| ผู้เขียน | ชาคร ศิริสุวรรณสิทธิ์ |
|---|
หลี่ เหวินเหลียง แพทย์ผู้โดนข้อหาปล่อยข่าวลือไวรัสอู่ฮั่น
วันที่ 30 ธันวาคม นายแพทย์หลี่วินเหลียง แพทย์จากโรงพยาบาลกลางอู่ฮั่น วัย 34 ปี พบผู้ติดเชื้อไวรัสปริศนาที่มีอาการคล้ายโรคซาร์ส จำนวน 7 คน ทั้งหมดมีประวัติไปตลาดค้าสัตว์ทะเลในเมืองอู่ฮั่นเหมือนกันทั้งหมด ก่อนจะแจ้งเตือนเข้าไปในกลุ่มศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยแพทย์ ถึงเชื้อชนิดใหม่ดังกล่าว เพื่อให้เตรียมรับมือ
ข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ต่อไปในโลกออนไลน์เป็นวงกว้าง สุดท้ายนายแพทย์หลี่กลายเป็น 1 ใน 8 ผู้ที่ถูกตำรวจเมืองอู่ฮั่น ตั้งข้อหา “เผยแพร่ข่าวลือ” และกระทำการ “ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม”
นั่นกลายเป็นสิ่งที่ตำรวจอู่ฮั่น และหน่วยงานปกครองเมืองอู่ฮั่นถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเวลานี้ว่า เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดล่าช้า ส่งผลให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดจนควบคุมไม่ได้ จนเวลานี้ผ่านไปกว่า 1 เดือนมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 30,000 คน ทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 600 ราย
ข้อมูลที่นายแพทย์หลี่ ส่งผ่านแอพพลิเคชั่น “วีแชต” ระบุถึงผลตรวจคนไข้ที่พบเชื้อไวรัสซาร์ส โดยข้อความระบุในตอนท้ายว่าเชื้อดังกล่าวแท้จริงแล้วคือเชื้อโคโรนาไวรัสชนิดใหม่
“ตอนผมเห็นข้อความถูกแพร่ไปในโลกออนไลน์ ผมรู้เลยว่ามันนอกเหนือการควบคุมของผมแล้ว และผมคงจะถูกลงโทษ” นายแพทย์หลี่ เผยยกับซีเอ็นเอ็น
4 วันหลังจาก พบผู้ป่วย 7 รายแรก นายแพทย์หลีู่กเรียกตัวไปสถานีตำรวจและเซ็นยอมรับข้อหาและให้คำสัญญาว่าจะไม่กระทำการอันผิดกฎหมายอีก
“ครอบครัวผมจะต้องเป็นกังวลมากๆแน่ ถ้าผมต้องไร้อิสรภาพไป 2-3 วัน” นายแพทย์หลี่กล่าว และว่า หลังจากนั้น “ไม่มีอะไรที่ผมสามารถทำได้ ทุกๆอย่างจะต้องยึดตามสิ่งที่ทางการกำหนดเอาไว้”
นายแพทย์หลี่ ติดเชื้อโคโรนาไวรัส จากการรักษาคนไข้เมื่อวันที่ 10 มกราคม จนมีอาการไอ มีไข้ และต้องเข้ารักษาตัวด้วยอาการสาหัสถึงขั้นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ในห้องไอซียู ก่อนพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
หลังจากนายแพทย์หลี่พบผู้ป่วยรายแรก ความผิดพลาดในการจัดการข้อมูลของหน่วยงานท้องถิ่นอู่ฮั่น การห้ามหน่วยงานหรือองค์กรใดๆเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาด ยกเว้น คณะกรรมาธิการสาธาณสุขเมืองอู่ฮั่น ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตพุ่งสูงเป็นทวีคูณแทบทุกวัน ผู้ติดเชื้อแพร่กระจายไปในทุกมณฑลของประเทศ และอีกหลายประเทศทั่วโลก
เหตุการณ์นี้กลายเป็นเหตุการณ์ที่ทางการจีนทั้งโปลิตบูโร พรรคคอมมิวนิสต์ และนายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่นเอง ออกมายอมรับแล้วว่าเกิดความผิดพลาดขึ้น
ล่าสุดศาลสูงสุดของจีนมีคำตัดสินวิพากษ์วิจารณ์ตำรวจอู่อั่นที่ดำเนินคดีผู้ปล่อยข่าวลือ 8 คน โดยระบุว่า หากเสียงเหล่านี้มีผู้รับฟัง และมีการดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดได้ทัน ก็คงจะไม่มีการแพร่ระบาดมากมายขนาดนี้
นายแพทย์หลี่ะบุว่าตนรู้สึกโล่งใจที่ศาลสูงสุดของจีนมีคำตัดสินดังกล่าว ทำให้มั่นใจได้ว่าตนจะไม่ถูกลงโทษใดๆจากทางการ
ด้านบัญชีเว่ยป๋อ ของนายแพทย์หลี่ มีชาวจีนจำนวนมากเข้ามาส่งข้อความให้กำลังใจ และอวยพรให้หายป่วยเร็วๆ
“นายแพทย์หลีุ่ณคือแพทย์ที่ดี รู้จักผิดชอบชั่วดี ผมหวังว่าคุณจะปลอดภัย”
ขณะที่อีกรายระบุว่า “หากอู่ฮั่นให้ความสนใจกับคำเตือนของเขาในตอนนั้น และออกมาตรการที่ทันท่วงที สถานการณ์ในตอนนี้คงเป็นภาพที่แตกต่างออกไป”
เวลานี้คำอวยพรเหล่านั้นอาจจะไปไม่ถึงหมอหนุ่มผู้ทุ่มเททำงานในจุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งนี้อีกแล้ว เมื่อนายแพทย์หลี่ ได้เสียชีวิตลงในช่วงเช้ามืดของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจากการติดเชื้อ
กลายเป็นเหยื่ออีก 1 คนของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
