คอลัมน์ People In Focus : ซาเนีย ข่าน เหยื่อความรุนแรงในครอบครัวเอเชียใต้

คอลัมน์ People In Focus : ซาเนีย ข่าน เหยื่อความรุนแรงในครอบครัวเอเชียใต้

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ซาเนีย ข่าน หญิงชาวอเมริกัน-ปากีสถาน วัย 29 ปี ในนครชิคาโก รัฐอิลินอยส์ สหรัฐอเมริกา กำลังโด่งดังใน TikTok ในฐานะตัวแทนของหญิงในชุมชนชาวเอเชียใต้ ที่กล้าลุกขึ้นมาพูดถึงการเดินหน้าหย่าร้างกับสามี หลังต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลจากครอบครัวและวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่อย่างหนัก

ข่าน ผู้ประกอบอาชีพช่างภาพที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง มีผู้ติดตามในแพลทฟอร์ม TikTok มากถึง 20,000 คนตีแผ่เรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว ซึ่งเกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตของสามี ที่ทำให้ข่านต้องตัดสินใจหย่าร้าง ด้วยการฟ้องศาลให้สามีอยู่ห่างจากเธอและถึงขั้นต้องเปลี่ยนกลอนประตูห้องพักที่คอนโดมิเนียม

ข่านเล่าถึงการก้าวข้ามแรงกดดันจากครอบครัว ที่ห่วงหน้าตาในสังคม ผ่านคำแนะนำให้ “อดทน” เรื่อยไปจนถึงสมาชิกครอบครัวบางคนที่ขู่ว่าจะ “ฆ่าตัวตาย” หากเธอหย่ากับสามี
ก่อนที่จะดำเนินการทางกฎหมายซึ่งใกล้จะสิ้นสุดกระบวนการลงในเดือนสิงหาคมนี้ ข่านเตรียมเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิดในชัตตานูก้า รัฐเทนเนสซี เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ตามกำหนดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ทว่า ข่าน กลับต้องเดินทางกลับบ้านใน “โลงศพ” เมื่อ ราฮีล อาหมัด สามีวัย 36 ปีที่แยกกันอยู่มาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว ตัดสินใจขับรถระยะทาง 700 กิโลเมตรใช้ปืนยิง ข่าน จากด้านหลัง เสียชีวิตลงที่หน้าห้องพักของเธอในวันเดียวกันนั้นเอง

Advertisement

เพื่อนของ ข่าน ที่แต่งงานกับสามีในเดือนมิถุนายน ปี 2021 หลังจากคบกับ อาหมัด มาเป็นเวลา 5 ปี เล่าว่า ทั้งคู่คบกันแบบทางไกลก่อนที่จะแต่งงาน ขณะที่อาหมัด มีปัญหาสุขภาพจิตขึ้นในช่วงหลัง โดยข่านเล่าถึงเรื่องดังกล่าวในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย ก่อนที่ข่านจะตัดสินใจระบายเรื่องราวผ่าน TikTok

ข่านเล่าเรื่องราวชีวิตในโพสต์หนึ่งระบุว่า ตนมีความรู้สึกเหมือนเป็น “แกะดำ” ในชุมชนและว่า “การผ่านการหย่าร้างในฐานะหญิงเอเชียใต้ในบางครั้งทำให้คุณรู้สึกว่าชีวิตล้มเหลว”

“สมาชิกครอบครัวหลายคนบอกฉันว่าหากฉันทิ้งสามีก็เหมือนฉันปล่อยให้ปีศาจมีชัยชนะ บอกฉันว่าฉันแต่งตัวเหมือนโสเภณี และขู่ว่าหากฉันกลับไปบ้านเกิดพวกเขาจะฆ่าตัวตาย” ข่าน ระบุ

Advertisement

โศกนาฏกรรมในครั้งนี้สะท้อนชะตากรรมของผู้หญิงในชุมชนชาวเอเชียใต้ไม่เฉพาะในสหรัฐเท่านั้น แต่รวมไปถึงหญิงชาวเอเชียใต้ทั่วโลกที่ต้องเผชิญความรุนแรงในครอบครัวและส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะเปิดเผยเรื่องราวของตนเอง

อย่างไรก็ตาม หวังว่าเรื่องราวของข่านที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลก และทำให้ประเด็นสิทธิของผู้หญิงในเอเชียใต้กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งนั้นจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นได้ไม่มากก็น้อย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image