นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด
โควิด-19 ในประเทศไทย โดยระบุว่า ที่ประชุม ศบค.เน้นย้ำมาตรการ DMH-TT คือ การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และลงทะเบียนไทยชนะ ขอความร่วมมือในการพิจารณาให้หยุดดำเนินกิจการตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่มีการติดเชื้อ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาปิดสถานประกอบการที่เสี่ยง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์พบผู้ป่วยในประเทศยังอยู่ในขีดความสามารถทางการสาธารณสุข แต่คาดว่ากระจายในพื้นที่ทั่วไปมากขึ้นเนื่องจากการสัญจรไปมา
สำหรับกรณีของผู้ที่ไปลักลอบเล่นการพนันที่เกิดเป็นข่าวที่มีความล่าช้า นพ.ทวีศิลป์ระบุว่า ทีมสอบสวนโรคบอกว่า สาเหตุที่ล่าช้าเพราะด้านหนึ่งเป็นเพราะว่าเรื่องของสีเทา สีดำ กว่าจะหลุดออกมาจากปาก กว่าจะซักอะไรต่างๆ ทำให้ยาก เหมือน
คล้ายๆ กรณีที่เกิดขึ้นทางภาคเหนือที่เพิ่งจะผ่อนคลายกันไปได้ เพราะว่ามีธุรกิจทางด้านสถานบันเทิง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องการพนัน ถ้าเราย้อนกลับไปสถานการณ์ของโลกที่ต้องขอเอ่ยนาม คือ ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย มีระลอกใหม่ ก็มาจากธุรกิจที่เป็นสีเทา สีดำ เราจึงต้องให้เน้นความสำคัญเรื่องนี้เป็นอย่างสูง
ผลจากการสอบสวนโรคล่าช้ามีผลกระทบต่อการสกัดการระบาด ทำให้ขณะนี้ จ.ระยอง จะเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด นพ.ทวีศิลป์บอกว่า ต่อไปต้องลดการจัดกิจกรรมทุกรูปแบบ แต่จะปิดอย่างไร พื้นที่ไหน ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดระยองพิจารณา ยิ่งธุรกิจไม่ถูกกฎหมาย ฝ่ายมั่นคงเข้าไปดูอย่างเข้มงวด และเรื่องพวกนี้แม้บางท่านจะบอกว่า เล่นเล็กน้อยไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เมื่อป่วย สังคม จังหวัดเดือดร้อนไปหมด กลายเป็นปัญหาใหญ่กระทบวงกว้าง
ข้อแถลงจากหมอสะท้อนให้เห็นความสำคัญในการจัดการกับธุรกิจสีเทา ซึ่งปกติแล้วก็เป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องป้องกันและปราบปรามมิให้ธุรกิจเหล่านี้ดำรงอยู่ ดังนั้น ในขณะที่รับมือกับโรคโควิด-19 ซึ่งกำลังระบาดรอบใหม่ การปราบปรามธุรกิจสีเทารวมทั้งธุรกิจสีดำ ต้องดำเนินการควบคู่กันไปด้วย เพราะที่ผ่านมามีกระแสข่าวระบุถึงขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมือง บ่อนการพนัน และธุรกิจสีเทาอื่นๆ เป็นระยะ เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานปรากฏชัดแจ้ง แต่ขณะนี้ธุรกิจเหล่านี้เริ่มปรากฏว่าเป็นแหล่งระบาดของโรค การดำเนินการจัดการตามกฎหมาย และจัดระเบียบควรจะเกิดเป็นรูปธรรมควบคู่ไปกับมาตรการทางสาธารณสุขที่อยากให้ทุกคนร่วมมือ
