ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | ชาคร ศิริสุวรรณสิทธิ์ [email protected] |
เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 25 เมษายน ซาอุดีอาระเบียประกาศแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศครั้งใหญ่และเป็นที่สนใจไปทั่วโลก เนื่องจากการปฏิรูปดังกล่าวจะมุ่งเน้นการลดการพึ่งพารายได้จากน้ำมัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 87 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งประเทศ ผู้อยู่เบื้องหลังแผนปฏิรูปเศรษฐกิจขนานใหญ่ในครั้งนี้ก็คือ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน รองมกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ ผู้กุมอำนาจในซาอุฯเอาไว้อย่างมากมายสำหรับชายที่มีอายุเพียง 30 ปี
เจ้าชายโมฮัมเหม็ด พระราชโอรสใน สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน กษัตริย์แห่งซาอุฯ ผงาดขึ้นมาเป็นผู้ทรงอิทธิพลของซาอุฯเมื่อปี 2558 หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์ซาอุฯ
เจ้าชายโมฮัมเหม็ดสร้างมาตรฐานให้กับสมาชิกราชวงศ์ซาอุฯยุคใหม่ ด้วยบุคลิกผู้นำที่มีความแข็งกร้าว เด็ดเดี่ยว และทะเยอทะยาน โดยนอกจากจะทรงมีหน้าที่ดูแลนโยบายด้านเศรษฐกิจ ในฐานะประธานสภากิจการด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาของซาอุฯแล้ว ยังทรงควบตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม รวมถึงนั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการบริหารบริษัท ซาอุดีอารัมโก บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลซาอุฯด้วย
เจ้าชายโมฮัมเหม็ดผู้จบการศึกษาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยคิงซาอุด ในกรุงริยาด มีโอรส 2 องค์ และธิดา 2 องค์ และทรงแต่งงานเพียงครั้งเดียวแตกต่างจากสมาชิกราชวงศ์พระองค์อื่นๆ
เจ้าชายโมฮัมเหม็ดใช้เวลาหลายปีทำงานให้กับพระบิดาที่ในขณะนั้นยังทรงเป็นเจ้าชายซัลมานซึ่งทรงดำรงตำแหน่งผู้ว่าการกรุงริยาด รวมไปถึงหลังจากที่เจ้าชายซัลมานทรงได้รับการสถาปนาเป็นมกุฎราชกุมารในปี 2556
บลูมเบิร์ก บิสซิเนสวีค ระบุในรายงานการสัมภาษณ์เจ้าชายโมฮัมเหม็ดที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อไม่นานนี้ว่า เจ้าชายรัชทายาทผู้ได้รับสมญานามจากนักการทูตว่า
“มิสเตอร์เอฟเวอรีธิง” ทำงานวันละ 16 ชั่วโมง และได้รับแรงบันดาลใจจากงานเขียนของ วินสตัน เชอร์ชิล และหนังสือ “ตำราพิชัยสงคราม” ของ ซุน วู บทสัมภาษณ์ดังกล่าวเจ้าชายเปิดเผยแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของซาอุฯ ผิดไปจากธรรมเนียมของประเทศที่เจ้าหน้าที่รัฐมักปิดปากเงียบในเรื่องนโยบายของรัฐ
“พระองค์ทรงรวบอำนาจเอาไว้มากมายและทรงอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่กษัตริย์ซัลมานขึ้นครองราชย์เมื่อปีก่อน” เฟรเดอริก เวห์รีย์ ผู้เชี่ยวชาญจากกองทุนคาร์เนกีเพื่อสันติภาพนานาชาติของสหรัฐระบุ
ด้าน บรูซ ไรเดล อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ของสหรัฐ บอกว่า พระองค์มีชื่อเสียงในเรื่องความมั่นใจและความทะเยอทะยาน ขณะที่นักการทูตชาติตะวันตกรายหนึ่งระบุว่า พระองค์ทรงฉลาดหลักแหลม มีความสามารถ และมีอิทธิพลอย่างมากต่อกษัตริย์แห่งซาอุฯผู้มีพระชนมายุ 80 พรรษาแล้ว
ในงานแถลงแผนปฏิรูปเศรษฐกิจเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าชายโมฮัมเหม็ดทรงเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวทั้งในและต่างประเทศซักถามเป็นเวลานานถึง 50 นาที โดยพระองค์ทรงตอบคำถามอย่างผ่อนคลายและสุภาพ หนึ่งในนั้นเป็นเสียงชื่นชมพระองค์ที่ว่า “ชื่อ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน จะได้รับการจดจำในอนาคต”
ขณะที่รัชทายาทลำดับที่ 2 ตอบอย่างถ่อมพระองค์ว่า “เราเป็นหนึ่งในประชาชนชาวซาอุฯ และในอนาคตประชาชนชาวซาอุฯก็เป็นที่จดจำเช่นกัน”