ตามทูตไทยไปเยือนลาว (1)

“ไทย-ลาว” ไม่เพียงแต่เป็นประเทศที่มีพรมแดนใกล้ชิดติดกัน แต่ยังเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีรากฐานทางวัฒนธรรม ภาษา และวิถีชีวิตอันใกล้เคียงกันมากที่สุดในบรรดาเพื่อนบ้านของไทยทั้งหมด เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ เอกอัครราชทูตไทยประจำสปป.ลาว ซึ่งเพิ่งมารับตำแหน่งสำคัญได้เพียงหนึ่งเดือนได้ถือโอกาสนำคณะเดินทางเพื่อศึกษาและส่งเสริมลู่ทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในสปป.ลาว และเพื่อนบ้านใกล้เคียง

ท่านทูตเกียรติคุณบอกว่า หลังจากมาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำสปป.ลาว จึงอยากเห็นสภาพภูมิประเทศและข้อเท็จจริงต่างๆ ด้วยตัวเอง ที่สำคัญที่สุดคืออยากมาดูธุรกิจของคนไทย 2 แห่ง คือโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนหงสาและโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ซึ่งเป็นโครงการลงทุนใหญ่ของไทยที่แต่ละโครงการมีมูลค่ามากกว่า 100,000 ล้านบาท โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่วนใหญ่ก็จะส่งขายไทย ถือเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับไทย จึงทำให้อยากมาศึกษา เพราะพลังงานถือเป็นเรื่องสำคัญของไทย

ขบวนรถของเราเริ่มการเดินทางจากจังหวัดน่าน ออกจากจุดผ่านแดนถาวรห้วยโก๋น ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมโยงจากไทยไปยังโรงไฟฟ้าหงสา ที่ตั้งอยู่ในเมืองหงสา แขวงไซยะบุรี ห่างจากพรมแดนจ.น่านเข้าไปเพียงราว 40 กิโลเมตร ถนนหนทางไปยังโรงไฟฟ้าเป็นถนนลาดยางอย่างดี ซึ่งทางบริษัทไฟฟ้าหงสาได้สร้างขึ้น เรานั่งชมความเขียวขจีสองข้างทางเพียงไม่นานก็เห็นปล่องขนาดใหญ่ 3 ปล่องอยู่ไกลๆ เบื้องหน้า ทำให้รู้สึกถึงความใหญ่โตของโรงไฟฟ้าหงสาขึ้นมาทันที ยิ่งเมื่อได้ทราบว่าพื้นที่ทั้งหมดของโรงไฟฟ้าหงสากินบริเวณถึง 76.2 ตารางกิโลเมตรก็ยิ่งตะลึงกับความกว้างใหญ่

บริษัทไฟฟ้าหงสามีบริษัทบ้านปูพาวเวอร์ จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 40 บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้งจำกัด(มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 40 และรัฐวิสาหกิจลาวถือหุ้นร้อยละ 20 โดยมีอายุสัมปทาน 25 ปี (2559-2584) มีกำลังการผลิต 1,878 เมกะวัตต์ ขายให้กับการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย 1,473 เมกะวัตต์ และรัฐวิสาหกิจลาว 100 เมกะวัตต์

Advertisement
ชมห้องควบคุม

แม้จะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากถ่านหิน แต่สภาพแวดล้อมของโรงไฟฟ้าหงสารวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงกลับเต็มไปด้วยสีเขียว ตลอดสองข้างทางในเมืองหงสาที่เราได้เห็นขณะขับรถผ่านเมืองไปยังบ้านนาแก่นคำ ซึ่งเป็นบ้านที่จัดสรรขึ้นใหม่ให้กับชาวบ้านที่ต้องย้ายออกจากพื้นที่ทำกินเดิม เห็นชัดว่าวิถีชีวิตและการทำมาหากินของชาวบ้านในเมืองหงสาผูกพันกับโรงไฟฟ้าหงสาซึ่งถือเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดโครงการหนึ่งเป็นอย่างมาก

ฟังบรรยายที่บ่อถ่านหิน

คณะได้ไปเยี่ยมชมห้องบังคับการของโรงไฟฟ้า บ่อถ่านหินลิกไนต์ที่เป็นพลังงานสำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้า ไปจนถึงการโยกย้ายจัดสรรที่อยู่ใหม่ให้กับชาวบ้าน ได้รับฟังแผนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะทำให้โรงไฟฟ้าหงสาเป็นโรงไฟฟ้าต้นแบบด้านพลังงานไฟฟ้าถ่านหินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และช่วยให้มีการพัฒนาสังคมแบบยั่งยืน

