คอลัมน์ People In Focus : หวัง หูหนิง มันสมองเบื้องหลังผู้นำจีน

ชื่อของ “หวัง หูหนิง” กลายเป็นที่จับตามองจากทั่วโลกหลังเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ชายวัย 63 ปีผู้นี้ก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 7 สมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมือง กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดในการกำหนดนโยบายด้านต่างๆของประเทศจีนได้ แม้หวัง จะไม่เคยมีประสบการณ์ในการเป็นผู้นำ หรือดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของกระทรวงระดับมณฑลของจีนเลยก็ตาม
จากผู้ที่หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย  “หวัง” ผู้ได้รับการทาบทามเข้าสู่วงการการเมืองตั้งแต่อายุ 40 ปี ทำงานด้านการเมืองภายใต้การปกครองของผู้นำจีนถึง 3 ยุค ไม่ว่าจะเป็น “เจียง เจ๋อหมิน” “หู จิ่นเทา” เรื่อยมาจนถึง ผู้นำจีนคนปัจจุบันอย่าง “สี จิ้นผิง” จนได้รับการขนานนามจากนักวิเคราะห์การเมืองจีนว่าเป็น “มันสมองเบื้องหลัง 3 ผู้นำสูงสุดจีน” เลยทีเดียว
เกิดในมณฑลซานตง มณฑลทางตะวันออกของจีน ด้วยความที่หวัง เป็นเด็กที่สุขภาพไม่แข็งแรงนัก จึงได้รับอนุญาตให้ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนเด็กคนอื่นๆในยุคปฏิวัติวัฒนธรรมนโยบายของผู้นำอย่าง เหมา เจ๋อตุง
ด้วยความเป็นเด็กเรียนดี มีโอกาสเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ และมีความสนใจในแนวคิดการเมืองแบบตะวันตก หลังเรียนจบปริญญาโท หวังกลายเป็นศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยฟู่ต้าน ที่อายุน้อยที่สุดด้วยอายุเพียง 30 ปีเท่านั้น และใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งคณะบดีคณะกฎหมาย
ในช่วงเวลาที่ชาวจีนหลายๆคนมองชาติตะวันตกเป็นแรงบันดาลใจหลังจีนเปิดประเทศในช่วงทศวรรษที่ 80 ทว่า หวังที่มีโอกาสเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาสองครั้ง มองว่าระบบการเมืองแบบชาติตะวันตกนั้นไม่ใช่ระบบที่เหมาะสมสำหรับประเทศจีน
ชื่อเสียงของหวัง โด่งดังมากขึ้นจนเป็นที่จับตาของวงการการเมืองจีนเมื่อเขาเป็นผู้นำทีมโต้วาทีมหาวิทยาลัยฟู่ต้าน เอาชนะ ทีมจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันไปได้อย่างขาดลอย 5 ต่อ 0 ในหัวข้อธรรมชาติของมนุษย์ดีหรือร้าย โดยทีมฟู่ต้านอยู่ในฝั่ง “ร้าย”
หวังได้รับการทาบทามเข้าสู่วงการการเมืองในช่วงกลางทศวรรษที่ 90  ในฐานะหัวหน้ากลุ่มการเมืองสำนักวิจัยนโยบายส่วนกลางในยุคประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน ก่อนก้าวขึ้นเป็นสมาชิกคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ ในเวลาต่อมา ในยุคประธานาธิบดีหู จิ่นเทา หวังก้าวขึ้นเป็นสมาชิกเลขาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์
ในยุคสี จิ้นผิง หวัง ยังคงได้รับเลือกให้ทำงานต่อไปแทนที่จะถูกกำจัดออกไปอย่างนักการเมืองระดับสูงหลายๆคนในยุคเปลี่ยนผ่านโดยในช่วงนี้หวังก้าวขึ้นขึ้นไปอีกในฐานะสมาชิกคณะกรรมการกรมการเมือง จำนวน 25 คน ก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นสมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมือง หรือโปลิตบูโร หลังการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ ครั้งที่ 19 ที่ผ่านมา
หวัง ปัจจุบันในฐานะผู้นำระดับสูงด้านคลังสมองรับผิดชอบด้านทฤษฎีและแนวคิด และหัวหน้าฝ่ายล่ามแปลภาษาให้กับประธานาธิบดีสี นับเป็นนักวิชาการคนสำคัญเบื้องหลังนโยบายต่างๆของจีน ที่นักวิเคราะห์ต่างมองว่ามีเบื้องหลังความสำเร็จ และความอยู่รอดทางการเมืองมาจากบุคลิกส่วนตัวที่สุภาพ อ่อนโยน รวมถึงแนวคิดทางการเมืองที่สนับสนุนอำนาจเบ็ดเสร็จของผู้นำนั่นเอง
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image