สกู๊ปพิเศษ : จับตา5เต็งแชมป์ยูโร2020 ‘ตราไก่-เบลเยียม’ลุ้นผงาด

สกู๊ปพิเศษ : จับตา5เต็งแชมป์ยูโร2020 ‘ตราไก่-เบลเยียม’ลุ้นผงาด

เหลืออีกเพียงวันเดียวเท่านั้นศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2020 ที่แฟนบอลรอคอยมาเป็นปี ก็จะได้เริ่มเปิดฉากฟาดแข้งกันแล้ว

ก่อนหน้านี้ทีมงานกีฬา “มติชน” ได้พาไปเจาะลึกกับความพร้อมของแต่ละกลุ่มกันไปครบถ้วน ดังนั้นถึงเวลาที่จะมาดูกันแล้วว่าทีมใดที่เหมาะจะถูกเรียกได้ว่าเป็นเต็งแชมป์สำหรับยูโรหนนี้

เต็งหนึ่งเลยสำหรับรายการนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นทีม “ตราไก่” ฝรั่งเศส เจ้าของแชมป์โลกทีมล่าสุด ที่ลุ้นทำสถิติการคว้าแชมป์รายการเมเจอร์ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ หลังเคยทำได้เมื่อตอนคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 ต่อด้วยยูโร 2000 มาแล้ว

ซึ่งตัวหลักของพวกเขาจากการคว้าแชมป์โลกนั้นยังอยู่กันครบถ้วน ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู ฮูโก้ โยริส กองหลัง ราฟาเอล วาราน, ลูก้าส์ แอร์น็องเดซ, บองฌาแมง ปาวาร์ รวมถึงกองกลางอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้-ปอล ป๊อกบา และแดนหน้า อองตวน กรีซมันน์ กับ คีเลียน เอ็มบัปเป้

Advertisement

นอกจากนี้ ดิดิเยร์ เดสชองส์ ยังจัดหนักแนวรุกด้วยการเรียก คาริม เบนเซม่า สุดยอดดาวยิงของทีม กลับมาติดทีมชาติเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี เพิ่มความเฉียบคมในแนวรุกให้มากกว่าเดิมไปอีก

ถึงแม้ว่าในรอบแรกพวกเขาจะอยู่ในกลุ่มที่โหดหิน ต้องเจอกับ โปรตุเกส คู่ชิงยูโร 2016 และ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี แต่ถ้าไม่ประมาทพวกเขาน่าจะฉลุยไปลุ้นแชมป์ได้อย่างแน่นอน

Advertisement

รองจากฝรั่งเศส ก็คงต้องยกให้กับ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ที่จัดได้ว่าเป็นทีมที่มีขุมกำลังครบเครื่องที่สุดชุดหนึ่งเลยก็ว่าได้ แถมแต่ละคนกำลังไต่ลำดับไปอยู่ในช่วงที่พีคที่สุดของชีวิตการค้าแข้ง ที่แบบว่าถ้าหลุดจากยูโรหนนี้ไป อาจจะต้องรออีกหลายปีกว่าจะสร้างทีมขึ้นมาได้เทียบเท่ากับชุดนี้

ตัวหลักของเบลเยียมชุดนี้คือ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพจาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แม้จะได้รับบาดเจ็บจากนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ก็ไม่มีปัญหาสำหรับการแข่งขัน ในจะยังมียูริ เทียเลอมองส์, ติโบต์ กูร์ตัวส์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, โรเมลู ลูกากู และความหวังที่อยากให้กลับมาคืนฟอร์มอย่าง เอเด็น อาซาร์ อีกคน

ผลงานของเบลเยียมในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ฟุตบอลโลกก็คว้าอันดับ 3 มาได้ อีกทั้งในรอบแบ่งกลุ่มไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่แข็งมากนัก ดังนั้นมีโอกาสไปได้ไกลทีเดียว

เต็งสาม สำหรับยูโรหนนี้ อาจจะไม่ตรงกับหลายๆ คน แต่ต้องบอกว่านี่คือทีมที่น่ากลัวทีมหนึ่ง นั่นก็คือ “อัซซูรี่” อิตาลี

