บทนำมติชนวันที่ 14 กันยายน 2564 : เป้าปลดล็อก

บทนำมติชนวันที่ 14 กันยายน 2564 : เป้าปลดล็อก

บทนำมติชนวันที่ 14 กันยายน 2564 : เป้าปลดล็อก

นพ.อุดม คชินทร รองประธานที่ปรึกษา ศบค. เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พบต่ำกว่า 15,000 คน ในขณะนี้ เป็นผลพวงมาจากการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมเป็นต้นมา อีกทั้งการระดมฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และผู้สูงอายุ แต่การผ่อนคลายมาตรการกิจกรรมบางอย่าง ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา จะเริ่มเห็นตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อเปลี่ยนไปในอีก 2 สัปดาห์หน้า ซึ่งกราฟผู้ป่วยติดเชื้อจะค่อยๆ กลับมากเพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะเป็นปฏิกิริยาที่ต้องเกิดขึ้น

ถ้าไม่อยากให้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอีก ประชาชนทุกคนต้องช่วยกัน ทั้งการดำเนินมาตรการ ป้องกันตัวเองแบบครอบจักรวาล (Universal Prevantion ) และในหน่วยงาน องค์กร หรือออฟฟิศต่างๆ ร่วมกันทำ Covid free setting สุ่มค้นหาผู้ป่วยในสถานที่ทำงาน ทุกสัปดาห์ ร่วมกับมาตรการส่วนบุคคลที่เคร่งครัดจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยได้แน่นอน

นพ.อุดมบอกว่า รายละเอียดของสถานการณ์ได้อธิบายในที่ประชุม ศบค. และนายกรัฐมนตรีรับทราบและเข้าใจแล้ว จึงยังไม่ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ทั้งหมด ในวันที่ 15 กันยายน ต้องรอดูตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อ หลังผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ที่เริ่มไปในวันที่ 1 กันยายน ซึ่งจะสะท้อนในอีก 2 สัปดาห์ หรือต้องรอให้ถึงวันที่ 1 ตุลาคม แล้วจึงค่อยมาดูสถานการณ์ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อ ว่าสมควรที่จะปล่อยคลายมาตรการต่างๆ หรือไม่ เพราะการรับวัคซีน 2 เข็มครบแล้ว ไม่ได้การันตีว่าไม่ติดเชื้อ จะเห็นได้จากสหรัฐอเมริกา หรืออังกฤษ หรือฝรั่งเศส ที่พบการติดเชื้อในกลุ่มคนที่รับวัคซีนครบแล้ว

Advertisement

นพ.อุดมกล่าวอีกว่า สำหรับอัตราคนไข้ป่วยติดเชื้อที่ระบบสาธารณสุขรับได้ไม่เกินกำลัง ควรต่ำกว่าวันละ 5,000 คน และเสียชีวิตไม่เกิน 50 คน หากตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้ออยู่ที่ 5,000-10,000 คนต่อวัน ยังพอรับได้ แต่หากตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อเกิน 10,000 คนต่อวัน จะทำให้ระบบการทำงานของสาธารณสุขเริ่มหลังแอ่น ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกัน

การอธิบายสถานการณ์ด้วยตัวเลขทำให้คนไทยมองเห็นและคาดคะเนได้ว่า ต้องร่วมมือกันอีกนานแค่ไหนฝ่ายรัฐบาลถึงจะยอมปลดล็อกการทำกิจกรรมต่างๆ โดยทางหนึ่งต้องฉีดวัคซีนให้มากที่สุด และเร็วที่สุด ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ส่วนประชาชนและภาคเอกชนนั้น สิ่งที่ต้องทำคือสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในครอบครัว และในกิจการการค้า ไม่ทำให้บ้านตัวเองหรือที่ทำงานของตัวเองกลายเป็นคลัสเตอร์ของโรคโควิด-19 ถ้าทุกฝ่ายต่างคนต่างทำในหน้าที่ได้ดี สามารถควบคุมโรคได้ ผนวกกับโรคโควิด-19 รอบนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลง ก็เชื่อว่าโอกาสที่จะได้ปลดล็อกเพื่อทำมาหากินคงมีสูง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image