พรีวิว ยูโร 2020 : ศึกรีแมตช์นัดชิง 2016 ‘โปรตุเกส’ ห้ามแพ้ ‘ฝรั่งเศส’ ไม่งั้นร่วง!
“ตราไก่” ฝรั่งเศส เตรียมรีแมตช์คู่ชิงชนะเลิศเมื่อปี 2016 พบกับ “ฝอยทอง” โปรตุเกส ในศึกยูโร 2020 รอบแรก กลุ่มเอฟ นัดสุดท้าย ที่สนามปุสกัส อารีน่า กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี คืนวันที่ 23 มิถุนายน เวลา 02.00 น. (เช้ามืดวันที่ 24 มิถุนายน) ถ่ายทอดสดทางช่อง 3เอชดี (หมายเลข 33)
ทีมตราไก่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปแน่นอนแล้ว เพราะ 4 คะแนนเพียงพอจะเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุดได้ต่อให้แพ้ในเกมนี้ก็ตาม ในขณะที่โปรตุเกส แม้นัดก่อนพ่ายเยอรมนีมา 2-4 แต่ถ้านัดนี้ไม่แพ้ ก็จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้เช่นกัน
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
โปรตุเกส
แพ้ เยอรมนี 2-4 (ยูโร 2020)
ชนะ ฮังการี 3-0 (ยูโร 2020)
ชนะ อิสราเอล (เหย้า) 4-0 (อุ่นเครื่อง)
เสมอ สเปน (เยือน) 0-0 (อุ่นเครื่อง)
ชนะ ลักเซมเบิร์ก (เยือน) 3-1 (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)
ฝรั่งเศส
เสมอ ฮังการี 1-1 (ยูโร 2020)
ชนะ เยอรมนี 1-0 (ยูโร 2020)
ชนะ บัลแกเรีย (เหย้า) 3-0 (อุ่นเครื่อง)
ชนะ เวลส์ (เหย้า) 3-0 (อุ่นเครื่อง)
ชนะ บอสเนียฯ (เยือน) 1-0 (ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก)
สถิติการพบกัน
ทีมตราไก่มีสถิติที่ดีในการเจอกับโปรตุเกส เพราะจาก 27 หนที่เจอกันมา ชนะได้ถึง 19 ครั้ง เสมอ 2 และแพ้แค่ 6 เท่านั้น ทว่าชัยชนะของโปรตุเกส ในนัดชิงชนะเลิศเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คือชัยชนะเดียวในรอบ 46 ปีที่ทั้งสองทีมเจอกัน ส่วนล่าสุดเจอกันในยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อปีก่อน ฝรั่งเศสบุกไปเสมอ 0-0 ก่อนกลับมาชนะในบ้าน 1-0 จากประตูชัยของเอ็นโกโล่ ก็องเต้
สภาพทีม
เฟร์นานโด ซานโต๊ส กุนซือโปรตุเกสไม่มีปัญหาในการจัดทีม จะได้ทั้ง เชา เฟลิกซ์ กับ นูโน่ เมนเดส หายบาดเจ็บกลับมาเป็นตัวเลือกได้ แต่เชื่อว่าจะยังคงยึด 11 ผู้เล่นชุดเดิมที่ลงเล่นใน 2 เกมแรกเอาไว้ต่อไป
ด้านฝรั่งเศส เสีย อุสมาน เดมเบเล่ ที่บาดเจ็บจนต้องพักจนจบทัวร์นาเมนต์ไปแล้ว ขณะที่แนวรุกยังคงไว้ใจคาริม เบนเซม่า ให้ออกสตาร์ตก่อนโอลิวิเยร์ ชิรูด์ แม้ว่าจะยังทำประตูไม่ได้เลยก็ตาม
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โปรตุเกส : รุย ปาตริซิโอ้, เนลสัน เซเมโด้, รูเบน ดิอาส, เปเป้, ราฟาเอล เกร์เรโร่, ดานิโล่ เปไรร่า, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, บรูโน่ แฟร์นันเดส, ดิโอโก้ โชต้า, แบร์นาโด้ ซิลวา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส, บ็องฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาเอล วาราน, เปรสเนล คิมเปมเบ้, ลูก้าส์ เอร์น็องเดซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, อาเดรียง ราบิโอต์, ปอล ป๊อกบา, อองตวน กรีซมันน์, คีเลียน เอ็มบัปเป้, คาริม เบนเซม่า
สรุป
ทีมตราไก่เล่นแบบสบายๆ เพราะผ่านเข้ารอบแน่นอนแล้ว อยู่ที่ว่าจะตั้งใจเอาชนะเพื่อคว้าแชมป์กลุ่มเอฟให้ได้หรือไม่ แต่นาทีนี้เชื่อว่าไม่ว่าจะเข้ารอบในอันดับเท่าไหร่ รอบต่อไปก็งานไม่ง่ายทั้งนั้นแน่นอน ทว่าการเก็บชัยชนะให้ได้ก็เป็นการเรียกขวัญกำลังใจที่ดี ต่อทีมที่พวกเขาพลาดเมื่อ 5 ปีก่อน
ในขณะที่โปรตุเกสกดดันกว่าแน่นอน เพราะพวกเขาจะแพ้อีกไม่ได้แล้ว มีโอกาสตกรอบสูงมากแม้จะจบอันดับ 3 ของกลุ่มได้ก็ตาม ฉะนั้นเฟร์นันโด ซานโต๊ส น่าจะงัดแผนเพื่อความปลอดภัยออกมาใช้กับฝรั่งเศสก่อน อาจจะหวังว่าจบผลเสมอ ก็ยังผ่านเข้ารอบต่อไปได้
เชื่อว่าทั้งสองทีมสู้กันสนุก และสุดท้ายโปรตุเกสจะยันเสมอฝรั่งเศสเอาไว้ได้