นายเจอโรม พาเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวระหว่างการไต่สวนรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมการบริการทางการเงินของรัฐสภาสหรัฐ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า การที่สหรัฐตั้งกำแพงภาษีกับชาติคู่ค้าอื่นๆได้ส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจของสหรัฐแล้ว
โดยพาเวลล์ระบุว่า เฟดได้รับเสียงสะท้อนจากภาคธุรกิจถึงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว และมีหลายบริษัทที่เสียหายจากการตั้งกำแพงภาษี ซึ่งความกังวลดังกล่าวก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนจากนักลงทุนต่อไป
รายงานระบุว่าในวันเดียวกันเฟดได้เผยแพร่ผลการสำรวจภาคธุรกิจทั่วประเทศด้วยและพบว่า มีรายงานราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น และเกิดการติดขัดของห่วงโซ่อุปทานในระบบเกิดขึ้นแล้ว
ทั้งนี้สหรัฐอเมริกาได้ตั้งกำแพงภาษีระดับสูงกับสินค้านำเข้าจำนวนมหาศาลจากประเทศจีน และขู่ที่จะตั้งกำแพงพาษีเพิ่มขึ้นอีก นอกเหนือไปจากการตั้งกำแพงพาษีสำหรับเหล็กและอลูมิเนียม นโยบายซึ่งส่งผลให้ชาติพันธมิตรของสหรัฐไม่พอใจและเกิดการตั้งกำแพงภาษีตอบโต้ขึ้นตามมา