หลังจากที่พวกเขาตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียมา พวกเขาก็เข้าสู่ช่วงผลัดใบ และการมาของกุนซืออย่างโรแบร์โต้ มันชินี่ ได้เน้นให้โอกาสกับผู้เล่นดาวรุ่ง รวมถึงหลายๆ คนที่เคยถูกมองข้าม จนทำให้มีผลงานในรอบคัดเลือกที่ยอดเยี่ยมมากๆ เก็บชัยชนะได้ครบทั้ง 10 นัดที่ลงเล่น

ในแนวรับพวกเขายังมีเลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ และจอร์โจ้ คิเอลลินี่ ที่มาคอยคุมน้องๆ แดนกลางก็มีจอมทัพอย่าง มาร์โก้ แวร์รัตติ และแนวรุกมี เฟเดริโก้ เคียซ่า ที่ไว้ใจได้ ดังนั้นยกให้อิตาลียุคใหม่เป็นทีมที่มองข้ามไม่ได้ และเผลๆ จะขึ้นมามีลุ้นถึงแชมป์ด้วยซ้ำ

ต่อมาขอยกให้เป็นเต็งสี่ร่วมกัน ก็คือ “กระทิงดุ” สเปน และ โปรตุเกส ในแบบที่สเปนอาจจะดูเหนือกว่าเล็กๆ น้อยๆ เพราะว่าโปรตุเกสดันตกไปอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธ ที่ทำให้งานของพวกเขายากกว่า

กระทิงดุนั้นไม่ว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์ไหน พวกเขาก็มักจะถูกยกเป็นทีมเต็งเสมอ ครั้งนี้พวกเขามาภายใต้การคุมทีมของ **หลุยส์ เอ็นริเก้** ที่จัดได้ว่าเป็นกุนซือที่มีฝีมือคนหนึ่ง และมีรูปแบบการเล่นที่น่าสนใจ

ถึงแม้ว่าครั้งนี้เอ็นริเก้จะใจแข็ง ไม่เลือกดาวเตะจาก “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด มาเลยสักคนหนึ่ง แต่สเปนชุดนี้เป็นชุดที่ผสมผสานกันระหว่างรุ่นใหม่และรุ่นเก่าอย่างลงตัว แข้งจอมเก๋านั้นนำมาโดย ฆอร์ดี้ อัลบา, เซร์คิโอ บุสเกตต์ หรือติอาโก้ อัลคันทาร่า ขณะเดียวกันก็ยังมีดาวรุ่งอย่าง โรดรี้, แฟร์ราน ตอร์เรส หรือเปดรี้ ที่ฟอร์มร้อนแรงเช่นกัน

ขณะที่โปรตุเกสนั้น ยังคงเป็นทีมที่อุดมไปด้วยนักเตะชั้นยอด ในทุกตำแหน่ง ทั้งเชา แคนเซโล่, รูเบน ดิอาส จากแมนฯ ซิตี้ บรูโน่ แฟร์นันเดส จากแมนฯ ยูไนเต็ด, ดิโอโก้ โชต้า จากลิเวอร์พูล, อังเดร ซิลวา จากแฟรงค์เฟิร์ต

นอกจากนี้ต้องไม่ลืมว่าโปรตุเกสยังมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่กับทีมชุดนี้ ซึ่งในวัย 36 ปี อาจจะเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งสุดท้าย และเจ้าตัวพร้อมจะนำทีมป้องกันแชมป์ให้ได้อยู่แล้ว

นอกเหนือไปจากทั้ง 5 ทีม ก็ยังมีทีมอื่นๆ ที่จะสามารถก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์ได้ อย่างเช่น เยอรมนี ที่เล่นทิ้งทวนโยอาคิม เลิฟ ก่อนจะอำลาทีม หรือ เนเธอร์แลนด์ ที่ถึงแม้จะไม่มีตัวสำคัญอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ แต่นักเตะที่เหลืออยู่คงมองข้ามไปไม่ได้ หรือจะเป็น “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ที่มีดาวดัง สตาร์คับคั่งเต็มทีม เช่นเดียวกับ โครเอเชีย ที่พร้อมเป็นม้ามืดได้เสมอ

ฉะนั้นเรามารอหาคำตอบกันว่าสุดท้ายแล้ว ใครจะได้คว้าแชมป์ไปครอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image