สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เผยเมื่อ 12 มิ.ย. ถึงผลสำรวจเรื่องความสุขชุมชน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 8-11 มิถุนายน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.4
มีความหวัง ความสุข หลังถอดหน้ากาก เปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว กลับมา
ใช้ชีวิตปกติ ผลสำรวจพบด้วยว่า คะแนนความสุขชุมชนเมื่อนึกถึงความขัดแย้งของคนในชาติ ม็อบรุนแรง การยุยงให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นตัวฉุดความสุขชุมชนลดลงเหลือ 4.92 คะแนน และความสุขชุมชนโดยรวมได้ 6.10 คะแนน
ผลสำรวจยังระบุว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.5 กังวล บ้านเมืองจะวุ่นวาย ประชาชนไร้สุข เพราะคนในชาติแตกแยก ขัดแย้งรุนแรงบานปลาย ในขณะที่เพียงร้อยละ 3.5 ไม่กังวล และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.7
ชี้ว่าโซเชียลมีเดียมีส่วนเป็นตัวเร่ง ทำคนไทยแบ่งเป็นสองขั้ว สร้างความแตกแยก ความเกลียดชังต่อกันของคนในชาติ ในขณะที่ ร้อยละ 7.3 ระบุไม่มีส่วน ผลการศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมของประชาชนในโลก ผู้ทำสำรวจยังเห็นว่าในหลายประเทศ โซเชียล มีเดียมีส่วนทำให้คนแบ่งออกเป็นสองขั้ว เผชิญหน้ากันจริง ทำให้บางประเทศมีระบบคัดกรองเนื้อหาและมีกฎหมายห้ามการใช้ โซเชียลมีเดีย และห้ามประชาชนในประเทศพูดเรื่องการเมืองที่ทำลายความสมดุลในความแตกต่างทางความคิด เพื่อป้องกันสกัดกั้นความแตกแยกของประชาชน
เป็นผลสำรวจที่น่าสนใจ และน่าคิดต่อไปว่า ความขัดแย้งของคนในชาติเกิดจากโซเชียล มีเดียจริงหรือ เพราะแท้จริงแล้ว เนื้อหาที่เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย ที่ดำเนินการโดยกลุ่มบุคคล กลุ่มอำนาจต่างหากที่เป็นต้นเหตุ ความขัดแย้งในชาติดำรงอยู่มานานแล้ว จากปัญหาความไม่เป็นธรรม ระบบสองมาตรฐาน รัฐธรรมนูญที่ดีไซน์เพื่อคนบางกลุ่ม ระบบอภิสิทธิ์ชนในรัฐสภา นับตั้งแต่รัฐประหาร 2 ครั้งหลัง คือ 2549 และ 2557 ตราบใดที่ยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายได้ประโยชน์ และฝ่ายที่ถูกฉกฉวยจะปรากฏในทุกพื้นที่ การแก้ไขจึงต้องสร้างความเป็นธรรมให้เป็นที่ประจักษ์ มิใช่ด้วยการออกกฎหมายควบคุมโซเชียลมีเดีย
