บทนำมติชน : กระท่อมพ้นเสพติด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยเร็วๆ นี้ว่า พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2564 สาระสำคัญยกเลิกพืชกระท่อมจากยาเสพติดให้โทษ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2564 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 24 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป การยกเลิกพืชกระท่อมพ้นจากยาเสพติดให้โทษ เหมาะสมกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ถือเป็นการเริ่มนับหนึ่ง ขอให้ประชาชนอดใจรออีกไม่นาน กฎหมายทุกอย่างจะสมบูรณ์ ซึ่งเชื่อว่าทำได้ทันกรอบเวลา หากเรียบร้อยสมบูรณ์ ผู้เคี้ยวผู้เสพตามวิถีปกติ ไม่ได้นำไปผสมกับสารเสพติดอื่นๆ จะไม่มีความผิด ส่วนการปลูกโดยประชาชนจะเสรี แต่การจะปลูกใหม่ต้องรอร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อมก่อน ขณะนี้ ถือว่าพืชกระท่อมเกือบจะหลุดจากยาเสพติดโดยสมบูรณ์แล้ว
รมว.ยุติธรรมเผยว่า จะเร่งจัดทำ ร่าง พ.ร.บ.
พืชกระท่อมเพื่อกำกับดูแลการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิดภายหลังถอดจากยาเสพติดให้โทษแล้ว ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตรวจพิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ขอให้กระทรวงยุติธรรมแจ้งยืนยันร่างที่กฤษฎีกาแก้ไข ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เนื่องจากกฤษฎีกามีการแก้ไขหลักการ จึงต้องนำเข้า ครม.อีกครั้งหนึ่ง และได้ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อเตรียมออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ระบุชื่อ ยาเสพติดประเภท 5 ยกเลิกพืชกระท่อมจากยาเสพติดประเภท 5 ซึ่งต้องมีผล 24 ส.ค.2564 เช่นเดียวกัน และยังสั่งการให้ เลขาธิการ ป.ป.ส.สำรวจผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีจากพืชกระท่อม ในชั้นพนักงานสอบสอน อัยการ หรือพิจารณาคดีในชั้นศาล รวมถึงที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ว่ามีกี่คดีกี่คน ทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัว ยกเลิกการดำเนินคดีทั้งหมด
กระท่อมเป็นสมุนไพรที่คนไทยรู้จัก และใช้
เคี้ยวมานาน โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกร เนื่องจากมีสารกดความรู้สึกเมื่อยล้าขณะทำงาน ทำให้ทำงานได้ยาวนาน และทนต่ออากาศร้อน ทำให้ทำงานกลางแจ้งได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม มีบางกลุ่มนำไปดัดแปลงผสมยาเสพติด ทำให้เกิดผลเสียมากขึ้น การปลดล็อกครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันดูแลเพื่อให้เกิดการใช้พืชกระท่อมในทางที่เป็นประโยชน์ตามวิถีชีวิตของประชาชนตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
