระหว่างฝรั่งเศสเจ้าภาพกับไอซ์แลนด์ในรอบตัดเชือก

โปรแกรมถ่ายทอดสดยูโรรอบ 8 ทีม วันที่ 2 กรกฎาคม เยอรมนี พบ อิตาลี เวลา 02.00 น. ช่อง 28 SD

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image