| ที่มา | นสพ.มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ศรีสกุล ลีลาพีระพันธ์ |
| เผยแพร่ |
คอลัมน์ แกะรอยต่างแดน : รถไฟความเร็วสูง เชื่อม “คุนหมิง-เวียงจันทน์”
จีน และลาว เพิ่งจะเปิดเส้นทางเดินรถไฟความเร็วสูง ที่เชื่อมระหว่างเมืองคุนหมิง ของจีน กับกรุงเวียงจันทน์ ของลาว อย่างเป็นทางการ เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา
หลังใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานเกือบ 5 ปี!
โดยเส้นทางรถไฟเชื่อมระหว่างจีนกับลาวนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเศรษฐกิจใหญ่ของจีน คือโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
สำหรับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงนี้ ใช้เงินลงทุนในการก่อสร้างสูงถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2 แสนล้านบาท สร้างขึ้นโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างรัฐบาลลาวกับจีนที่มีการลงนามกันไปเมื่อปี ค.ศ.2015 ซึ่งจีน ถือหุ้นอยู่ 70 เปอร์เซ็นต์ และลาวถืออยู่ 30 เปอร์เซ็นต์
ด้วยหวังว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูง ที่ยาวถึง 1,035 กิโลเมตรนี้ จะสามารถขยายต่อไปประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ต่อไปอีกได้
โดยเส้นทางรถไฟความเร็วสูงนี้ อยู่ในลาว 414 กิโลเมตร คือตั้งแต่บ่อเต็น ไปถึงกรุงเวียงจันทน์ ที่เหลือคือวิ่งอยู่ในประเทศจีน คือจากม่อหาน ไปถึงคุนหมิง
ตลอดเส้นทาง มีอุโมงค์อยู่ทั้งสิ้น 167 แห่ง เชื่อมต่อทั้งหมด 45 สถานีในสองประเทศ แต่เป็นสถานีที่ใช้รับส่งผู้โดยสาราว 20 สถานีเท่านั้น
ด้วยความเร็วของรถไฟที่วิ่งได้สูงถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่วิ่งในลาวจะทำความเร็วได้ที่ 160-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทำให้การวิ่งทั้งเส้นทาง ระหว่างคุนหมิงกับกรุงเวียงจันทน์ จะใช้เวลาทั้งสิ้น ราวๆ 10 ชั่วโมงเท่านั้น !
มีการคาดการณ์กันไปต่างๆนานา เกี่ยวกับประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดเส้นทางรถไฟเชื่อมสองประเทศ บ้างก็ว่า จะช่วยกระตุ้นทำให้เศรษฐกิจของลาวดีขึ้น โดยเฉพาะการเดินรถไฟที่เร็วขึ้นระหว่างบ่อเต็นถึงกรุงเวียงจันทน์ ที่น่าจะมีจำนวนคนที่เดินทางกันมากขึ้น เพราะประหยัดเวลาในการเดินทางอย่างมาก
แต่ธนาคารโลกกลับมองว่าหากจะให้เกิดประโยชน์กับลาวจริงๆ รัฐบาลลาวควรจะออกแบบเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นตามแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูงขึ้น
นี่ยังไม่นับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไทย ที่หลายฝ่ายก็มองว่า ถ้าจับทางดีๆ เราก็จะได้รับประโยชน์อย่างใหญ่หลวง จากเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายนี้เช่นกัน
