5 แข้งส่อแววย้ายสังกัด หลังแจ้งเกิดในยูโร

REUTERS

5 แข้งส่อแววย้ายสังกัด หลังแจ้งเกิดในยูโร

ทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลระดับเมเจอร์ถือเป็นเวทีสำคัญที่สโมสรต่างๆ ใช้ประเมินฝีเท้านักเตะประกอบการตัดสินใจในการซื้อขาย

นักวิจารณ์บางคนบอกว่า จะเอาเกมทีมชาติทัวร์นาเมนต์เดียวมาอ้างอิงไม่ได้ เพราะเคยมีตัวอย่างที่ล้มเหลวในเวลาต่อมาก็หลายครั้ง

กระนั้น นักเตะหลายคน โดยเฉพาะแข้งอายุน้อยๆ ที่แฟนบอลไม่เคยได้เห็นฝีเท้าหรือสะดุดตาในระดับสโมสรมาก่อนก็ทำผลงานได้ดีจนไม่ควรมองข้ามเช่นกัน

และนี่คือ 5 แข้งที่เข้าข่ายจะได้ย้ายสังกัดเมื่อเสร็จศึกยูโร และทุกสโมสรโดดเข้าร่วมตลาดซื้อขายเต็มตัว

Advertisement

 

REUTERS/Piroschka Van De Wouw

เดนเซล ดัมฟรีส์ – ดอนเยลล์ มาเลน (เนเธอร์แลนด์ / พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น)

ถึงแม้เนเธอร์แลนด์จะผิดหวังตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่คู่หูจากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น คู่นี้ก็โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นอย่างมากใน 4 นัดของทีมกังหันลม

Advertisement

ดัมฟรีส์ กัปตันทีมพีเอสวีวัย 25 ปี ทำ 2 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ จากการลงเล่นตำแหน่งฟูลแบ๊กให้ทีมชาติ เขาโดดเด่นเรื่องเทคนิค การช่วยสร้างสรรค์เกมรุก บวกวินัยเกมรับ อีกทั้งยังขยันมุ่งมั่น พร้อมวิ่งตลอดเกม น่าจะเหมาะกับสไตล์ของพรีเมียร์ลีกเป็นอย่างดี

ยิ่งเป็นเกมลูกหนังยุคปัจจุบันซึ่งนิยมใช้ฟูลแบ๊กช่วยเติมเกมบุกมากกว่าเมื่อก่อน จึงมีแนวโน้มสูงที่หลายสโมสรในยุโรปจะให้ความสนใจในตัวดัมฟรีส์

ขณะที่มาเลน แนวรุกวัย 22 ปี อดีตเด็กฝึกของอาร์เซน่อล ถึงจะไม่ใช่ตัวทำประตูหลักของทีมชาติดัตช์ แต่ก็มีบทบาทในเกมรุกอย่างมาก ทั้งการควบคุมบอลที่ดี การประสานงานกับ เมมฟิส เดปาย อย่างเข้าขา ตัวอย่างชัดๆ คือเกมกับนอร์ธ มาซิโดเนีย ซึ่งเขาได้บอลในแดนตัวเอง จากนั้นพาบอลเลี้ยงขึ้นหน้า ทำชิ่ง 1-2 กับเดปาย จบด้วยมาเลนเปิดบอลให้เดปายทำประตู

ด้วยอายุเท่านี้ และทักษะความสามารถของเขา สื่อบางสำนักเดาว่า ทีมที่ขยันใช้ดาวรุ่งอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ น่าจะสนใจอยากได้ตัวเขามากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปล่อย เจดอน ซานโช่ ย้ายทีมไปแล้ว

เรื่องอนาคตของทั้งดัมฟรีส์และมาเลนนั้น แม้แต่ โรเจอร์ ชมิดต์ กุนซือพีเอสวี ยังยอมรับว่า หลังจากทั้งคู่โชว์ฟอร์มได้ดีในยูโร 2020 มีแนวโน้มสูงว่ายากจะรั้งตัวพวกเขาไว้กับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า

 

REUTERS/Wolfgang Rattay

มิคเกล ดามสการ์ด (เดนมาร์ก / ซามพ์โดเรีย)

กองกลางวัยเพียง 20 ปี ติดทีมชาติเดนมาร์กในฐานะอะไหล่สำรองของ คริสเตียน อีริกเซ่น แต่ด้วยโชคชะตาและเหตุการณ์ไม่คาดฝันซึ่งเกิดกับอีริกเซ่นในนัดเปิดสนามซึ่งเขามีอาการหัวใจวายจนต้องหามส่งโรงพยาบาล และไม่สามารถทำการแข่งขันในนัดที่เหลือได้ ทำให้ดามสการ์ดได้รับโอกาสอย่างไม่ทันตั้งตัว

ในเกมกับเบลเยียม ดามสการ์ดได้ลงเล่นเป็นตัวจริง และเล่นอย่างมั่นใจ ก่อนจะมาฉายแววโดดเด่นในเกมกับรัสเซีย แมตช์ถัดมา ซึ่งเขาทำประตูแรกให้ทีม จากจังหวะการรับบอลบริเวณกรอบเขตโทษ แต่ง 1 จังหวะ แล้วสับไกเสียบมุมอย่างสวยงาม ส่วนนัดถล่มเวลส์ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ดามสการ์ดก็ทำแอสซิสต์ได้ด้วย

