| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ชาคร ศิริสุวรรณสิทธิ์ |
| เผยแพร่ |
คอลัมน์ People In Focus: ชินจิโร โคอิซูมิ นักการเมืองตระกูลโคอิซูมิรุ่นที่ 4
“ชินจิโร โคอิซูมิ” นักการเมืองหนุ่ม วัย 38 ปี จากพรรคเสรีประชาธิปไตย พรรครัฐบาลของญี่ปุ่น เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมคนใหม่ หลังนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรี ประกาศปรับคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุด สร้างสถิติเป็นรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดเป็นลำดับที่ 3 นับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2
“โคอิซูมิ” ผู้ที่เรียกตัวเองว่า “ชินจิโร” เพื่อแยกตัวเองจากการถูกอ้างถึงในฐานะลูกชาย “จุนอิชิโร โคอิซูมิ” อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 56 ของญี่ปุ่น ถูกจับตามองจากสื่อมาโดยตลอดและได้รับการกล่าวถึงในฐานะดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการการเมืองที่อนาคตสดใส
ชินจิโร จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เคยทำงานเป็นนักวิจัยที่ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ หรือ ซีเอสไอเอส หน่วยงานคลังสมองของสหรัฐอเมริกา จนได้รับฉายา “มือญี่ปุ่น” ในฐานะที่ปรึกษารัฐบาลสหรัฐอเมริกาและมีอิทธิพลอย่างสูงต่อนโยบายด้านกลาโหมและการค้ากับญี่ปุ่นในเวลานั้น
ชินจิโร ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นเมื่อปี 2009 ได้ครองเก้าอี้สส.ที่ว่างลงหลังโคอิซูมิผู้พ่อ วางมือทางการเมือง ทำให้ชินจิโร เป็นนักการเมืองจากตระกูลโคอิซูมิ รุ่นที่ 4 ต่อจาก “ทวด” โคอิซูมิ มาตะจิโร อดีตรัฐมนตรีไปรษณีย์และการสื่อสาร “ปู่” จุนยะ โคอิซูมิ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันตนเอง หรือ กระทรวงกลาโหมในปัจจุบัน ร่วมถึง “พ่อ” จุนอิชิโร โคอิซูมิ อดีตนายกรัฐมนตรี
ก่อนหน้านี้ตำแหน่งทางการเมืองที่สูงที่สุดที่ชินจิโร เคยได้รับคือตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย กิจการฟื้นฟูภูมิภาคโทโฮคุ ที่ถูกสึนามิพัดถล่มเมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ชินจิโร เคยตกเป็นข่าวใหญ่เมื่อประกาศว่าจะแต่งงานกับ “คริสเทล ทากิงาวะ” ผู้ประกาศข่าวสาวลูกครึ่งฝรั่งเศส ชื่อดังวัย 42 ปี ที่เป็นที่รู้จักในฐานะตัวแทนประเทศญี่ปุ่นไปนำเสนอความพร้อมของกรุงโตเกียวในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ฤดูร้อน ปี 2020 จนประสบความสำเร็จ
ชินจิโร มีแนวคิดในเชิงก้าวหน้า เช่นสนับสนุนให้คู่แต่งงานสามารถใช้นามสกุลแยกกันได้ แนวคิดซึ่งยังคงผิดกฎหมายของประเทศญี่ปุ่นในเวลานี้ นอกจากนี้นักการเมืองหนุ่ม ยังถูกจับตามมองถึงแนวคิดเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเกิดวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ฟุคุชิมา เหตุการณ์ซึ่งทำให้ โคอิซูมิ ผู้พ่อเอง ก็ออกมาเป็นผู้นำในการต่อต้านโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ และดูเหมือนว่ามุมมองในประเด็นดังกล่าวของชินจิโร จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นอกจากงานสำคัญที่เป็นที่จับตาคือนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะนโยบายที่ญี่ปุ่นจะต้องนำไปชี้แจงต่อที่ประชุมสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ในวันที่ 23 กันยายนนี้ ถึงแผนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 45 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 10 ปีข้างหน้าและลดลงทั้งหมดในปี 2050 แล้ว
รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมคนใหม่ยังถูกจับตามองด้วยว่าจะตัดสินใจใช้สิทธิลางานเพื่อดูแลภรรยาที่จะคลอดลูกในช่วงต้นปีหน้านี้ด้วยหรือไม่
การตัดสินใจซึ่งจะทำให้ชินจิโร กลายเป็นรัฐมนตรีคนแรกของญี่ปุ่นที่ลางานดูแลภรรยา ในสังคมชายเป็นใหญ่ที่มักโยนหน้าที่ดูแลลูกให้กับผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว
