บทนำมติชน 25 สิงหาคม : เร่งซื้อวัคซีนเจน2
ตัวเลขการติดเชื้อลดระดับจาก 2 หมื่นรายต่อวัน ล่าสุด ตัวเลขลดลงมาที่ 1 หมื่นรายปลายๆ แม้ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิต ยังอยู่ในระดับ 200 กว่ารายต่อวัน แต่ในภาพรวมถือว่า หากตัวเลขไม่มากไปกว่านี้อีกระยะหนึ่ง อาจถือได้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดกระเตื้องขึ้น ขณะที่ตัวเลขผู้รับวัคซีน มี 27 ล้านโดสแล้ว จากเป้าหมาย 100 ล้านโดส ภายในปลายปีนี้ แม้ว่ามีปัญหามากมายในเรื่องการจัดหาวัคซีน และที่กำลังเป็นข่าวได้แก่ การจัดซื้อชุดตรวจหาเชื้อโควิดด้วยตนเอง หรือ ATK แต่การเจรจาจัดหาวัคซีน ก็ยังมีอยู่ตลอดเวลา และหากเป็นไปตามกำหนดเวลา ปลายปี 2564 นี้ ประเทศไทยน่าจะมีความคล่องตัวในเรื่องวัคซีนมากขึ้น
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนัก
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยเร็วๆ นี้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประชุมทางไกลร่วมกับนายปาสคาล โซริออต (Mr.Pascal Claude Roland Soriot) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำกัด เพื่อหารือกรอบความร่วมมือด้านสาธารณสุขในการป้องกันโควิด-19 ในภาวะไวรัสกลายพันธุ์รวดเร็ว แอสตร้าเซนเนก้าได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันจะเร่งส่งมอบวัคซีน ที่เหลือให้ครบ 61 ล้านโดส ภายในเดือนธันวาคม 2564 นี้อย่างแน่นอน และจะช่วยให้จำนวนยอดการจัดหาวัคซีนทุกประเภทในสิ้นปีนี้รวมกันเกินกว่า 120 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรกว่า 60 ล้านคน เร็วกว่าแผนเดิมที่ตั้งเป้าจะจัดหาวัคซีน 100 ล้านโดส สำหรับประชากร 50 ล้านคน
การหารือระหว่างนายกฯกับซีอีโอของแอสตร้าเซนเนก้า กล่าวถึงเป้าหมายการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งหากได้วัคซีนเร็วขึ้นมากขึ้น ภูมิคุ้มกันหมู่จะเกิดเร็วขึ้น ช่วยลดภาระระบบสาธารณสุข ประชาชนจะกลับมาใช้ชีวิตปกติและฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เร็วขึ้นอีกด้วย ที่น่าสนใจอย่างมาก คือ แอสตร้าเซนเนก้าอยู่ระหว่างการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 สูตรใหม่ที่ป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้ดียิ่งขึ้น โดยไทยมีสิทธิเลือกวัคชีนสูตรใหม่นี้ เพื่อรับมือไวรัสได้ดีขึ้นด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลไทยยังมีแผนสั่งซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเพิ่มอีก 60 ล้านโดส สำหรับปี 2565 โดยจะสรุปภายในเดือนกันยายน 2564 นี้ ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นข่าวดี แต่รัฐบาลไม่ควรประมาท ต้องเร่งจัดหาวัคซีนเจนเนอเรชั่น 2 อื่นๆ ไว้ด้วย โดยใช้เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นบทเรียน