ส่วนในรอบรองชนะเลิศกับอังกฤษ ถึงสุดท้าย เดนมาร์กจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ดามสการ์ดก็ฝากผลงานการเป็นนักเตะคนแรกของทัวร์นาเมนต์ที่ทำประตูจากลูกฟรีคิกโดยตรง และยังเป็นคนแรกที่ทะลวงตาข่ายสิงโตคำรามได้อีกด้วย

แคสเปอร์ ยุลมันด์ กุนซือทีมชาติเดนมาร์ก รู้ฝีเท้าของดามสการ์ดเป็นอย่างดี เนื่องจากเคยคุมทีม นอร์ดเยลลันด์ ที่บ้านเกิด สมัยดามสการ์ดยังค้าแข้งก่อนย้ายไปลา ซามพ์ และเป็นคนให้โอกาสเขาได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ในระดับสโมสร จึงไว้ใจใช้งานเพลย์เมกเกอร์หนุ่มรายนี้แม้แต่ในนัดสำคัญกับทีมชาติเช็กในรอบก่อนรองชนะเลิศ

ผลงานระดับสโมสรของเขาก็ถือว่าไม่ธรรมดา แม้เพิ่งย้ายร่วมทีมซามพ์โดเรียในเดือนสิงหาคมปี 2000 ดามสการ์ดก็ได้ลงสนาม 35 นัดในฤดูกาลแรก ยิงไป 2 ประตู กับ 4 แอสซิสต์

ดามสการ์ดมีส่วนผสมระหว่างพรสวรรค์และพรแสวง ทั้งความมุ่งมั่นตั้งใจ และวุฒิภาวะซึ่งถือว่าน่าชื่นชมสำหรับนักเตะอายุเท่านี้

สื่อเดาว่าทีมที่เหมาะกับเขาตอนนี้คือ เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่ก็ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งน่าจะมีที่ว่างสำหรับแข้งหนุ่มอนาคตไกลรายนี้

 

REUTERS/Mike Hewitt

มานูเอล โลคาเตลลี่ (อิตาลี / ซาสซูโอโล่)

โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซืออัซซูรี่ เลือกโลคาเตลลี่เป็นหนึ่งในแผงกองกลาง 3 ตัว เมื่อ มาร์โก้ แวร์รัตติ ไม่สามารถลงสนามได้ และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ยืนยันด้วยสถิติการเข้าสกัดบอลสำเร็จรวม 14 ครั้ง ซึ่งเป็นรองเพียงแวร์รัตติ (21 ครั้ง) เพียงคนเดียวเท่านั้น

กองกลางวัย 23 ปี ยังโดดเด่นเรื่องการเคลื่อนที่เวลาไม่มีบอล รวมถึงการผ่านบอลที่มีประสิทธิภาพ มีบทบาทสำคัญในเกมชนะสวิตเซอร์แลนด์ 3-0 ในนัดสุดท้ายของกลุ่มเอ เมื่อยิงไป 2 ประตู จนคว้ารางวัล “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” มาครอง

ส่วนรอบรองชนะเลิศกับสเปน ถ้าไม่นับเรื่องยิงไม่เข้าในการดวลจุดโทษ ก็ถือว่าเขาทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยหยุดเกมรุกที่น่ากลัวของทีมกระทิงดุได้หลายจังหวะ

ส่วนระดับสโมสร ถึงจะอายุแค่ 23 ปี แต่ก็ลงเล่นให้ซาสซูโอโล่ไปแล้ว 99 นัด คาดว่าทีมใหญ่อย่าง ยูเวนตุส น่าจะให้ความสนใจ หรือถ้าเป็นสโมสรในพรีเมียร์ลีก สไตล์ของ อาร์เซน่อล ที่นิยมการทำเกมในแดนกลางก็น่าจะเหมาะกับเขาเช่นกัน

 

REUTERS/Petr David Josek

พาทริค ชิก (สาธารณรัฐเช็ก / ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)

ดาวซัลโวร่วมของศึกยูโรหนนี้กับผลงาน 5 ประตู แม้ชิกและสาธาณรัฐเช็กจะตกรอบไปแล้ว แต่ทั้งเขาและทีมก็ฝากผลงานน่าประทับใจในฐานะ “เซอร์ไพรส์” ของทัวร์นาเมนต์ได้เป็นอย่างดี

ชิกเป็นกองหน้าที่อันตรายในกรอบเขตโทษ ด้วยทักษะการจบสกอร์ที่เด็ดขาดในหลากหลายสถานการณ์ อีกทั้งยังเป็นกองหน้าที่มีทักษะรอบด้าน ทั้งการเล่นบอลกลางอากาศ ความแข็งแกร่งของร่างกายที่สามารถปะทะกับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างไม่ยี่หระ

ในระดับสโมสร ชิกทำไป 13 ประตูในทุกถ้วย และเนื่องด้วยเลเวอร์คูเซ่นพลาดโอกาสในการเล่นถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า ทำให้สโมสรขาดรายได้ไปไม่น้อย และอาจจะพร้อมตั้งโต๊ะเจรจาถ้าได้รับข้อเสนอที่น่าพอใจ

สื่อคาดว่าทีมที่อาจจะเหมาะกับการใช้งานชิกคือสเปอร์สและเอฟเวอร์ตัน ขณะที่เวสต์แฮมซึ่งมีประวัติการใช้งานแข้งเช็กมาในอดีต ทั้ง โทมัส ซูเช็ก และ วลาดิเมียร์ คูฟาล ก็น่าจะให้ความสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image