บทนำมติชน : อนามัยโลกยืนยัน
ในที่สุด หลังเกิดความสับสนกันไปทั่วโลก องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ก็ได้ออกมาระบุถึงวัคซีนต้านโควิด-19 แอสตร้าเซนเนก้า ว่าไม่มีเหตุผลที่จะหยุดฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า หลังจากที่หลายประเทศทั่วโลกชะลอการฉีด เนื่องจากกลัวภาวะลิ่มเลือดอุดตัน คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนกำลังตรวจสอบข้อมูลความปลอดภัยที่เข้ามา และเน้นย้ำว่าไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากับภาวะลิ่มเลือด เป็นการยืนยันถึงความปลอดภัย หลังจากประเทศเดนมาร์ก นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ หยุดการฉีดวัคซีนดังกล่าวชั่วคราว หลังจากพบผู้ได้รับวัคซีนมีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานล่าสุดถึงวันที่ 13 มีนาคม ว่าทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนต้านโควิดไปแล้วมากกว่า 345 ล้านโดส ใน 121 ประเทศ โดยอัตราการฉีดวัคซีนล่าสุดตกเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 8.74 ล้านโดส สหรัฐอเมริกา ประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสะสมมากที่สุด ได้ฉีดวัคซีนต้านโควิดให้กับประชาชนไปแล้ว 101 ล้านโดส จีนกว่า 52 ล้านโดส สหภาพยุโรป 47 ล้านโดส อินเดีย 28 ล้านโดส และสหราชอาณาจักร 24 ล้านโดส
ทางด้านเว็บไซต์ worldometers.info รายงานสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ว่าทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมกันเพิ่มเป็น 119,642,679 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิต 2,652,203 ราย ประเทศที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 29.9 ล้านราย บราซิล 11.36 ล้านราย อินเดีย 11.33 ล้านราย รัสเซีย 4.3 ล้านราย และสหราชอาณาจักร 4.2 ล้านราย ส่วนประเทศที่มียอดผู้เสียชีวิตมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐ 545,544 ราย บราซิล 275,276 ราย เม็กซิโก 193,851 ราย อินเดีย 158,483 ราย สหราชอาณาจักร 125,343 ราย
การประกาศขององค์การอนามัยโลกเรื่องวัคซีนของแอสตราเซนเนก้าว่าปลอดภัย เมื่อผนวกกับสถิติการฉีดวัคซีนทั่วโลก ซึ่งฉีดด้วยวัคซีนจากหลายผู้ผลิต และหากสังเกตจำนวนยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจะพบว่ามีอัตราการเพิ่มที่น้อยลง ขณะที่ตัวเลขผู้หายป่วยเพิ่มขึ้น ทำให้เชื่อมั่นว่าอาการป่วยจากโรคโควิด-19 ของโลกใบนี้จะค่อยๆ บรรเทาลง และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่ฟุบไปเมื่อปีที่แล้วจะค่อยๆ ฟื้นตัว เช่นเดียวกับประเทศไทยที่สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น แม้ว่าล่าสุดจะพบผู้ติดเชื้อในตลาดบางแค แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามควบคุม ยิ่งหากประชาชนร่วมมือ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และรักษามาตรฐานสาธารณสุข ผนวกกับการฉีดวัคซีนในประเทศที่เป็นไปตามแผน ประเทศไทยก็จะฟื้นจากไข้ แม้ว่าการฉีดวัคซีนของแอสตร้าฯจะชะงักไปไม่กี่วัน แต่เมื่อองค์การอนามัยโลกรับรอง การฉีดวัคซีนแอสตร้าฯในไทยก็น่าจะเดินหน้าไปตามแผน
