คอลัมน์ People In Focus : แคร์รี หล่ำ ผู้นำฮ่องกงกับ ‘เงินกองเต็มบ้าน’

แคร์รี หล่ำ

คอลัมน์ People In Focus : แคร์รี หล่ำ ผู้นำฮ่องกงกับ ‘เงินกองเต็มบ้าน’

หลังจากจีนผ่าน “กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่” เพื่อบังคับใช้ในฮ่องกง กฎหมายซึ่งไม่ได้ผ่านการพิจารณาใดๆ จากรัฐสภาฮ่องกง กำหนดโทษกับผู้ที่ยุยงส่งเสริม ปลุกปั่น สนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระของฮ่องกง ต้องรับโทษหนัก

กฎหมายดังกล่าวซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะจากชาติตะวันตก ว่าจะขัดขวางสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนในฮ่องกงอย่างรุนแรง ได้ถูกบังคับใช้แล้วกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านของฮ่องกง 4 คน ที่ต้องพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในทันที โดยไม่ได้มีการพิจารณาไต่สวนในชั้นศาลแต่อย่างใด

ย่างก้าวดังกล่าวของทางการจีนและรัฐบาลฮ่องกงส่งผลให้ชาติตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ประกาศคว่ำบาตรทางการเงินกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮ่องกงหลายคน และหนึ่งในนั้นคือนางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง

แม้ก่อนหน้านี้ นางหล่ำ จะเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้กับสถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็น สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นจีนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับความกังวลจากการถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐว่า ตนไม่ได้อาศัยในสหรัฐอเมริกามาหลายปีแล้วและเปิดเผยว่าการคว่ำบาตรนั้น “จริงๆ แล้วไร้ความหมาย”

Advertisement

แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม มาตรการคว่ำบาตรกระทบกับชีวิตประจำวันของผู้นำฮ่องกงวัย 63 ปีโดยตรง โดยล่าสุดนางหล่ำ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กับสถานทีโทรทัศน์เอชเคไอบีซี ยอมรับว่าตนไม่สามารถทำธุรกรรมกับธนาคารใดๆ ได้เลย

“ฉันต้องใช้เงินสดทุกๆ วันกับทุกๆ อย่าง ฉันมีเงินกองเต็มบ้านเลย รัฐจ่ายเดือนฉันเป็นเงินสดเพราะฉันไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารได้”หล่ำระบุ

ด้านกระทรวงต่างประเทศจีน ออกมาแถลงคัดค้านการดำเนินการของสหรัฐอย่างหนักแน่น โดยระบุว่า “ต่างชาติไม่มีสิทธิที่จะแสดงความเห็นไร้ความรับผิดชอบ หรือแทรกแซงกิจการภายในฮ่องกงได้” และว่า จีนจะตอบโต้สหรัฐอเมริกาอย่างเด็ดเดี่ยว

Advertisement

การเปิดเผยของนางหล่ำ ผู้นำประเทศและเขตแดนที่มีเงินเดือนมากที่สุดในโลก ทำให้เกิดคำถามจากสื่อหลักและสื่อโซเชียลมีเดียฮ่องกงว่า นางหล่ำรับเงินเดือนกว่า 400,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือกว่า 1.5 ล้านบาท หรือปีละเกือบ 20 ล้านบาทเอาไว้ที่บ้านได้อย่างไร

ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์ในฮ่องกงบางส่วนก็วิพากษ์วิจารณ์การเปิดเผยความลำบากในการใช้เงินของผู้นำฮ่องกงว่า เป็นความย้อนแย้งและเทียบไม่ได้กับประชาชนที่กำลังลำบากท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในเวลานี้
ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์ในจีนก็วิพากษ์วิจารณ์ถึงผลกระทบจากการคว่ำบาตรของสหรัฐที่มากเกินคาดคิด และตั้งคำถามว่าธนาคารในจีนแผ่นดินใหญ่จะไม่สามารถช่วยหล่ำได้เลยหรือ?

ผลกระทบจากการคว่ำบาตรทางการเงินที่เหนือความคาดหมายของนางหล่ำ แสดงให้เห็นอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาที่มีเหนือระบบการเงินของโลก ผลมาจากการที่เงินสกุลดอลลาร์นั้นเป็นเงินตราที่ถูกใช้เป็นเงินสำรองของโลกในเวลานี้ เช่นเดียวกับธนาคารในจีนที่พึ่งพาระบบการทำธุรกรรมระหว่างประเทศที่ใช้เงินสกุลดอลลาร์เป็นหลัก

นั่นส่งผลให้ธนาคารในฮ่องกง หรือแม้แต่ธนาคารในจีนเองหวั่นเกรงว่าจะเผชิญกับการถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐหากยื่นมือช่วยนางหล่ำ แม้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐจะไม่ได้ระบุเงื่อนไขไว้ยอย่างชัดเจนก็ตาม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image