บทนำมติชน 30 มิถุนายน 2563 : ปรับ’ในพปชร
การประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่เมืองทองธานี ที่ประชุมมีมติเลือก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค นายอนุชา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นเหรัญญิกพรรค นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ เป็นนายทะเบียนพรรค รวมถึงกรรมการบริหารอีก 23 คน ส่วนทีมของนายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ซึ่งกลายเป็นอดีตหัวหน้าพรรค และอดีตเลขาธิการพรรค ไม่ได้รับเลือกเข้ามา
นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคคนใหม่ เผยว่า หัวหน้าพรรคสั่งให้ออกนโยบายแก้ปัญหาของประเทศ เราทำได้แน่ เพื่อให้เศรษฐกิจดีขึ้น ขอให้คอยดู ยืนยันด้วยความมั่นใจว่าจะนำพาประเทศ สังคม เศรษฐกิจ การเมือง สู่ความเจริญ เพื่อทำให้ประชาชนกินดี อยู่ดี พรรคเราทำได้แน่นอน กก.บห.ชุดใหม่จะทำงานขนานเพื่อผลิตนโยบาย นักวิชาการ นักธุรกิจ คนรุ่นใหม่ ช่วยกันคิด และนำเสนอถึงรัฐบาลและนายกฯ โฉมหน้าทีมเศรษฐกิจใหม่ของพรรคจะนำโดย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และคนมีชื่อเสียงของประเทศ ขอให้รอตกผลึกอีกครั้ง
การเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลทางการเมืองเป็นเรื่องทำได้เสมอภายใต้กฎกติกา ปัญหาอยู่ที่ว่า ปรับเปลี่ยนแล้วทำงานแก้ปัญหาได้หรือไม่ หากไม่ได้ก็ต้องพิจารณาตนเอง พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ก็เพื่อนำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบในวงกว้าง ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงจึงควรประเมินอย่างรอบคอบ รับฟังเสียงสะท้อนและเลือกผู้ที่มีศักยภาพเข้ามาทำหน้าที่ มิใช่ปรับเพื่อสนองตอบความต้องการนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีเพื่อเป็นหน้าเป็นตา ขณะนี้สังคมกำลังจับตาว่า พรรคพลังประชารัฐจะปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีในลักษณะใด และประชาชนจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
