คอลัมน์ People In Focus: อี มัน ฮี ผู้นำลัทธิชินชอนจิเกาหลีใต้
นายอี มัน ฮี ผู้ลำลัทธิชินชอนจิ วัย 89 ปี ถูกทางการเกาหลีใต้ จับกุม ในข้อหาขัดขวางรัฐบาลในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการปกปิดข้อมูลสมาชิกลัทธิและให้เอกสารปลอมแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เกี่ยวกับจำนวนผู้เข้าพิธี ในกิจกรรมของลัทธิเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นายอี มัน ฮี ยังเจอกับข้อกล่าวหายักยอกเงิน 5,600 ล้านวอน หรือราว 146 ล้านบาท ในช่วงปี 2015-2019 ที่ผ่านมารวมถึงข้อหาจัดพิธีทางศาสนาโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย
ลัทธิชินชอนจิ ชี้แจงข้อกล่าวหาในแถลงการณ์ระบุว่า การขอข้อมูลของทางการเกาหลีใต้ทำให้ นายอี กังวลถึงความเป็นส่วนตัวของ พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่เคยปกปิดหรือขัดขวางการสอบสวน
คดีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากลัทธิชินชอนจิ เป็นต้นตอการแพร่ระบาดของโควิด-9 กลุ่มก้อนให้ โดยมีรายงานว่ามีสมาชิกลัทธิติดเชื้อโควิด-19มากกว่า 5,000 คน คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของยอดผู้ติดเชื้อในประเทศเกาหลีใต้ทั้งหมด
สำหรับนายอี มัน ฮี เกิดวันที่ 15 กันยายน ปีค.ศ.1931 ในจังหวัดกยองซังเหนือ ในยุคที่จักรวรรดิญี่ปุ่นบุกยึดครองเกาหลีใต้ โดยก่อนที่นายอีจะก่อตั้งลัทธิของตัวเอง นายอีเคยเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม “โอลีฟทรี” ลัทธิศาสนาคริสต์ที่ก่อนตั้งโดยชาวเกาหลีใต้ รวมไปถึงเคยเป็นสมาชิกลัทธิที่มีชื่อว่า “ทาเบอร์นาเคิลเทมเพิล” ด้วย
ในช่วงสงครามเกาหลีนายอี เข้าร่วมรบกับกองทัพเกาหลี และหลังสงครามนายอีกลับมายังบ้านเกิดและทำไรทำนาเพื่อหาเลี้ยงชีพ
นายอีเป็นผู้ก่อตั้ง “ลัทธิชินชอนจิ” เป็นครั้งแรกเกาหลีใต้ ในปี 1984 โดยคำว่า “ชินชอนจิ” นั้นมีความหมายว่า “โลกและสวรรค์ใหม่”
นายอี ผู้นำลัทธิที่เวลานี้มีสมาชิกมากกว่า 230,000 คน เคยอ้างว่า “พระเยซู” ศาสดาแห่งศาสนาคริสตร์ เคยปรากฏกายเป็นตัวตนเปล่งแสงอัศจรรย์ต่อหน้าต่อตา และอ้างตัวเป็นศิษยาพิบาลผู้รับใช้พระเจ้าตามคัมภีร์ไบเบิล
สมาชิกลัทธิชินชอนจิ ต่างเชื่อว่านายอี จะนำคนจำนวน 144,000 คนไปยังสวรรค์พร้อมกับนายอีในวันใดวันหนึ่งหลังจากพรเยซูเสด็จกลับสู่โลกมนุษย์เป็นครั้งที่ 2 ในอนาคต
ลัทธิชินชอนจิ ระบุว่าลัทธิมีสมาชิกมากกว่า 20,000 คนนอกเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในจีน ญี่ปุ่น รวมไปถึงในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีสมาชิกลัทธิอยู่จำนวนหนึ่ง
ลัทธิชินชอนจิ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อทางการเกาหลีใต้ยืนยันว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจำนวน 433 ราย ในจำนวนนั้นกว่า 231 รายหรือกว่าครึ่งเป็นสมาชิกลัทธิชินชอนจิ
ทางการเกาหลีใต้ตรวจสอบพบว่า การแพร่ระบาดจำนวนมากส่วนหนึ่งมาจากสมาชิกลัทธิที่เข้าร่วมพิธีที่มีการชุมนุมของสมาชิกจำนวนมาก โดยมีรายงานว่าการสวมใส่แว่นตา สร้อยคอ และต่างหู เองก็เป็นสิ่งต้องห้ามในการเข้าร่วมพิธีด้วย
การจัดพิธีกรรมของลัทธิส่งผลให้เกิดการแพร่เชื้อโควิด-19ระหว่างสมาชิกกันเอง ก่อนที่ผู้ติดเชื้อจะเดินทางไปทั่วประเทศในเดือนกุมพาพันธ์ กลายเป็นการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ตามมา
นายอี ออกมาแถลงข่าวขอโทษสังคมเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาที่ลัทธิทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่
“ถึงแม้ว่ามันจะเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ติดเชื้อไปแล้ว” นายอี ระบุ และว่า “เราพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้ทั้งหมด”
ทั้งนี้นายอีถูกควบคุมตัวเอาไว้เพื่อรอการไต่สวนจากศาล ขณะที่ทนายความของนายอีระบุว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล
