เมื่อวันที่ 27 เมษายน สำนักข่าวต่างประเทศรอยเตอร์รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ กวาดชัยชนะไปได้ทั้ง 5 รัฐในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ รัฐเพนซิลวาเนีย, แมรีแลนด์, คอนเนตทิคัต, โรดไอส์แลนด์ และ เดลาแวร์ ในการเลือกตั้งขั้นต้นระบบไพรมารีของพรรครีพับลิกันที่มีขึ้นพร้อมกันเมื่อวันที่ 26 เมษายน เพื่อหาบุคคลเป็นตัวแทนพรรคไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้ ขณะนางฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กวาดชัยไปได้ 4 จาก 5 รัฐข้างต้นในการเลือกตั้งภายในพรรคเดโมแครตที่มีขึ้นวันเดียวกัน ยกเว้นรัฐโรดไอส์แลนด์ที่ชัยชนะตกเป็นของ เบอร์นีย์ แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์ คู่แข่งที่เผชิญแรงกดดันมากขึ้นให้เขาถอนตัวออกไปจากการแข่งขัน

โดยคะแนนเสียงเดลิเกตที่มีการชิงชัยใน 5 รัฐดังกล่าวของพรรครีพับลิกันมีรวมกันทั้งสิ้น 118 เสียงนั้น ทรัมป์ได้ไป 105 เสียง อีก 5 เสียงเป็นของ จอห์น คาซิช ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ และ เท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกรัฐเท็กซัสได้ไป 1 เสียง ที่เหลืออีก 7 เสียงยังไม่มีการระบุ ส่งผลให้ทรัมป์สะสมคะแนนเดลิเกตได้แล้ว 950 เสียง ยังคงขาดเพียง 287 เสียงเท่านั้น ก็จะได้ถึง 1,237 เสียงตามข้อบังคับพรรคกำหนดที่จะทำให้ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันไปสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ทว่าชัยชนะของทรัมป์ก็ใช่ว่าจะทำให้เขาได้รับการเลือกจากสมาชิกพรรครีพับลิกันให้ได้เป็นตัวแทนพรรค ในการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันที่จะมีขึ้นที่เมืองคลีฟแลนด์ ในรัฐโอไฮโอในเดือนกรกฎาคมนี้ ที่ถูกมองว่าเป็นโอกาสเดียวทั้งของครูซและคาซิชที่จะได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรค

ส่วนชัยชนะของฮิลลารีใน 4 รัฐ ส่งผลให้ฮิลลารีมีคะแนนเดลิเกตอยู่ในมือแล้ว 2,141 เสียง ขาดเพียง 242 เสียงก็จะได้คะแนนเสียงเดลิเกตครบ 2,383 เสียงตามข้อกำหนดที่จะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต อย่างไรก็ดี แม้ทราบผลแต่แซนเดอร์สยังไม่มีทีท่าที่จะยอมถอนตัวออกจากการแข่งขัน โดยแซนเดอร์สกล่าวว่า ประชาชนทุกรัฐในประเทศนี้ควรมีสิทธิที่จะตัดสินว่าอยากให้ใครเป็นประธานาธิบดี นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราจะต้องอยู่ในการแข่งขันไป จนกว่าจะมีการลงคะแนนเสียงสุดท้าย

ภายหลังการคว้าชัย ทั้งทรัมป์และฮิลลารีต่างโจมตีใส่กันอีก โดยทรัมป์กล่าวที่ ทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนครนิวยอร์ก ว่า ฮิลลารีมีข้อบกพร่องและกำลังจะพ่ายแพ้ได้อย่างง่าย ทั้งยังวิพากษ์ฮิลลารีสมัยเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐและวุฒิสมาชิกรัฐนิวยอร์กที่สนับสนุนสงครามอิรัก และว่า ข้อได้เปรียบของฮิลลารีมีอยู่ประการเดียวคือ เป็นผู้หญิง ที่ต้องการเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐ

ส่วนฮิลลารีโต้กลับทรัมป์ที่งัด”ไพ่ผู้หญิง”ขึ้นมาโจมตีตนเองว่า “หากการต่อสู้เพื่อผู้หญิงทั้งในด้านสุขภาพ การลาหยุดเพื่อครอบครัวที่ยังได้ค่าจ้างและค่าจ้างที่เท่าเทียมกัน แล้วถือเป็นการเล่นไพ่ผู้หญิง ก็ว่ามาเลย” นอกจากนี้ ฮิลลารียังชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในความเป็นเอกภาพของพรรคเดโมแครตในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหญ่ ว่า ไม่ว่าจะสนับสนุนแซนเดอร์สหรือตนเอง พรรคเดโมแครตจะต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวกันมากกว่าการแบ่งแยก