อ็อตโต วอร์มเบียร์ นักศึกษาอเมริกันจากรัฐโอไฮโอ ผู้รักการผจญภัย เดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีเหนือ กับบริษัททัวร์ “ยังไพโอเนียร์” บริษัททัวร์ในจีนที่ใช้สโลแกนที่ว่า “นี่คือทริปที่พ่อแม่คุณไม่อยากให้ไป!”
และการเดินทางระยะเวลา 5 วัน พร้อมกับนักท่องเที่ยวอเมริกันอีก 10 คน นำชีวิตของหนุ่มวัย 22 ปี ไปสู่ “จุดจบ”
ร่างที่นอนแน่นิ่งเป็นผักของวอร์มเบียร์ ถูกเกาหลีเหนือส่งกลับสหรัฐอเมริกา ด้วยอาการโคม่าเมื่อสัปดาห์ก่อน นับเป็นเวลา 18 เดือนหลังจากนักศึกษาหนุ่มถูกทางการเกาหลีเหนือ จับกุมฐานขโมย “โปสเตอร์ทางการเมือง” บน “ชั้นสำหรับพนักงาน” ของโรงแรม “ยังกักโด” โรงแรมในกรุงเปียงยาง ต้องโทษใช้แรงงานหนัก 15 ปี เมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา
โปสเตอร์ดังกล่าวมีข้อความว่า “ติดอาวุธให้กับตัวเราอย่างแข็งขันด้วยความรักชาติของคิม จอง อิล” และการยุ่งเกี่ยวกับป้ายสัญลักษณ์ที่มีชื่อหรือภาพผู้นำเกาหลีเหนือนับเป็นอาชญากรรมร้ายแรงตามกฎหมาย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาประณามการลงโทษอันไม่ได้สัดส่วนกับความผิดของเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง ระบุว่า เป็นการกระทำของระบอบอันป่าเถื่อน ซึ่งไม่เคารพหลักนิติธรรม หรือจริยธรรมพื้นฐานของมนุษย์
ด้านจอห์น แม็คเคน วุฒิสมาชิกชื่อดังของสหรัฐ โจมตีเกาหลีเหนือย่างรุนแรงว่า วอร์มเบียร์นั้น “ถูกฆาตกรรม” โดยรัฐบาล คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ
ขณะที่เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า เราถือว่าเกาหลีเหนือเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการจองจำวอร์มเบียร์ซึ่งไม่ยุติธรรม และเรียกร้องให้ปล่อยตัวชาวอเมริกันอีก 3 คนที่ถูกคุมขังอย่างผิดกฎหมายด้วย
แพทย์เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ระบบประสาทของ วอร์มเบียร์ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง และระบุว่าหนุ่มอเมริกันผู้เคราะห์ร้ายอยู่ในสภาพ “ผัก” หรือภาวะฟื้นตัวแต่ไร้ซึ่งการตอบสนอง เป็นอาการที่ผู้ป่วยลืมตา กระพริบตา แต่ไม่มีสัญญาณซึ่งความเข้าใจการสื่อสาร หรือรับรู้ถึงสิ่งรอบข้างแต่อย่างใด
ด้านรัฐบาลเกาหลีเหนือ อ้างว่า วอร์มเบียร์ ล้มป่วยลงและมีอาการโคม่า หลังจากถูกตัดสินโทษเมื่อปีก่อน และระบุว่า นักศึกษาหนุ่มมีอาการ “อาหารเป็นพิษ” และได้รับ “ยานอนหลับ”
จากการตรวจร่างกายแพทย์ไม่สามารถหาต้นตอของความเสียหายในระบบประสาทของวอร์มเบียร์ได้ และไม่มีหลักฐานยืนยันเช่นกันว่าวอร์มเบียร์มีอาการอาหารเป็นพิษก่อนหน้านี้หรือไม่
แพทย์ผู้ให้การรักษาระบุว่า วอร์มเบียร์ สูญเสียเนื้อเยื่อจำนวนมากในทุกๆส่วนของสมอง แต่ก็ไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด พร้อมทั้งคาดว่าสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ ภาวะหัวใจวายที่ส่งผลให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองถูกตัดขาด
ครอบครัวของวอร์มเบียร์ แถลงเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า พวกเขาเชื่ออย่างแรงกล้าว่า ไม่ว่า “วอร์มเบียร์” จะเจอกับความโหดร้ายใดๆมา อย่างน้อย เขาก็ได้พบกับความสงบแล้วเมื่อได้กลับมาถึงบ้าน
“เมื่ออ็อตโต กลับมาถึงซินซินเนติ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน เขาไม่สามารถพูด ไม่สามารถมอง และไม่สามารถตอบสนองต่อคำพูดใดๆได้ เขาดูไม่สบายตัวและมีสีหน้าเจ็บปวด” แถลงการณ์ระบุและว่า
“ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ยินเสียงเขาอีกเลย แต่ภายในวันเดียวสีหน้าเขาเปลี่ยนไป เขาสงบ เขาอยู่ที่บ้าน เราเชื่อว่าเขารู้สึกได้”