นายพอนสะหวัน ไซสมพัน รองเจ้าเมืองเมืองหงสา กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าหงสาเป็นต้นแบบของการทำงานที่ดีที่สุดโครงการหนึ่ง ทั้งสำหรับนักธุรกิจ นักลงทุน และราษฎรในพื้นที่ เมืองหงสาได้รับประโยชน์อย่างมาก จากการที่มีโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้ตั้งอยู่ ซึ่งทำให้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ประชาชนมีรายรับเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังนับเป็นผลงานที่น่ายินดีที่ได้มีการร่วมมือกันเพื่อการพัฒนาสิ่งแวดล้อม ขณะที่ระบบการตรวจตราและตรวจสอบก็เป็นไปด้วยดีเช่นกัน ปัญหามลพิษมีน้อย ประชาชนก็มีความมั่นใจ จากเดิมที่ประชาชนในพื้นที่จะย้ายออกไปทั้งหมด แต่อยู่ไปบางครอบครัวบอกว่าจะไม่ย้าย ขณะที่บางคนยังมาจับจองพื้นที่เพื่อพัฒนาธุรกิจอีก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นกับการพัฒนาที่เกิดขึ้น

Advertisement
พอนสะหวัน ไซสมพัน

นายคทายุทธ์ ชูพูล กรรมการผู้จัดการบริษัทไฟฟ้าหงสา จำกัด กล่าวว่า แนวทางการทำงานที่่บริษัทยึดมั่นมาตลอดคือต้องเข้าใจในนโยบายภาครัฐของสปป.ลาว และเข้าใจถึงทิศทางการลงทุน รวมถึงผู้ถือหุ้น ถ้าสองอย่างนี้ไม่ชัดเจนโครงการใหญ่เช่นนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้ ประการต่อมาก็คือความเชื่อมั่นของแหล่งเงินกู้ ซึ่งความเชื่อมั่นดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมาจากเสถียรภาพของธุรกิจ ขณะเดียวกันธรรมาภิบาลจากบริษัทแม่ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งด้วยเช่นกัน

คทายุทธ์ ชูพูล

เมื่อถามว่าอะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การลงทุนในลาวประสบความสำเร็จ นายคทายุทธ์กล่าวว่า นโยบายภาครัฐต้องมีความชัดเจนมั่นคง เช่นเดียวกับแผนการทำธุรกิจก็ต้องชัดเจนว่าจะมาลงทุนประเภทไหน ลูกค้าคือใคร ต้องแยกแยะสิ่งที่จะเป็นปัญหาในการดำเนินโครงการให้ชัดเจน นอกจากนั้นต้องลดผลกระทบต่อชุมชนข้างเคียง ซึ่งทางบริษัทไฟฟ้าหงสาก็ทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง การเกิดปัญหาระหว่างการทำธุรกิจเป็นเรื่องปกติ แต่เราต้องมีคำอธิบายชี้แจง ที่สุดก็จะทำให้เกิดความเข้าใจ

นายคทายุทธ์บอกว่า ที่สำคัญคือนักลงทุนไม่ว่าจะไปลงทุนที่ไหนต้องมีความตรงไปตรงมา ซึ่งบริษัทไฟฟ้าหงสายึดมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางเช่นนี้มาโดยตลอด แน่นอนว่าในการทำธุรกิจเป็นเรื่องที่ต้องได้มาซึ่งผลประกอบการเป็นที่พอใจ แต่นั่นไม่ใช่ความสำเร็จสูงสุด หากได้มาแล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ไม่ถือเป็นความสำเร็จ และที่จะลืมไม่ได้คือบุคลากรของบริษัทซึ่งเรามีพันธกิจต้องทำให้เขามีความรู้ความชำนาญในการดำเนินงานและปฏิบัติงานทั้งในส่วนของโรงไฟฟ้าและเหมืองแร่ เพราะเราเชื่อว่าวิสัยทัศน์องค์กรไม่สามารถสร้างจากคนข้างนอกได้ แต่ต้องสร้างจากคนข้างใน

กรรมการผู้จัดการบริษัทไฟฟ้าหงสาบอกด้วยว่า ผู้ที่ต้องการจะเข้ามาทำธุรกิจในลาวต้องมีเข้าใจรอบด้าน อย่าคิดเพียงว่ามีเงินก็มาลงทุนได้ เพราะเงินไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง บางอย่างเป็นเรื่องที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นซึ่งบางครั้งไม่ต้องใช้เงิน นักธุรกิจที่เข้าไปทำงานในประเทศต่างๆ ต้องเข้าในพื้นฐานวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ให้ดี แล้วเราจะอยู่กับเขาได้อย่างสนิทใจ

กว่า 3 ปีของการเดินเครื่องเพื่อผลิตและจำหน่ายไฟจากโรงไฟฟ้าหงสา ทำให้เห็นผ่านความจริงที่ปรากฎตรงหน้าว่า โครงการขนาดใหญ่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริง ตราบที่ทุกฝ่ายมีความจริงใจและมุ่งมั่นผลักดันให้การพัฒนาช่วยให้ทุกฝ่ายเดินหน้าไปได้พร้อมๆ กัน

หลังจากเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าหงสา คณะของสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสปป.ลาว ก็มุ่งหน้าต่อไปยังโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี หนึ่งในโครงการที่ถือว่ามีการพูดถึงและได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image