‘ปู ไปรยา’ เยี่ยมผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาในฐานะทูตสันถวไมตรี ยูเอ็นเอชซีอาร์

ปู-ไปรยา ลุนด์เบิร์ก ยังคงเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ทูตสันถวไมตรีให้กับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) โดยล่าสุดระหว่างวันที่ 8-10 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ปู ไปรยาได้เดินทางไปยังประเทศบังกลาเทศเพื่อลงพื้นที่เยี่ยมผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาในค่ายกูตูปาลอง ซึ่งรองรับจำนวนผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาถึง 900,000 คน ถือเป็นค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก สืบเนื่องจากวิกฤตในวันที่ 25 ส.ค.2560 ที่ผลักดันให้ชาวโรฮีนจาต้องหนีเข้ามาขอที่พักพิงถึง 725,000 คน จนถึงปัจจุบัน 1 ปีผ่านไปยังมองไม่เห็นอนาคตสำหรับพวกเขา

นี่เป็นการเดินทางเยี่ยมผู้ลี้ภัยในต่างประเทศครั้งที่ 2 ของปู ไปรยา จากคราวที่แล้วที่ได้พบผู้ลี้ภัยซีเรียในประเทศจอร์แดน แต่เมื่อได้เห็นเหตุการณ์ชาวโรฮีนจา ปู ไปรยาพบว่าพวกเขาตกอยู่ในสภาพที่น่าเห็นใจอย่างยิ่ง ร้อยละ 55 ของประชากรคือเด็ก และจำนวนมากคือเด็กที่เป็นผู้นำครอบครัว หลายคนเจอความโหดร้ายมาตลอดชีวิต ถูกกดขี่ ล่วงละเมิด สูญเสียคนในครอบครัว พลัดพราก และบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ โดย 1 ใน 3 ของครอบครัวจะมีผู้ที่เปราะบางและต้องการความช่วยเหลือเฉพาะด้าน

Advertisement

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ปู ไปรยาได้พบกับครอบครัวชาวโรฮีนจา เช่น ครอบครัวอาราฟ่า ที่หนีกันมา 3 คนพ่อแม่ลูก นางอาราฟ่าเล่าให้ปูฟังว่า ญาติของเธอทุกคนถูกจับขังคุก ตัวเธอเคยถูกทำร้าย รู้สึกหวาดกลัวจึงตัดสินใจหนี

“ตอนนี้ไม่กล้ากลับบ้าน ที่นั่นมีแต่ความน่ากลัว ฉันยอมตายดีกว่ากลับไป” อาราฟ่ากล่าว

Advertisement

เมื่อมาถึงค่ายกูตูปาลอง อาราฟ่ายังคงฝันร้าย แต่เธอได้รับความคุ้มครองจากยูเอ็นเอชซีอาร์จัดหาที่พักพิงให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกันอย่างปลอดภัย

ถึงแม้วิกฤตจะเกิดขึ้นมา 1 ปีแล้ว แต่ปูยังได้พบกับชาวโรฮีนจาที่เพิ่งหนีเข้ามาได้เพียง 12 วัน เธอชื่อราเบีย ที่เล่าให้ปูฟังว่า เธออดทนที่จะอยู่ไม่ยอมลี้ภัยทั้งๆ ที่เดินทางไปไหนก็ไม่ได้ หาอาหารก็ไม่ได้ เธอรอจนลูกของเธออายุได้ 1 ขวบจึงลี้ภัยพร้อมหลายครอบครัว ใช้เวลาเดินเท้า 7 วัน ระหว่างนั้นเธอก็พลัดหลงจากญาติๆ ไม่มีอาหาร แล้วเรื่องน่าสลดก็เกิดขึ้น ลูกวัย 1 ขวบของเธอเสียชีวิตในอ้อมกอดของราเบีย เธออดทนเดินทางต่อจนถึงค่ายกูตูปาลอง ราเบียยังคงโศกเศร้าจากการสูญเสียลูกของเธอ ยูเอ็นเอชซีอาร์ช่วยฟื้นฟูจิตใจและติดตามหาญาติให้ครอบครัวได้กลับมาปลอบประโลมใจเธออีกครั้ง

ค่ายกูตูปาลองตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อดินโคลนถล่ม พายุฝน ความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาที่นี่จึงไม่ได้มั่นคง ปลอดภัยมากนัก แต่พวกเขาจำเป็นต้องออกมา หนีจากความทุกข์ยากที่มีมาตั้งแต่เกิด ถึงแม้ประเทศบังกลาเทศ ประสบปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ และมีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก แต่ยังรองรับผู้ลี้ภัยเกือบ 1 ล้านคน ปูขอขอบคุณรัฐบาลบังกลาเทศในความโอบอ้อมอารีมา ณ ที่นี้

ปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮีนจา มีความซับซ้อน อ่อนไหว และต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย ปูชื่นชมการทำงานของยูเอ็นเอชซีอาร์ที่ดูแลชาวโรฮีนจาอย่างรอบด้าน ทั้งเยียวยาจิตใจ ช่วยเหลือด้านการแพทย์ การศึกษา แม้กระทั่งการรักษาสิ่งแวดล้อม ปลูกป่าและสอนการอยู่กับช้าง เพื่อสร้างความกลมเกลียวต่อการอยู่ร่วมกันกับชุมชนในพื้นที่

ภาพชาวโรฮีนจาที่ปูเห็นในข่าวเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทำให้ปูติดต่อยูเอ็นเอชซีอาร์โดยไม่รู้จักใครเลย เพื่อแสดงความจริงใจที่อยากมอบความช่วยเหลือ วันนี้ปูได้พบชาวโรฮีนจาจริงๆ ทำให้ปูชื่นชมในความเข้มแข็งและกล้าหาญของพวกเขาที่ปูสัมผัสได้ด้วยใจ

“ไม่มีมนุษย์คนไหนเกิดมาแล้วอยากเป็นผู้ลี้ภัย ต้องมาขออาศัยในประเทศอื่น และมีชีวิตอย่างยากลำบาก ปูจึงขอเชิญชวนทุกคนมอบความเห็นใจและสนับสนุนผู้ลี้ภัย รวมทั้งการทำงานของยูเอ็นเอชซีอาร์ซึ่งเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉลี่ยยูเอ็นเอชซีอาร์ใช้เวลาเกือบ 20 ปีกว่าจะแก้ปัญหาให้ผู้ลี้ภัยได้ ปูยังคงมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทูตสันถวไมตรีของยูเอ็นเอชซีอาร์ต่อไป การลงพื้นที่ในแต่ละครั้งมอบความทรงจำและพลังในการที่ปูต้องทำงานหนักต่อไปเพื่อเพื่อนมนุษย์ของเราค่ะ” ปู ไปรยากล่าว

ทั้งนี้ ปู ไปรยา ลุนด์เบิร์ก ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทูตสันถวไมตรีของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาติ หรือยูเอ็นเอชซีอาร์ ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2560 เป็นคนแรกในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิกที่ได้รับตำแหน่งนี้ โดยมีหน้าที่หลักในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ผู้ลี้ภัย พัฒนาความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกต่อชีวิตของผู้ลี้ภัยในระยะยาว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image