คอลัมน์ People In Focus : สมเด็จฯ ฮุน เซน ผู้เกิดมาเพื่ออยู่รอด

“ฮุน เซน เกิดมาเป็นผู้อยู่รอด” เซบาสเตียน สเตรนจิโอ ผู้เขียนหนังสือชีวประวัติ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา วางแผงเมื่อปี 2014 ระบุถึงตัวตนของ หัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ที่เพิ่งประกาศชัยชนะการเลือกตั้งกัมพูชาครั้งล่าสุด

สเตรนจิโอ ระบุว่า ฮุน เซน ปกครองมาเป็นเวลาครึ่งชีวิต และเป็นบุคคลที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสะสมอำนาจทางการเมือง

ฮุน เซน มีพื้นฐานยากจน เข้าร่วมกองทัพเขมรแดงขณะที่เขมรแดงกำลังรุ่งเรือง และเสียดวงตาข้างซ้ายไปในสมรภูมิยึดกรุงพนมเปญ เมื่อปี 1975 อย่างไรก็ตามหลังการกวาดล้างครั้งใหญ่ ฮุน เซน ที่ชีวิตตกอยู่ในความเสี่ยงหนีไปยังประเทศเวียดนาม ก่อนกลับมาโค่นล้มผู้นำเขมรแดงในปี 1979

ฮุน เซน ก้าวหน้าทางการเมืองอย่างรวดเร็ว โดยก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศด้วยวัยไม่ถึง 30 ปี ก่อนนั่งเป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ในปี 1985

Advertisement

หลัง ฮุน เซน พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งที่สนับสนุนโดยองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในความพยายามที่จะวางรากฐานประชาธิปไตยที่มีหลายพรรคการเมือง ฮุน เซน ขู่ทำสงครามหากไม่ได้มีส่วนร่วมในอำนาจ สุดท้าย

ฮุน เซน ได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกับสมเด็จฯ นโรดม รณฤทธิ์ ก่อนที่ฮุน เซน จะยึดอำนาจในปี 1997 หลังเกิดเหตุนองเลือดในกรุงพนมเปญ ที่ส่งผลให้คู่แข่งทางการเมืองต้องลี้ภัยหรือบางรายถูกสังหาร
หลังยึดอำนาจแต่เพียงผู้เดียว ฮุน เซน กลายเป็นผู้ช่ำชองในการเลือกตั้งด้วยทักษะแบบ “มาเคียเวลลี” ใช้ความรุนแรงสร้างความหวาดกลัว และในบางครั้งดำเนินยุทธวิธีแบ่งแยกแล้วปกครอง

ฮุน เซน วางรากฐานการเมืองเตรียมให้ลูกชาย ที่ได้รับตำแหน่งระดับสูงในกองทัพ เป็นผู้สืบทอดทางการเมือง ขณะที่ลูกสาวควบคุมสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นที่มีอิทธพลมากที่สุดในประเทศ

Advertisement

ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2013 พรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญของพรรคซีพีพี ครองที่นั่งถึง 55 ที่นั่งในสภา ใกล้เคียงกับซีพีพีที่มี 68 ที่นั่ง ขณะที่คะแนนเสียงทั่วประเทศทำได้ 44 เปอร์เซ็นต์ สูสีกับพรรคซีพีพีของฮุนเซ็นต์ที่ได้ไป 48 เปอร์เซ็นต์

ผลเลือกตั้งดังกล่าว และการเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลที่ตามมา เป็นสัญญาณเตือนให้ฮุน เซนเริ่มพุ่งเป้าไปที่ซีเอ็นอาร์พีมากขึ้น ด้วยการใช้ศาลที่อยู่ในความควบคุม พร้อมข้อหาร่วมมือกับสหรัฐล้มล้างรัฐบาลเรื่อยไปจนถึงข้อหาร้ายแรงอย่างการก่อกบฏ ส่งผลให้พรรคซีเอ็นอาร์พีถูกยุบในเวลาต่อมา ขณะที่แกนนำพรรคต้องถูกจำคุก และบางส่วนต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ

การกำจัดคู่แข่งดังกล่าวรวมไปถึง การปิดกั้นสื่อและภาคประชาสังคมอย่างหนัก ทำให้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ฮุน เซน สามารถคว้าชัยชนะมาได้แบบไร้คู่แข่ง

“เขาช่วยโค่นล้มรัฐบาลเขมรแดงที่ฆ่าล้างผู้คนเมื่อปี 1979 ข้อเท็จจริงที่เขาเชื่อว่าทำให้รัฐบาลได้สิทธิที่จะปกครองกัมพูชาไปตราบนานเท่านาน” สเตรนจิโอ ระบุ และว่า “ฮุน เซน มองตัวเอง เป็นผู้นำที่เหมาะสมกว่าผู้นำคนใดๆที่ครองประเทศยาวนาน และมองตัวเองเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในกระบวนการพัฒนาประเทศ”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image