| ที่มา | นสพ.มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ศรีสกุล ลีลาพีระพันธ์ |
| เผยแพร่ |
แกะรอยต่างแดน : ปิด’พิพิธภัณฑ์ แอลจีบีทีคิวพลัส’ แห่งเดียวในรัสเซีย
พิพิธภัณฑ์ แอลจีบีทีคิวพลัส แห่งเดียว ในประเทศรัสเซีย ถูกสั่งบังคับให้ปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ลงนามในกฎหมายขยายขอบเขตของข้อจำกัดในการจัดการกับสิ่งที่เรียกกันว่า “การให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผู้มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ”
โดยกฎหมายใหม่นี้จะเป็นการสั่งห้ามการแสดงออกเกี่ยวกับ แอลจีบีทีคิวพลัส ในที่สาธารณะทั้งหมด รวมทั้งในสื่อทั้งหมด กลายเป็นที่มาของการสั่้งปิดพิพิธภัณฑ์แอลจีบีทีคิวพลัส ที่ ปายอตร์ วอสเครเซนสกี ผู้ก่อตั้ง วัย 37 ปี ก่อตั้งขึ้นมา
โดยวอสเครเซนสกี ได้ออกแถลงการณ์ หลังถูกสั่งปิดว่า “การปิดพิพิธภัณฑ์ ไม่เป็นเพียงแค่ความโศกนากฏกรรมส่วนบุคคล แต่ยังเป็นความโศกนาฏกรรมของผู้คนและบ้านเกิดของฉัน”
ทั้งนี้ วอสเครเซนสกี ซึ่งเป็นทั้งหมอ และนักเคลื่อนไว้ ได้เปิดนิทรรศการเกี่ยวกับแอลจีบีทีคิวพลัส แบบชั่วคราวขึ้นมา ที่แฟลตของเขา ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นไปที่เรื่องราวประวัติศาสตร์ของแอลจีบีทีคิวพลัส ผ่านผลงานศิลปะและวัตถุต่างๆ อย่างเช่น รูปแกะสลัก และหนังสือ และแม้ว่าจะเพิ่งเปิดได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ แต่ก็มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แล้วถึงราว 200 คน!!
หากแต่ก็ต้องมาปิดตัวลง เนื่องจากกฎหมายใหม่ที่ปูตินลงนามไปเรียบร้อย เป็นกฎหมายที่ขยายขอบเขตของกฎหมายเดิม ที่ออกมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2013 เป็นกฎหมายที่ห้าม “การให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผู้มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ” ไปยังเด็กๆ และตอนนี้ก็ควบคุมไปถึงการห้ามกลุ่มแอลจีบีทีคิวพลัส แสดงออกใดๆกับกลุ่มผู้ใหญ่ในที่สาธารณะ ออนไลน์ หรือแม้แต่ในสื่อภาพยนตร์ หนังสือ รวมทั้งการโฆษณา
หากใครฝ่าฝืน จะต้องถูกปรับเป็นเงินไม่เกิน 4 แสนรูเบิล สำหรับบุคคลทั่วไป และปรับไม่เกิน 5 ล้านรูเบิล สำหรับบริษัทหรือองค์กรต่างๆ ที่ฝ่าฝืน
ที่ผ่านมา รัสเซียก็ใช้กฎหมายดังกล่าวในการห้ามการจัดงานเดินขบวนของกลุ่มคนรักร่วมเพศ และใช้เป็นข้อบังคับในการควบคุมตัวบรรรดานักเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องคนรักร่วมเพศด้วย
