คอลัมน์ แกะรอยต่างแดน: จากกรุงจาการ์ตา สู่ “นูซันตารา” เมืองหลวงใหม่ของอินโดฯ

เมืองหลวงใหม่อินโด
AFP

คอลัมน์ แกะรอยต่างแดน: จากกรุงจาการ์ตา สู่ “นูซันตารา” เมืองหลวงใหม่ของอินโดฯ

หลังจากที่ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ได้เคยประกาศถึงแผนการย้ายเมืองหลวงไปยังจังหวัดกาลิมันตันตะวันออก บนเกาะบอร์เนียว ไว้เมื่อเดือนสิงหาคม 2019

ทั้งนี้ กรุงจาการ์ตา ถูกตั้งเป็นเมืองหลวง ตั้งแต่อินโดนีเซียได้รับเอกราชจากเนเธอร์แลนด์ เมื่อปี 1949 และสาเหตุที่ทำให้ต้องหาเมืองหลวงแห่งใหม่ อันเนื่องมาจากปัญหาที่แสนจะเรื้อรังของกรุงจาการ์ตา ที่มีทั้งปัญหาเรื่องของแผ่นดินทรุด มลพิษ ความแออัด ปัญหาจราจรที่แก้เท่าไหร่ก็ไม่หาย รวมไปถึงปัญหาเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ

นำไปสู่ความพยายามที่จะย้ายเมืองหลวงของอินโดนีเซีย ที่ต้องสะดุดลง อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ทางการอินโดนีเซียก็ได้ประกาศชื่อของเมืองหลวงใหม่แห่งนี้ว่า “นูซันตารา”

Advertisement

โดยชื่อ นูซันตารา เป็นภาษาชวาเก่า ที่แปลว่า “หมู่เกาะรอบนอก” ซึ่งในประเทศอินโดนีเซีย ก็จะหมายถึง “กลุ่มเกาะอินโดนีเซีย” นั่นเอง

สำหรับ เมืองนูซันตารานี้ ตั้งอยู่ในเขตป่า จังหวัดกาลิมันตัน บนเกาะบอร์เนียว และมีงบประมาณในการสร้างเมืองสูงถึง 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.05 ล้านล้านบาท และมีกรอบเวลาในการย้ายเมืองระยะแรก คือระหว่างปี 2022 ถึง 2024 โดยจะมีการก่อสร้างถนน และท่าเรือขึ้นมาก่อน เพื่อให้มีการขนส่งเข้าถึงพื้นที่ได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเกาะบอร์เนียว จะดูเป็นพื้นที่ห่างไกล แต่ก็อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งแร่ธาตุ ถ่านหิน และปาล์มน้ำมัน ทำให้สามารถดึงดูดนักลงทุนได้ และที่สำคัญคือ อยู่ติดกับรัฐซาบาห์ ของประเทศบรูไน และรัฐซาราวัก ของประเทศมาเลเซียด้วย

Advertisement

โดยนอกเหนือจากการทำให้ นูซันตารา เป็นที่ตั้งของหน่วยราชการต่างๆแล้ว ก็ยังมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืน บนพื้นฐาน “สมาร์ทซิตี้” ที่จะต้องเป็นเมืองใหม่ในฐานะ “ซุปเปอร์ฮับ” ที่คาร์บอนต่ำ สนับสนุนภาคการเกษตร สุขภาพ และเทคโนโลยี ผ่านอุตสาหกรรมที่เน้นความยั่งยืน ใช้พลังงานหมุนเวียน

หนึ่งในเป้าหมายของผู้นำอินโดนีเซีย คือ จะต้องเป็นเมืองที่ออกแบบมาให้ปล่อยมลพิษเป็น “ศูนย์”

ดูเป็นการวาดภาพเมืองที่แสนจะสมบูรณ์แบบ แต่จะทำได้ดีตามเป้าที่หมายที่ตั้งไว้หรือไม่ ต้องรอดูต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image